รีวิว Monarch: Legacy of Monsters เล่าเรื่องเติมเต็มโลกมอนสเตอร์ก็อดซิลล่าได้อย่างยอดเยี่ยมมาก!

Monarch: Legacy of Monsters จากจักรวาลก็อดซิลล่ามาเป็นซีรีส์ Apple Tv+ 10 ตอนจบซีซั่น 1 เรื่องราวการกำเนิดองค์กร Monach ที่ย้อนอดีตไปยังจุดเริ่มต้นในปี 1952 ของ 3 นักสำรวจผู้ค้นพบสัตว์ประหลาดยักษ์ Titan และพยายามก่อตั้งองค์กรลับนี้ขึ้นมา ในขณะที่ปัจจุบันโลกในปี 2015 ที่เปลี่ยนไปมากหลังเผชิญหน้ากับวันที่ก็อดซิลล่ากับ MUTO บุกซานฟรานซิสโก โดยมนุษย์ชาติเรียกวันนี้ว่า G-Day โดยมีครูสาวที่ตกเป็นเหยื่อในวันนั้นกำลังสืบหาพ่อที่หายตัวไปในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งการตามหาพ่อเชื่อมโยงถึงความลับของครอบครัวและจุดกำเนิดองค์กรลับนี้ด้วย

รีวิว Monarch: Legacy of Monsters 10 ตอน (ไม่มีสปอยล์ความลับสำคัญ)

ซีรีส์จาก Brian Rogers โปรดิวเซอร์ของจักรวาลก็อดซิลล่าฮอลลีวูดมาทุกภาค โดยเป็นโปรเจ็กต์ที่มาเพื่อขยายความลับขององค์กร Monach ในหนังโรงโดยเฉพาะ ซึ่งในหนังแทบไม่มีเวลาได้เล่าความเป็นมาใดๆ และก็คงเล่าไม่ได้ด้วยเพราะมันคือหนังก็อดซิลล่ากับคองโดยเฉพาะ ซึ่งผู้ชมก็ไม่ได้อยากมานั่งดูเรื่องราวของมนุษย์กันมากอยู่แล้ว นี่จึงเป็นซีรีส์ที่เน้นเล่าเรื่องของมนุษย์เป็นหลัก โดยมีสัตว์ประหลาดยักษ์เป็นส่วนเสริมที่น้อยนิดเท่านั้น    

การดำเนินเรื่องในซีรีส์แบ่งเป็น 2 ช่วงอดีตในปี 1952 กับปัจจุบันในปี 2015 โดยตัวละคร 3 ตัวในอดีตคือ Lee Shaw (เล่นโดย Wyatt Russell ) ทหารที่ถูกส่งมาคุ้มครอง Dr. Keiko Miura (เล่นโดย Mari Yamamoto) และได้พบกับ Bill Randa (เล่นโดย Anders Holm) ที่กำลังไล่ตามหาสิ่งลึกลับในตำนาน และได้พบเข้ากับสัตว์ประหลาด Titan เป็นครั้งแรก และก็พยายามหาทุนวิจัยจากรัฐบาลอเมริกาเพื่อก่อตั้งองค์กรที่มาศึกษาเจ้าสิ่งนี้เพื่อป้องกัยภัยให้โลกแบบลับๆ 

ส่วนในปี 2015 เรื่องถ่ายทอดความเปลี่ยนไปของโลกหลังวัน G-Day ที่มนุษย์ชาติรู้แล้วว่ามีภัยร้ายที่ทำลายโลกได้ทุกเมื่อเกิดขึ้น องค์กร Monach ก็ยังเป็นความลับปิดบังไว้ ตัวละครในช่วงนี้คือ Cate Randa (เล่นโดย Anna Sawai) เป็นตัวละครเดิมที่เป็นครูสาวในเหตุการณ์รถนักเรียนตกสะพานในหนังก็อดซิลล่าปี 2014 กำลังตามหาพ่อที่หายตัวไปและคิดถึงกลุ่มคนที่มีสัญลักษณ์ประหลาด (Monach) ที่ได้เจอในวันนั้นว่าเป็นคือเบาะแสที่ใช้ตามหาพ่อได้ ทำให้เธอได้มาเจอกับ Kentaro Randa (เล่นโดย Ren Watabe) น้องชายคนละแม่ของเธอที่ญี่ปุ่น และ May (เล่นโดย Kiersey Clemons) เพื่อนสาวชาวอเมริกันที่เป็นแฮกเกอร์มาอาศัยอยู่ในโตเกียว

เนื้อเรื่องทั้ง 2 ช่วงนี้จะถูกเล่าสลับไปมาตลอดเวลา โดยสัดส่วนเนื้อหาของอดีตจะสั้นกว่ามาก เพราะเป็นช่วงความลับสำคัญของเรื่องโดยตรง ทั้งวิธีการตามหา Titan ในอดีต ความเป็นมาของ Monach ที่มีอุปสรรคจากงบประมาณรัฐบาลที่ยุคนั้นยังอยู่ในช่วงแข่งขันกับโซเวียตไปดวงจันทร์ และเป็นช่วงที่อเมริกาคิดว่ามีอาวุธระเบิดปรมาณูที่สามารถทำลายล้างได้ทุกอย่างในโลก ทำให้ทิศทางของ Monach ไม่ตรงตามเจตนาของทั้ง 3 คน และยังมีความลับในเรื่องรักสามเส้าที่ส่งผลมายังเนื้อเรื่องช่วงปัจจุบันว่าใครคือปู่ของตัวละครชุดนั้น ซึ่งเนื้อเรื่องค่อนข้างกั๊กทุกไว้มากทั้ง 10 ตอน มีตัดฉากมาสั้นๆ แล้วก็ทำให้ทุกอย่างคลุมเครือต่อเนื่อง หรือใช้วิธีข้ามการเฉลยเหตุการณ์บางอย่างไปเลย จนผู้ชมอาจจะคิดว่าซีรีส์ตัดตัวละครนั้นทิ้ง แต่ความจริงคือถูกเก็บไว้และนำมาเฉลยในตอนหลังอีกหลายตอน ซึ่งผู้ชมต้องดูจนจบถึงจะต่อเรื่องได้ทั้งหมดครับ

ส่วนเนื้อเรื่องในปัจจุบันค่อนข้างให้เวลาเยอะกว่ามาก การพบเจอ Titan จะน้อยกว่า เพราะไปเน้นไปที่การไขปมปริศนาความลับของครอบครัว ที่พ่อเป็นนักวิทยาศาสตร์ของ Monach แล้วหายตัวไป ทำให้ทั้งเคทและเคนทาโร่ต้องออกตามหา โดยมีเบาะแสทิ้งไว้เรื่อยๆ จากห้องทำงานเก่าของพ่อหรือเอกสารความลับที่หลุดรอดมาจากเกาะกระโหลกของที่โผล่มาสั้นๆ ในตอนแรก โดยเชื่อมโยงมาจากตัวละคร  Bill Randa ใน Kong: Skull Island ซึ่งมี May แฟนสาวของเคนทาโร่คอยช่วยแกะถอดรหัสความลับต่างๆ แต่ตัวเธอเองก็มีความลับสำคัญปิดบังซ่อนเร้นไว้ ซึ่งเกี่ยวพันถึงหนังก็อดซิลล่าฉบับโรงอีกที และการตามหาพ่อทำให้พวกเขาต้องเจอกับทีมงานของ Monach ที่ส่งมาไล่ล่าเพื่อเก็บความลับไว้

ข้อดีของเนื้อเรื่องปัจจุบันคือ การได้เห็นผลกระทบจากก็อดซิล่าในสังคมคนตัวเล็กๆ อย่างเคทที่กลายเป็นโรค PTSD จากเหตุการณ์ครั้งนั้น การพูดถึงข่าว G-Day ว่ายังมีคนไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง การเตรียมรับมือของรัฐบาลที่มีหลุมหลบภัย ป้ายกับระบบแจ้งเตือนผ่านมือถือ การปิดกั้นพื้นที่เกิดเหตุในซานฟรานซิสโกที่กลายเป็นเมืองร้างไปแล้ว และกลายเป็นสถานที่มีแต่คนจะเข้าไปหาประโยชน์ลักลอบเข้าไป รวมถึงพัฒนาการขององค์กร Monach ในตอนนั้นที่ยังเป็นองค์กรลับไม่ได้เปิดเผยแก่โลก รวมถึงยังเฉลยที่มาของบริษัท Apex Cybernetics ที่สร้าง Mechagodzilla อีกด้วย โดยมีตัวละคร Lee Shaw ในวัย 90 ที่มีปริศนาความลับเรื่องอายุของเขา และตัวละครนี้เล่นโดย Kurt Russell ที่เป็นพ่อจริงๆ ของ Wyatt Russell ที่เล่นเป็นเขาในวัยหนุ่มได้อย่างเนียนมาก โดยไม่ต้องพึ่ง CG แต่อย่างใด 

การเล่าเรื่องแบบตัดสลับไปมาในส่วนอดีตนี่แทบไม่มีปัญหาใดๆ เลย แม้จะมีฉากน้อยกว่า แต่การมาทุกครั้งคือสิ่งที่ผู้ชมต้องการทั้งนั้น โดยมีฉากที่เจอ Titan มากกว่า รวมถึงการเจอกับก็อดซิลล่าโดยตรงที่ซีรีส์ทำให้เห็นว่าทำไมต้องมี Monach เพราะอาวุธทำลายล้างอย่างปรมาณูก็เคยถูกใช้กับมันมาก่อนแล้ว แต่ปัญหาของเรื่องนี้อยู่ที่เนื้อเรื่องปัจจุบันที่ค่อนข้างลากยาวกับปัญหาครอบครัว ซึ่งเนื้อเรื่องค่อนข้างอืดในช่วงกลางเรื่องหลายตอน เป็นช่วงดรอปลงจนดูน่าเบื่อ โดยที่การตัดสลับไปอดีตก็ถูกเล่าแบบข้ามจุดสำคัญของเรื่องหลัง Dr. Keiko หายตัวไปในตอนแรกที่ปริศนาทิ้งค้างไว้ (เรื่องในอดีตหลังจากนั้นคือเหตุการณ์ก่อนตอนแรก) ทำให้เรื่องดูแล้วไม่ต่อเนื่องว่าเกิดอะไรขึ้น จนถึงช่วงหลังตอน 9-10 ถึงมาเฉลย ซึ่งก็คาดเดาได้ไม่ยากด้วย ทำให้ความลับส่วนนี้ที่ถูกนำมาเฉลยในปัจจุบันไม่ได้พีคมากนัก แต่ก็มีส่วนพีคที่ตอนจบปิดท้ายที่จะเชื่อมยังไปหนังก็อดซิลล่าภาคต่อไปครับ (ดูสปอยล์ตอนท้ายบทความ)

ในด้าน CG ด้วยความที่แอปเปิลไม่ได้เปิดเผยงบการสร้าง แต่ก็คาดเดาว่าน่าจะสูงมากที่สุดเลยก็ว่าได้ แม้ฉากสัตว์ประหลาดจะไม่เยอะมาก ประมาณ 20% ของเรื่อง ในแต่ละตอนไม่แค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น แต่ภาพที่ออกมาคือระดับเดียวกับภาพยนตร์ฉายโรงโดยตรง ไม่มีข้อตำหนิใดๆ เลย และยังใช้เทคนิคเห็นแค่ร่างกายบางส่วนที่ทำให้ตื่นเต้นได้มากกว่าต้องเห็นตัวเต็มๆ อย่างฉากที่กรงเล็บนกยักษ์กรีดถล่มเข้าในเรือตอนแรก หรือการเห็นก็อดซิลล่าปล่อยแสงทำลายล้างสั้นๆ ทุกอย่างในเรื่องนี้เทียบเท่าสเกลภาพยนตร์ทั้งหมด แค่สั้นกว่าเท่านั้นเอง และยังมีฉากเมืองร้างซานฟรานซิสโกและฉากในโพรงใต้ดินที่เล่าถึงส่วนที่แตกต่างจากโลก Titan ในภาพยนตร์เพิ่มอีกด้วยครับ

สรุปเป็นซีรีส์สำหรับแฟนที่ติดตามจักรวาลมอนสเตอร์ก็อดซิลล่าโดยเฉพาะ (ถ้าไม่ใช่แฟนเรื่องนี้มาก็คงงงๆ กับหลายอย่างมากอยู่) ซึ่งผู้ชมจะได้รับรู้รายละเอียดลึกๆ ของเรื่องที่มีมากมายจนไม่สามารถเล่าได้ในฉบับภาพยนตร์ โดยเป็นการเล่าเรื่องที่มาขององค์กร Monach ตั้งแต่ผู้ก่อตั้งในอดีตที่เจอกับ Titan หลายตัวตัดสลับกับเนื้อเรื่องปัจจุบันของรุ่นหลานที่ตามสืบหาความลับของครอบครัวที่เกี่ยวข้องกับ Monach อยู่ตลอดเวลา ซึ่งเนื้อเรื่องรุ่นหลานจะค่อนข้างน่าเบื่อจากปัญหาครอบครัวค่อนข้างเยอะโดยเฉพาะช่วงกลางเรื่อง แต่ก็มีส่วนดีที่เชื่อมโยงกับเนื้อเรื่องในอดีตโดยตรง และแสดงผลกระทบของสังคมโลกมนุษย์ที่เปลี่ยนไปหลังจากเหตุการณ์ก็อดซิล่าบุกซานฟรานซิสโกในปี 2014 ซึ่งช่วยเติมเต็มเนื้อเรื่องได้เป็นอย่างดี ส่วน CG ในเรื่องก็อยู่ในระดับเทียบเท่าภาพยนตร์แบบไร้ที่ติ และยังมี Titan ใหม่หลายตัวปรากฎในเรื่อง แต่ก็เป็นแค่ช่วงสั้นๆ ในแต่ละตอนเท่านั้นครับ ตัวเรื่องเคลียร์ที่มาของ Monach ได้หมดและยังจบแบบทิ้งท้ายไปต่อได้ดีเพื่อต่อกับภาพยนตร์ภาคต่อๆ ไป ซึ่งคงได้ทำซีซั่น 2 ต่อแน่นอนครับ

สปอยล์ฉากจบ Monarch: Legacy of Monsters

including other English reviews