playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Monica, O My Darling อาชญากรรมดาร์คคอมเมดี้ที่เน้นหักมุมเยอะจนดูมั่วซั่วในที่สุด (ไม่สปอยล์)

Monica, O My Darling

Summary

หนังอินเดียที่เน้นเรื่องราวอาชญากรรมหักมุมซับซ้อนวุ่นวายทั้งเรื่อง คนที่ชอบแนวหักมุมเยอะๆ ก็อาจจะชอบได้ แต่ตัวเรื่องไม่ได้หักมุมแบบเนียนทำได้ดีอย่างที่ควรเป็น เป็นการหักมุมแบบตั้งใจให้คนเดาไม่ได้จนเหมือนจับแพะชนแกะให้มันออกมายังไงก็ได้ให้คนดูเดาไม่ได้เป็นพอ แล้วตัวเรื่องก็พยายามยัดเพลงกับดนตรีประกอบครึกครื้นเยอะเกินจนน่ารำคาญเอามากๆ (แต่คนอินเดียชอบแบบนี้สุดๆ)

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • เน้นเรื่องราวหักมุมเยอะ

 

Cons

  • หักมุมเยอะจนดูมั่วๆ มากกว่าเซอร์ไพรซ์
  • ตัวละครโมนิก้าไม่ได้เป็นแกนหลักของเรื่องอย่างที่ควรจะเป็น
  • ยัดดนตรีกับเพลงอินเดียรื่นเริงมาทุกฉาก

 

ADBRO

Monica, O My Darling โมนิก้าที่รัก หนังอินเดีย Original Netflix แนวอาชญากรรมดาร์คคอมเมดี้ ดัดแปลงมาจากนวนิยายญี่ปุ่นปี 1989 Burutasu No Shinzou โดย Keigo Higashino เป็นเรื่องราวของวิศวกรหนุ่มอนาคตไกลในบริษัทมหาเศรษฐีที่เข้าไปพัวพันกับการวางแผนฆาตกรรมชู้รักสุดซับซ้อน 

 Monica, O My Darling (2022) on IMDb

รีวิว Monica, O My Darling (ไม่สปอยล์)

 

หนังอินเดียคะแนนดีจาก IMDB ถึง 7.8 ซึ่งหลังดูจบก็ไม่แปลกใจนัก เพราะเป็นสไตล์อินเดียจ๋ามากกว่าหนังเน็ตฟลิกซ์อินเดียเรื่องอื่นๆ ที่ทำออกมาซะอีก 

ตัวเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนิยายของญี่ปุ่น ซึ่งมันก็ทำให้ตอนเปิดเรื่องดูเป็นสไตล์ญี่ปุ่นแปลกๆ เข้ามาหน่อยเมื่อเกี่ยวกับหุ่นยนต์แขนกลที่ฆ่าชายคนหนึ่งในโรงงานแบบปริศนา ก่อนที่เรื่องจะตัดมาที่ตัวเอก Jayant 

วิศวกรที่พื้นฐานมาจากบ้านจนไม่รวยปากกัดตีนถีบจนได้มาเป็นหุ้นส่วนบริษัท แล้วก็กำลังจะแต่งงานกับลูกสาวท่านประธานที่จะทำให้เขากลายมาเป็นครอบครัวมหาเศรษฐี แต่แล้วความซวยก็บังเกิด เมื่อเขาแอบเล่นชู้กับ โมนิก้า เจ้าของชื่อเรื่องนี้ เป็นเลขาประาธานพ่อตาของเขาเอง จนทำให้เรื่องพัดเพไปถึงการวางแผนฆาตกรรมสุดซับซ้อนและเลยเถิดต่อเนื่องไปเรื่อยๆ

ตัวหนังพยายามสร้างเรื่องราวฆาตกรรมแบบชุลมุนวุ่นวาย จากตอนแรกแค่วางแผน แต่ต่อมากลายเป็นใครก็ไม่รู้มากมายเข้ามาเกี่ยวข้องเต็มไปหมด เพื่อให้ผู้ชมนั่งเดาว่าใครกันแน่ที่ลงมือฆาตกรรมต่อเนื่อง โดยมีตัวเอกเป็นเหยื่อที่โดนปั่นหัวหวาดระแวงว่าความผิดตัวเองจะแดงขึ้นมา ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ฆาตกรรมใคร ซึ่งถือว่าเรื่องทำสำเร็จที่ทำให้เรื่องซับซ้อนจนไม่น่าจะมีใครเดาได้แน่ๆ ว่าใครเกี่ยวข้องกันยังไง และฆาตกรตัวจริงเป็นใคร ในขณะที่ตัวเอกก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันสักเท่าไหร่ ตัวบทจึงมีบทสรุปจบแบบให้ทุกคนรับกรรมในตอนท้ายกันถ้วนหน้า 

ถึงตัวบทจะเขียนมาเพื่อหักมุมสุดขั้วแบบกะไม่ให้ใครเดาได้เลยก็จริง แต่ปัญหาคือการเชื่อมโยงเรื่องราวที่เหมือนตั้งใจทำให้วุ่นวายเกินจริงแบบไม่เนียน ตัวเรื่องพยายามอย่างมากที่จะหักมุมคนดูอยู่เรื่อยๆ ซึ่งแรกๆ ก็อาจจะชวนให้สนุกอยู่ แต่พอหลังๆ นี่เริ่มหักแบบออกทะเลไปเรื่อยๆ จนตอนท้ายเฉลยแบบถึงจะเซอร์ไพรซ์ในตัวคนร้าย แต่ก็ไม่ได้อารมณ์แบบนั้นอย่างที่ควรจะเป็น ไม่รู้สึกถึงความฉลาดของบทอะไรนัก

สิ่งที่คอยฉุดให้อารมณ์ของเรื่องน่าคำราญก็คือเพลงกับนดนตรีประกอบที่มีทั้งฉากเต้น เพลงประกอบแนวครึกครื้นรื่นเริงแบบอินเดียที่ยัดเข้ามาแทบทุกฉากไม่หยุด จุดประสงค์ของผู้กำกับคงเพื่อเพิ่มอารมณ์ความวุ่นวายให้กับเรื่องราวที่วุ่นสุดๆ ซึ่งผู้ชมอินเดียน่าจะถูกใจถึงเทคะแนนให้เรื่องนี้สูงมาก แต่อย่างผู้เขียนที่ชอบหนังอินเดียแบบไม่ต้องใส่อะไรมาเยอะแยะแบบนี้กลับรู้สึกว่ามันไม่ใช่จนน่าหงุดหงิดสุดๆ แบบที่ดูหนังอินเดียเรื่องก่อนๆ ของเน็ตฟลิกซ์เองยังไม่รู้สึกถึงอารมณ์แบบนี้มาก่อนเลย  

ตัวนักแสดงเรื่องนี้คือนักแสดงอินเดียสายเน็ตฟลิกซ์ขาประจำกันทั้งนั้น ก็เลยไม่ได้มีดาราดังมาดึงดูดอะไรมาก รวมๆ แล้วก็ไม่ได้มีใครคนไหนเล่นได้โดดเด่นหรือมีบทน่าประทับใจ แม้แต่เจ้าของบทชื่อเรื่องโมนิก้าก็เหมือนใส่มางั้นๆ เพราะตัวเรื่องแทบไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรกับเธออย่างที่ควรจะเป็น แถมบทของเธอก็หมดลงดื้อๆ ไม่ใช่ตัวละครหลักที่ดำเนินไปจนจบด้วยซ้ำครับ

 

ถือเป็นหนังอินเดียจากเน็ตฟลิกซ์ที่พอดูได้ คนที่ชอบแนวหักมุมเยอะๆ ก็อาจจะชอบได้เหมือนกัน แต่ส่วนตัวคิดว่ามันไม่ได้หักมุมแบบประทับใจ เมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆ ของอินเดียที่ชอบขายแนวหักมุมในตอนจบแทบทั้งนั้นอยู่แล้วครับ

ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!