playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Narcos: Mexico ซีซั่น 1-2 ดุเดือด แต่เลือดไม่พล่าน…

  • คะแนนซีซั่น 1 - 8/10
    8/10
  • คะแนนซีซั่น 2 - 7/10
    7/10

สรุป

ซีซั่นแรกของภาคเม็กซิโกเปิดเรื่องใหม่และไต่ระดับความน่าสนใจทำได้ดี แต่ความดุเดือดรุนแรงเบาลงไปมากเมื่อเทียบกับภาคโคลอมเบีย โดยทิ้งท้ายไว้ว่าซีซั่น 2 จะดุเดือดแน่ๆ แต่ซีซั่น 2 เรื่องราวกลับลดระดับความน่าสนใจลงไป รวมถึงแอ็กชั่นและความโหดดุเดือดก็น้อยกว่าซีซั่นแรกซะอีก แถมช่วงท้ายสุดก็ยังไปไม่ถึงเรื่องราวหลักของ ‘เอล ชาโป’ จนดูแล้วน่าจะยืดเยื้อยาวกว่าภาคโคลอมเบียที่ทำได้กระชับและจบลงตัวได้ดีกว่ามาก

Overall
7.5/10
7.5/10
Sending
User Review
4.5 (4 votes)
Comments Rating 0 (0 reviews)

Pros

  • โลกของกัญชาในซีซั่นแรกมีความสดใหม่
  • ตัวละครเฟลิกซ์ดูแตกต่างจากที่ผ่านมาอย่างน่าสนใจ
  • ได้เห็นจุดเริ่มต้นของ DEA ที่ยังไม่มีพลังมาก
  • ตัวละครเครือข่ายเม็กซิโกหลากหลายกลุ่มกว่าโคลอมเบีย
  • มีจุดร่วมกับภาคก่อน ทำให้ตัวละครเก่ากลับมาให้หายคิดถึง

Cons

  • เรื่องราวดุเดือดแต่ไม่ค่อยโหดดิบเถื่อนเท่าภาคโคลอมเบีย
  • เนื้อเรื่องยืดหลายช่วงเกินความจำเป็น
  • ปูเส้นเรื่อง เอล ชาโป มาสองซีซั่นก็ยังไม่ถึงไหนสักที
  • ไคลแม็กซ์ตอนจบ ss2 เบามาก

Narcos Mexico Season 1-2 นาร์โคส เม็กซิโก จุดเริ่มต้นใหม่ของซีรีส์ที่ย้ายจากโคลอมเบียมายังเม็กซิโกที่มีปัญหายาเสพติดหนักหน่วงเหมือนกัน เรื่องราวเริ่มต้นจากเจ้าพ่อค้ายาชื่อดังสุด “มิเกล อังเคล เฟลิกซ์ การ์ยาโด” รุ่นก่อนหน้า เอล ชาโป โดยยังมีความเกี่ยวพันถึงแก๊งกาลีในโคลอมเบียรวมอยู่ด้วย

 Narcos: Mexico (2018) on IMDb
คะแนนเฉลี่ย IMDB

ตัวอย่าง Narcos Mexico นาร์โคส เม็กซิโก Season 1

‘กิกิ” กามาเรนา’ คือตัวเอกฝั่ง DEA ที่ประจำเม็กซิโกในภาคนี้ที่แยกขาดออกมาจากซีซั่น 1-3 ในโคลอมเบีย แล้วก็เริ่มด้วยกัญชาไม่ใช่โคเคนอย่างในโคลอมเบีย ซีรีส์เริ่มเปิดเรื่องก็คือเหตุการณ์ตอนเกือบจบของซีซั่นเม็กซิโก เป็นเหตุการณ์ที่กิกิถูกลักพาตัวไปทรมานโดยมีส่วนเกี่ยวข้องกับ “มิเกล อังเคล เฟลิกซ์ การ์ยาโด” หัวหน้าองค์กรอาชญากรรมใหม่ในเม็กซิโกซิตี้ ที่ขึ้นไต่เต้าขึ้นมาจากระดับล่างในเวลาไม่นานด้วยมันสมองอัจฉริยะ และสามารถรวบรวมแก๊งอาชญากรรมในเม็กซิโกหลายๆ เขตให้มาขึ้นรวมกันเป็นองกรค์ค้ายาเสพติดขนาดใหญ่ระดับครองประเทศได้สำเร็จ

มิเกล อังเคล เฟลิกซ์ การ์ยาโด
มิเกล อังเคล เฟลิกซ์ การ์ยาโด

ในซีซั่นนี้เราจะได้เห็นจุดเริ่มของการขายกัญชาระดับโลกที่มาก่อนโคเคน ผ่านไร่กัญชาใหญ่ที่สุดในโลกของ “มิเกล อังเคล เฟลิกซ์ การ์ยาโด” (เรียกสั้นๆ ว่า เฟลิกซ์) ซึ่งเป็นการเปิดฉากใหม่ แต่ย้อนอดีตไปไกลในยุคสมัยเดียวกับโคเคนพึ่งเริ่มมา โดยเป็นธุรกิจยาเสพติดอีกแบบที่มีกลุ่มเป้าหมายลูกค้าต่างกัน แต่ความน่ากลัวของกัญชาน้อยกว่าโคเคนมากหลายเท่า ทำให้ไม่ถูกทางอเมริกาหรือทางการเม็กซิโกจับตามาก ซึ่งผู้ค้ากัญชามีเกลื่อนตลาด  แต่การมาของกัญชาเฟลิกซ์เป็นพันธ์พิเศษให้ผลผลิตดีกว่าทุกชนิดที่ขายกัน นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เฟลิกซ์เติบโตใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ผ่านการติดสินบนและทำธุรกิจใต้ดินคู่ไปกับคนในรัฐบาลเม็กซิโก โดยมีหน่วยตำรวจลับ DFS ของรัฐบาลคุ้มครองอีกที แล้วก็มีแผนการใหญ่ทำเครือข่ายแก๊งต่างๆ ในเม็กซิโกให้กลายมาเป็นพันธมิตรกัญชากับเขา จนในที่สุดก็กลายเป็นพ่อค้ายาที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเม็กซิโก แล้วก็เริ่มขยายธุรกิจมายังโคเคน ทำให้นาโคสเม็กซิโกเป็นจุดเริ่มของการดึงตัวละครเก่ากลับมาใหม่ครั้งแรก และกลายเป็นเรื่องเดียวกันกับซีซั่น 1-3 เพียงแต่แยกชื่อภาคออกมาเป็นประเทศเม็กซิโกเท่านั้น

กิกิ
กิกิ DEA ตัวหลักในเรื่องราวภาคนี้

ในส่วนของซีซั่นนี้ DEA ยังเป็นแค่หน่วยงานใหม่ที่ไม่ได้มีตัวช่วยพิเศษมากแบบในซีซั่น 1-3 ที่มีพร้อมทั้งอุปกรณ์และกำลังคน จึงทำให้ภาคนี้การทำงานดูเรียบๆ ไม่ได้ดุดันหวือหวามีอำนาจสู้กันแบบในซีซั่นก่อนๆ แล้วก็โฟกัสไปที่เรื่องของ ‘กิกิ” กามาเรนา’ เป็นหลักเท่านั้น โดยเปิดเรื่องมาก็เห็นเลยว่าโดนลักพาตัวไปแล้ว ซึ่งหนังแฟลชแบ็คเล่าเรื่องราวเขาย้อนกลับมาตั้งแต่แรกคู่กับเฟลิกซ์ที่พึ่งเริ่มไต่เต้าจากระดับขึ้นมาเช่นกัน ซีซั่นนี้จึงไม่ได้มีแอ็กชั่นดุเดือดอะไรนักเพราะพึ่งเป็นจุดเริ่มของทั้ง DEA กับเจ้าพ่อยาเสพติดคนใหม่ ยังไม่ถึงขนาดเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นแบบในซีซั่น 1-3 แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ประวัติศาสตร์วงการค้ายาเสพติดในเม็กซิโกเปลี่ยนไปกลายเป็นปัญหาระดับชาติจนถึงปัจจุบัน

แม้เรื่องราวจะไม่ดิบเถื่อนมาก แต่ก็สิ่งที่โดดเด่นกว่าซีซั่นก่อน คือการนำเสนอโลกของกัญชาตั้งแต่เริ่มปลูกและผสมพันธ์ละเอียดยิบในแบบที่โคเคนไม่มี รวมถึงการปกครองของเฟลิกซ์ที่ไม่เหมือนทั้งปาโบล เอสโคบาร์กับแก๊งกาลีเลยแม้แต่น้อย แม้จะไม่หวือหวาเร้าใจเท่า แต่ก็เป็นแนวทางจากเรื่องจริงของเม็กซิโกที่แก๊งต่างๆ กระจายเขตคุมไม่ล้ำเส้นกัน แล้วเฟลิกซ์ต้องคิดหาทางทำให้พวกนี้มาอยู่ใต้องค์กรในความปกครองของเขาให้ได้ ซึ่งภาคเม็กซิโกนี้มีตัวละครหลักวางไว้เยอะกว่าภาคก่อนๆ มาก และมีความสำคัญกับเรื่องหลักทุกตัวละคร ยาวไปจนจบซีซั่นสองก็ยังเคลียร์เรื่องราวไม่หมด

โลกของกัญชา
โลกของกัญชา

อีกจุดหนึ่งเลยที่ซีรีส์ใส่ไว้เนียนๆ คือ ตัวเจ้าพ่อใหญ่ในอนาคตอย่าง ‘เอล ชาโป’ ที่ในเรื่องปรากฏตัวแบบเงียบๆ ยังเป็นแค่ระดับล่างในตอนที่เฟลิกซ์ใหญ่โตแล้ว ทำให้เห็นว่าทีมสร้างตั้งใจเดินเรื่องภาคเม็กซิโกยาวไกลจนถึง เอล ชาโป แน่ๆ ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกหลายซีซั่นกว่าจะถึงจุดสูงสุดของเรื่องในภาคนี้  (คดีจริงของเอล ชาโปพึ่งจบไปปลายปี 2019)

โดยรวมซีซั่นนี้ลดดรีความโหดดิบเถื่อนลงไปเยอะ แต่เข้าใจว่าเป็นการปูเริ่มเรื่องใหม่ก็ต้องใช้เวลาในการปูเรื่องพอสมควร และด้วยบุคลิกของเฟลิกซ์เองก็เป็นแนวเก็บตัวเงียบๆ เน้นติดสินบนกับฝ่ายการเมืองเม็กซิโก หลีกเลี่ยงไม่อยากมีปัญหากับ DEA โดยตรง ก็เลยทำให้เรื่องราวไม่ค่อยมีการปะทะหรือฉากแอ็กชั่นอะไรนัก แต่จะค่อยๆ ไต่ระดับไปจนถึงจุดหักเหของเรื่องที่ทำให้กิกิเจ้าหน้าที่ DEA ถูกลักพาตัว จนทำให้เกิดเป็นเรื่องราวใหญ่โตตามมา และตอนจบของซีซั่นนี้คือจุดเริ่มของเรื่องจริงในชื่อ ‘ปฏิบัติการเลเยนดา’ ซึ่งเป็นการเล่นนอกกติกาครั้งใหญ่ของ DEA ในยุคแรกของการปราบยาเสพติดข้ามชาติใหญ่โตแบบนี้


รีวิว Narcos Mexico Season 2 (ไม่สปอยล์)

เรื่องเริ่มจาก ‘ปฏิบัติการเลเยนดา’ ในตอนจบซีซั่นแรก ในซีซั่นนี้เป็นการรวมทีมใหม่ของ DEA ที่หวังชำระล้างคดีลักพาตัวของกิกิให้สะอาด นำผู้ร้ายตัวจริงมาลงโทษ หลังจากที่รัฐบาลเม็กซิโกปิดคดีแบบไม่แคร์สหรัฐ โดยเริ่มจาก ‘วอลต์’ หัวหน้าทีมปฏิบัติการเลเยนดากับลูกทีมเม็กซิโกที่เขาคัดมาเอง ทำภารกิจลับฉกตัวร้ายในคดีที่ยังลอยนวล หวังสาวกลับไปให้ถึงเฟลิกซ์ที่อยู่บนสุด ในขณะที่เฟลิกซ์เองก็โดนผลกระทบจากคดีลักพาตัวกิกิตามรบกวนชีวิตว่าอเมริกาหมายหัวเขาไว้ เป็นจุดเริ่มต้นทำให้เขาเริ่มสูญเสียอำนาจการปกครองพลาซ่าต่างๆ ทำให้เขาต้องคิดแผนการค้าโคเคนแบบใหม่ครั้งใหญ่ขึ้นมา เพื่อเป็นตัวการันตีชีวิตการเป็นเจ้าพ่อค้ายาใหญ่สุดในประเทศนี้แต่เพียงผู้เดียวให้ได้

ตัวอย่าง Narcos Mexico นาร์โคส เม็กซิโก Season 2

หลังจากจบซีซั่นแรกกับการเปิดตัวทีมเลเยนดา คนดูทุกคนก็คงคาดหวังว่าซีซั่น 2 จะกลับมาโหดดิบระห่ำแบบที่เคยเป็นจุดเด่นของซีรีส์ Narcos มาตั้งแต่แรก แต่แล้วกลายเป็นว่าก็ยังไม่สามารถนำจุดเด่นตรงนั้นกลับมาได้ในระดับเดิมที่เคยทำไว้ได้ แม้ว่าจะเทียบกับช่วงซีซั่น 3 กาลี อาจจะลดลงไปเยอะ แต่นั่นก็คือตัวเนื้อเรื่องวางไว้แล้วกาลีมีลักษณะเฉพาะแบบนั้น และก็มาในแนวทางเฉือนคมด้วยไหวพริบจากสายลับสองหน้าที่ทำได้ลุ้นระทึกไปอีกแบบ แต่  Narcos Mexico แม้จะมาถึงซีซั่น 2 แล้ว ก็ยังไม่สามารถพาเรื่องทั้งจากฝั่ง DEA กับฝั่งเจ้าพ่อยาเสพติด ให้รู้สึกว่าดีถึงจุดที่เคยทำไว้ได้เท่าเดิมเลย

'วอลต์'
วอลต์ (ขวา) หัวหน้าทีมเลเยนดา

อย่างเรื่องแม้จะเริ่มมาเป็นปฏิบัติการเอาคืนของอเมริกา ที่มาแนวลักพาตัว ซ้อม ข่มขู่ คนเม็กซิโกที่เกี่ยวข้องกับคดีกิกิ ซึ่งละเมิดอำนาจรัฐของเม็กซิโกอย่างชัดเจน แต่ความโหดของตัวละคร ‘วอลต์’ เองกลับดูสวนทางกับเรื่อง แถมดูแล้วจืดๆ ไม่ได้มีพลังผลักดันการทำงานอะไรมากนัก เทียบไม่ได้เลยกับยุคของปาโบล เอสโคบาร์เลยที่ทาง DEA มีตัวละคร ‘เปนญ่า’ ขาโหดที่เล่นนอกกติกาเหมือนกัน แถมยังฉลาดกว่าวอลต์มาก แต่ช่วงการลักพาตัวคนร้ายในคดีก็ยังมีความน่าติดตามมากกว่าการเดินเรื่องอีกด้านของเฟลิกซ์ช่วงแรก ที่ตัดสลับกันไปมา และดูอืดๆ เนือยๆ ไม่ค่อยมีอะไรใหม่ นอกจากการปูเรื่องความวิตกกังวลกับอำนาจการปกครองของเขา ก่อนที่ช่วงหลังของทีม DEA เลเยนดาเองกลับแผ่วลงไปเรื่อยๆ กลายเป็นการสืบติดตามแบบพื้นๆ ไม่มีเรื่องแนวโหดๆ ดิบๆ แบบที่เปิดมาตอนแรก จนแม้แต่จุดพีคของเรื่องราวฝั่ง DEA ก็ยังธรรมดามากจนน่าผิดหวัง แต่ก็คงเพราะต้องทำตามขอบเขตเรื่องราวจริงในคดีที่เป็นเหตุการณ์ช่วงนี้ ที่ทีม DEA ยังไม่กล้าเล่นนอกกฏมากเมื่อเทียบกับซีซั่น 1-3 ที่ฝั่ง DEA ดูมีกึ๋นและเน้นบู๊โหดๆ มากกว่าเยอะ

กลับกันช่วงหลังเนื้อเรื่องของเฟลิกซ์กลับค่อยๆ น่าสนใจขึ้นมาเรื่อยๆ จากการคิดการใหญ่หวังเปลี่ยนตัวเองมาเป็นคนค้าโคเคนข้ามชาติเทียบชั้นแก๊งกาลีของโคลอมเบีย และยังมีเรื่องเกมการเมืองหาทางหนุนหลังประธานาธิบดีคนต่อไปให้เป็นพวก จนไปถึงเหตุการณ์จริงที่เกี่ยวกับการโกงผลการเลือกตั้งครั้งใหญ่ของเม็กซิโก ที่เป็นตัวชี้เป็นชี้ตายอนาคตของเขาเช่นกัน ทำให้เฟลิกซ์ในซีซั่นนี้ต้องรับศึกหนักตลอดเวลา แบบที่ดูแล้วเหนื่อยแทน อันเกิดจากความทะเยอทะยานเกินตัวขึ้นเรื่อยๆ ของเขา เพื่อสร้างราคาให้ตัวเองมีอำนาจต่อรองมากที่สุด โดยหวังใช้เป็นใบรับประกันชีวิตที่แขวนอยู่บนเส้นด้ายของเขาในซีซั่นนี้

นอกจากเรื่องราวของเฟลิกซ์แล้ว ซีซั่นนี้ยังแตกแขนงเรื่องราวไปยังจุดเริ่มการขุดอุโมงค์ส่งยาของเอล ชาโป ที่ซีซั่นก่อนปูตัวละครนี้ไว้นิดหน่อย ตอนนี้จะเริ่มให้เห็นอะไรๆ มากขึ้น ซึ่งตรงนี้ทำได้น่าสนใจตรงนิสัยใจคอของ เอล ชาโป แตกต่างออกไปจากเจ้าพ่อรายอื่นๆ ที่มีมาใน Narcos เลย โดยเขามีทั้งความเป็นเด็กหน้าใหม่ เรียนน้อยจบแค่ประถม 3 แต่ก็มีไอเดียล้ำเลิศเกินตัว นอบน้อมนิสัยดี ดูไม่ได้เป็นคนที่คิดหาเรื่องใดๆ กับใคร หรือมีความทะเยอทะยานอะไรมากแบบคนอื่นๆ ในตอนนี้ ซึ่งเรื่องราวของ เอล ชาโป จะมาแบบบางๆ ซ้อนทับกับเรื่องหลักของเฟลิกซ์ที่ยังคงเป็นเมนหลักอยู่ และก็เป็นการท้าทายอำนาจของเฟลิกซ์ครั้งแรก โดยที่เจ้าตัวก็ไม่ได้คิดว่าจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตตามมา

narcos-mexico-season-2-อีกเรื่องราวหนึ่งที่แตกไลน์เพิ่มคือ การขึ้นมามีอำนาจของผู้หญิงในวงการค้ายาเสพติด ที่ตรงนี้มีปูไว้แล้วในซีซั่นก่อนผ่านตัวละครอิซาเบลลา (Isabella Bautista) ที่พยายามยึดอำนาจเฟลิกซ์ในตอนจบซีซั่นแรก แต่เธอก็ยังไม่ละความพยายามนำโคเคนเข้ามานอกระบบของเฟลิกซ์ และก็ได้พบกับตัวละครผู้หญิงคนใหม่ที่เป็นหนึ่งในพี่น้องของหัวหน้าพลาซ่า ที่พยายามหาโคเคนนอกระบบเข้ามาเช่นกัน ซึ่งตรงนี้เป็นความพยายามเปิดเรื่องราวไปทิศทางใหม่ๆ ให้เห็นการไต่เต้าขึ้นมามีอำนาจในวงการค้ายาเสพติดฝั่งผู้หญิง ซึ่งที่ผ่านมา Narcos เน้นแต่ผู้ชาย แม้จะเคยมีตัวละครผู้หญิงที่กุมอำนาจมาบ้าง แต่ก็เป็นจุดที่อยู่บนๆ แล้ว ยังไม่ใช่การเริ่มต้นแบบในซีซั่นนี้

โดยรวม Narcos Mexico ss2 นี้เรื่องราวฝั่ง DEA แผ่วลงมาก ไม่ค่อยมีความกดดันหรือตื่นเต้นอะไรมากเท่ากับภาคโคลอมเบีย หรือกับเม็กซิโกซีซั่น 1 เองก็มีจุดพีคของเรื่องราวกิกิกับแอ็กชั่นของอเมริกาน่าติดตามกว่า ส่วนฝั่งพ่อค้ายาทั้งเฟลิกซ์และคนอื่นๆ เรื่องราวยังคงพอรักษาระดับความน่าสนใจไว้ได้อยู่ในช่วงหลัง ซึ่งหลายๆ อย่างขมวดเข้าหากันได้อย่างน่าติดตาม เพียงแต่ตอนสุดท้ายของเรื่องราวดูจบได้ธรรมดาไปหน่อย ไม่สมกับที่ปูมาเหมือนว่าจะมีสงครามพลาซ่าอย่างทีเซอร์ที่ปล่อยออกมา (ดูในคลิปด้านล่างครับ) แล้วก็ทดเรื่องราวตรงนี้ไปไว้ซีซั่นต่อไป ซึ่งดูแล้วยืดยาวเกินไปสักหน่อยถ้ามองว่าเมื่อไหร่เนื้อเรื่องหลักจะเป็นตัว ‘เอล ชาโป’ สักทีครับ

ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นในเว็บคลิกที่นี่

Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!