รีวิว Luther The Fallen Sun ซีรีส์ที่ปรับมาเป็นหนังเล่าเร็วทันใจ แต่ข้ามรายละเอียดเหตุผลไปเยอะ (ไม่สปอยล์)
Luther: The Fallen Sun
Summary
หนังที่ทำต่อจากซีรีส์ของอังกฤษที่มีมาแล้ว 5 ซีซั่นแต่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในบ้านเรานัก มี Idris Elba เป็นดารานำที่จดจำจากบทนี้ แต่ก็ไม่มีปัญหากับการรับชมเพราะเรื่องราวขึ้นต้นใหม่และมีเล่าความสัมพันธ์กับตัวละครเก่าให้เข้าใจได้ ตัวเรื่องมีพล็อตที่เว่อร์มากโดยให้คนร้ายเป็นฆาตกรต่อเนื่อง Live สดระดับโลก แต่ก็ไม่ได้มีฉากแอ็กชั่นอะไรมากมาย เน้นการสืบสวนโชว์ไหวพริบของตัวเอกลูเธอร์ที่ไขปริศนาติดตามคนร้ายได้ในทันที ทำให้เรื่องไปไวมากแบบติดจรวด ซึ่งทำให้ดูสนุกทันใจดี แต่ก็ละเลยการสร้างเหตุผลแรงจูงใจหลายๆ อย่างของคนร้ายและเหยื่อที่แทบไม่มีรายละเอียดอะไรให้เห็นเลยว่ายอมทำตามคนร้ายได้ยังไง ตัวเรื่องจึงเหมือนเขียนมาเพื่อให้ดูความเก่งของพระเอกแค่นั้นพอ โดยที่ละทิ้งเหตุผลหลายๆ อย่างไปเลยจนดูไม่ค่อยสมจริงเท่าไหร่นัก แล้วก็จบแบบเตรียมสร้างต่อเป็นแฟรนไชนส์ยาวๆ ของ Netflix ต่อไปครับ
Overall
6.5/10User Review
( vote)Pros
- เป็นซีรีส์มาก่อน 5 ซีซั่น
- Idris Elba เป็นดารานำ
- คนร้ายก่อคดีได้เว่อร์มาก
- เดินเรื่องเร็วมาก
- มีพากย์ไทย
Cons
- เล่าแบบข้ามๆ ขาดดีเทลรายละเอียดเหตุผลหลายอย่างของคนร้าย
- บางฉากตัวเอกก็ดูเว่อร์ๆ เกินจริงไปมาก
ลูเธอร์: อาทิตย์ตกดิน (Luther The Fallen Sun) ภาพยนตร์ Netflix แนวสืบสวน เรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่องสุดโหดที่เข้ามาก่อความวุ่นวายในลอนดอน ในขณะที่จอห์น ลูเธอร์ ตำรวจนักสืบผู้ปราดเปรื่องกำลังติดอยู่ในคุก ลูเธอร์ตัดสินใจแหกคุกเพื่อออกมาจบงานนี้ให้ได้ไม่ว่าต้องแลกกับอะไรก็ตาม
รีวิว Luther The Fallen Sun
Luther เดิมเป็นซีรีส์โทรทัศน์แนวสืบสวนอาชญากรรมของอังกฤษ มีทั้งหมด 5 ซีซั่น นำแสดงโดย Idris Elba ในบทสารวัตร John Luther กำกับและเขียนบทเขียนโดย Neil Cross โดยเวอร์ชั่นภาพยนตร์นี้ก็ยังเป็นทีมสร้างเดิม แค่เปลี่ยนผู้กำกับเป็น Jamie Payne ตัวซีรีส์เองไม่ค่อยมีคนรู้จักในบ้านเรา แต่คะแนนนิยมในอังกฤษถือว่าดีมาก แล้วก็ส่งผลให้นักแสดง Idris Elba เป็นที่จดจำจากบทนี้
ซีรีส์ชุดนี้มี 5 ซีซั่นก็จริง แต่ซีซั่นมักเป็นแค่ตอนสั้นๆ 2-4 ตอนจบ ยกเว้นซีซั่นแรกมี 6 ตอน ซึ่งการมาทำเป็นภายนตร์ 2 ชั่วโมงก็แทบไม่ต่างอะไรกับซีรีส์ที่ทำมาก่อนเลย เรียกว่าเป็นการปรับเปลี่ยนยุบรวมตอนสั้นๆ ให้มาเป็นภาพยนตร์มากกว่า แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหากับผู้ชมที่ไม่เคยดูมาก่อน เพราะตัวเรื่องก็มีเล่าความสัมพันธ์กับตัวละครเก่าให้เห็นแบบเข้าใจได้ แต่ก็ขึ้นเรื่องใหม่ไม่ได้มีความค้างคาจากเรื่องราวในซีรีส์ก่อนนี้
เนื้อเรื่องภาคนี้เริ่มจากลูเธอร์ติดคุกขณะที่กำลังสืบคดีคนหายไป โดยคนร้ายในเรื่องเป็นคนวางแผนให้เขาติดคุกเพื่อไม่ให้สืบตามรอยมาได้ แต่เรื่องก็ให้ลูเธอร์คุกออกมาตามล่าคนร้าย ในขณะที่ตัวคนร้ายเองก็สร้างสถานการณ์ฆาตกรรมใหญ่โตให้โลกดูแบบ Live สด โดยที่ลูเธอร์ก็ต้องตามล่าฆาตกรขณะที่หลบหนีการจับกุมตำรวจที่ตามล่าคนร้ายคดีนี้ไปด้วยกัน
ด้วยความที่พล็อตเรื่องเว่อร์วังมาก แต่มาทำลงสตรีมมิ่งที่คงมีงบจำกัด ฉากแอ็กชั่นก็เลยไม่ได้มีอะไรเว่อร์มากตามพล็อต แต่ไปเน้นที่ตัวบทกับการดำเนินเรื่องที่เล่าแบบไปเร็วมากๆ โดยใช้ความเก่งกาจของลูเธอร์ที่สืบแปบๆ ก็ตามคนร้ายเจอทันที ก่อนที่เรื่องจะรีบเผยว่าคนร้ายคือใคร ต้องการอะไร ซึ่งการเล่าเรื่องเร็วแบบนี้มันก็ดีตรงทันใจคนดู แต่อีกมุมมันก็รู้สึกว่าไปไวเกินมาก ตัวเรื่องควรมีรายละเอียดมากกว่านี้ เหมาะกับการทำซีรีส์มากกว่า เพราะดีเทลหลายๆ อย่างแทบจะข้ามๆ ไปเลยอย่างคนร้ายมีแรงจูงใจแรกคืออะไร ทำไมถึงทำเรื่องพวกนี้ได้อย่างอลังการมาก และหลายอย่างก็ยังดูไม่สมเหตุผลว่าเป็นไปได้ยังไง เหยื่อที่ถูกแบล็คเมล์มาแต่ละคนก็ไม่มีรายละเอียดใดๆ ให้เห็น ทั้งเรื่องเลยมีแต่การโชว์ความสามารถสืบสวนแบบเห็นปุ๊บคิดออกปั๊บของลูเธอร์เพียงอย่างเดียว จนดูเหมือนบทเขียนมาแบบลวกๆ แค่ใช้ความเว่อร์วังของคนร้ายที่จัด Live สดฆ่าเหยื่อมาขายเท่านั้น
ตัวเรื่องพยายามทำให้ตัวเอกมีปมกับหัวหน้าตำรวจคนใหม่ที่ไม่ได้รู้จักลูเธอร์ แล้วมองว่าเขาคือตำรวจเลว ก่อนที่จะโดนบีบจากคนร้ายจนทำให้ต้องมาร่วมมือกัน แล้วก็ทำให้เห็นอีกด้านว่าลูเธอร์เองเป็นตำรวจดีที่มีนิสัยทำอะไรห่ามๆ เท่านั้นเอง ซึ่งก็เหมือนเป็นการแนะนำตัวละครลูเธอร์ให้ผู้ชมที่ไม่เคยดูได้รู้จักแบบอ้อมๆ นั่นเอง
ตัวเรื่องจบแบบทิ้งท้ายไว้ว่ามีทำต่ออีก ซึ่งจากที่ดู Netflix ก็คงดีลให้เรื่องนี้กลายมาเป็นแฟรนไชนส์ประจำของที่นี่นั่นเอง ซึ่งรวมๆ แล้วก็ถือเป็นแนวสืบสวนที่สนุกพอตัว และก็มีเสน่ห์จากนักแสดงที่เหมาะกับบทบาทนี้มากที่สุดครับ (แต่ความจริง Netflix น่าจะดีลเอาซีรีส์มาให้ครบด้วยเลยจะดีกว่า)