รีวิว Narvik สมรภูมิแรกที่ฮิตเลอร์แพ้ แต่กลับมีเรื่องราวลึกซึ้งกว่าเห็น
Narvik
Summary
หนังสงครามโลกครั้งที่ 2 ฟอร์มเล็กจากนอร์เวย์ที่มีเรื่องราวนำเสนอแตกต่างจากประวัติศาสตร์จริงของสมรภูมิที่ฮิตเลอร์แพ้ครั้งแรก โดยโฟกัสไปยังเรื่องราวของพลเรือนผู้บริสุทธ์ในเมือง Narvik ที่ต้องรับกรรมจากสงครามเยอรมันกับอังกฤษ โดยที่เยอรมันกลับปกป้องดูแลพลเมืองอย่างดีที่สุดในภาวะสงคราม ในขณะที่อังกฤษกลับเดินหน้าถล่มเมืองจนมีผู้รับเคราะห์มากมาย ซึ่งต่างจากภาพลักษณ์หนังเรื่องอื่นๆ ที่ผ่านมา และถึงแม้เราจะรู้ตอนจบว่าเยอรมันแพ้ แต่นี่ก็ไม่ใช่ตอนจบที่แท้จริง ยังมีเรื่องราวลึกซึ้งและโศกนาฎกรรมสำคัญต่อจากนั้นอีก ซึ่งหนังปิดจบมันด้วยข้อเท็จจริงอย่างลงตัวมาก และเป็นหัวใจของเรื่องราวนี้ทั้งหมด
Overall
7.5/10User Review
( vote)Pros
- เรื่องจริงของสมรภูมิที่เยอรมันแพ้ครั้งแรกในสงครามโลกครั้ง 2
- มุมมองทหารเยอรมันที่แตกต่างจากเรื่องอื่น
- ดราม่าพลเมืองผู้บริสุทธ์ที่ติดอยู่ท่ามกลางสงคราม
- ฉากสงครามที่พระเอกเป็นนักวางระเบิด
- มีพากย์ไทย
Cons
- ไม่ได้เน้นฉากสงครามหนักเข้มข้น
รีวิว Narvik
ถึงหนังจะพยายามใช้จุดขายว่าเป็นที่ๆ กองทัพเยอรมันรบแพ้ครั้งแรก แต่นี่ก็ไม่ใช่หนังที่เน้นฉากรบสงครามหนักๆ แต่อย่างใด เนื้อเรื่องกลับเลือกนำเสนอจุดแตกต่างไปจากหนังสงครามโลกครั้งที่ 2 เรื่องอื่นๆ คือไม่ได้นำเสนอความทารุณโหดร้ายของทหารเยอรมัน แต่เลือกนำเสนอพลเมืองประชาชนธรรมดาที่ต้องรับเคราะห์จากการสู้รบของเยอรมันกับอังกฤษที่พยายามตีเมืองนี้เนื่องจากเป็นฐานส่งแร่เหล็กให้กองทัพเยอรมัน โดยอ้างว่ากำลังเข้ามาปลดปล่อย แต่ความจริงเรื่องราวกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป
เนื้อเรื่องเล่าถึงสามีภรรยาที่ต้องแยกจากกัน สามีเป็นทหารที่ไปหยุดยั้งการมาของเยอรมัน ก่อนถูกจับเป็นเชลยสงคราม ส่วนภรรยาทำงานโรงแรมพูดเยอรมันได้ ก็เลยกลายเป็นล่ามจำเป็นจากเหตุการณ์นี้ไป ในขณะที่เธอก็ให้ที่พักพิงกับฑูตอังกฤษ ที่พยายามใช้เธอเป็นสปายส่งข้อมูลกลับไปให้กองทัพอังกฤษมาถล่มเยอรมัน ซึ่งก็นั่นหมายถึงการถล่มเมืองนี้ไปด้วย เธอจึงต้องปกป้องลูกชายคนเดียวทุกวิถีทาง แม้จะโดนตราหน้าว่าขายชาติก็ตาม ซึ่งนี่เป็นจุดที่ตัวเรื่องนำเสนอให้เห็นมุมมองของเหยื่อสงครามที่เลือกชีวิตไม่ได้ แล้วตัวหนังก็ทำให้เราเห็นใจกับเส้นทางชีวิตที่เธอถูกบีบให้เลือกข้างมาก ในขณะที่ภาพความรุนแรงของสงครามที่เกิดกลับไม่ใช่จากเยอรมัน ที่พยายามดูแลชาวเมืองให้ดีที่สุด แม้จะเพื่อปกป้องวัตถุดิบ แต่ในหลายมุมเราก็ได้เห็นอีกด้านของทหารเยอรมันที่ไม่ได้เลวร้ายผิดมนุษย์แบบเรื่องอื่นๆ แม้แต่ความช่วยเหลือครั้งสุดท้ายก่อนโดนตีแตกก็ยังมีให้ ซึ่งอาจจะเพราะนอร์เวย์ไม่ใช่ยิวก็ได้ แต่ถือเป็นหนังที่กล้าให้ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งแม้เรื่องราวจะบอกชัดตั้งแต่เชื่อเรื่องว่าเยอรมันแพ้ แต่นี่กลับไม่ใช่ตอนจบของเรื่องนี้ ยังมีอะไรตามมาอีก แล้วก็เป็นหัวใจของเรื่องราวทั้งหมดที่หนังกำลังพยายามสื่อทั้งเรื่อง บางทีชัยชนะในสมรภูมิก็ไม่ใช่สิ่งสวยหรูแบบที่พยายามเชิดชูกัน
ตัวหนังแบ่งการเล่าเรื่องสลับไปมาระหว่างคู่รักทั้งคู่ ซึ่งฝ่ายภรรยาต้องพยายามเอาชีวิตรอดปกป้องลูกน้อย ในขณะที่ฝ่ายชายพยายามกระเสือกกระสนเอาชีวิตรอดในฐานะเชลย และกลับมาในฐานะทหารมือวางระเบิดที่มีความรู้เรื่องนี้ดีสุด ตัวหนังมีขายฉากสงครามสั้นๆ ในฉากวางระเบิดเส้นทางรถไฟ ฉากวางบุกเข้าไปวางระเบิดปืนใหญ่บนหน้าผา เพื่อให้เรือรบอังกฤษเข้ามาได้ ซึ่งฉากเหล่านี้แม้จะไม่ใช่หนังสงครามเต็มตัวจึงออกมาสั้นไม่ยาวมาก แต่ก็ทำออกมาได้ดีในระดับที่ดูแล้วลุ้น ตึงเครียด กดดัน มีความเป็นหนังสงครามเอาชีวิตรอดที่แตกต่างไปจากปกติเพราะตัวเอกนี้ต้องหาทางวางระเบิดจุดใหญ่ๆ ให้ได้ ซึ่งในเรื่องมีทหารอังกฤษกับโปแลนด์มาร่วมรบเป็น 3 ฝ่ายรุมเยอรมัน
ถือเป็นหนังที่มีดีเกินคาดอยู่เหมือนกันเมื่อดูจากฟอร์มหนังเล็กๆ ที่ลงโรงปลายปีก่อนที่นอร์เวย์แบบเงียบๆ แล้วเน็ตฟลิกซ์ซื้อมาลงทั่วโลกพร้อมกัน ซึ่งอาทิตย์ก่อนก็มี DEVOTION หนังสงครามที่ทำดีมากเช่นกัน แนะนำเลยว่าใครชอบหนังสงครามก็ควรดูทั้งสองเรื่องเลยครับ