รีวิว Nowhere หนังจากคนเขียน 47 Meters Down สู่ตู้คอนเทรนเนอร์ลอยกลางทะเลที่ดีกว่ามาก
Nowhere
Summary
สรุปนี่เป็นหนังแนวติดในพื้นที่จำกัดที่เขียนบทได้ดีตั้งแต่เริ่มเรื่องไปจนถึงตอนจบ อุปสรรคมีความโหดร้ายจากตัวนางเอกตั้งท้องใกล้คลอด มีการแก้ปัญหาได้อย่างสมเหตผลพร้อมฉากลุ้นระทึกตลอดเรื่อง แม้ช่วงหลังจะลดลง แต่ก็แทบไม่มีช่วงยืดทำให้เรื่องช้าเลย และก็มีปมชีวิตเบื้องหลังตัวละครที่สะเทือนใจใส่มาให้มีเนื้อเรื่องมากกว่าแค่การเอาชีวิตรอด ซึ่งทำให้เรื่องราวมีมิติมากกว่าหนังแนวนี้โดยทั่วไปอย่างชัดเจน ห้ามพลาดโดยเด็ดขาดครับ
Overall
8.5/10User Review
( vote)Pros
- หนังแนวติดในที่จำกัดในตู้คอนเทรนเนอร์ลอยกลางทะเล
- อุปสรรคโหดร้ายมาก
- การแก้ปัญหาทำได้สมเหตุผล
- ลุ้นระทึกตลอดทั้งเรื่อง
- ตัวละครมีปมในอดีตที่สะเทือนใจ
- มีพากย์ไทย
Cons
- ช่วงหลังความระทึกลดน้อยลงกว่าช่วงแรกมาก
Nowhere หนัง Original Netflix จากสเปน หญิงที่กำลังตั้งครรภ์เคว้งคว้างอยู่ตามลำพังกลางทะเลในตู้สินค้า จึงต้องหาทางเอาตัวรอด หลังหลบหนีจากประเทศที่บอบช้ำเพราะการปกครองโดยเผด็จการ
รีวิว Nowhere (ไม่มีสปอยล์)
หนังจาก Albert Pintó หนึ่งทีมในทีมผู้กำกับที่สร้างซีรีส์ Money Heist กับ Sky Rojo แต่เขาไม่ใช่ผู้กำกับหลัก แต่ที่มาของบทที่โดดเด่นมาจาก Ernest Riera ที่ร่วมเขียนบท 47 Meters Down หนังติดในกรงฉลามใต้ทะเลทั้ง 2 ภาค ซึ่งเรื่องนี้ก็มาแนวติดในที่จำกัดแบบเดียวกัน แต่เป็นตู้คอนเทนเนอร์ที่ลอยกลางทะเลกับผู้หญิงท้องแก่ใกล้คลอด ซึ่งนี่เป็นโจทย์ที่โหดมากกว่าหนังในที่จำกัดตามปกติทั่วไปอีกด้วย
ความสนุกของแนวนี้ก็คือการสร้างเงื่อนไขอุปสรรคให้ได้ลุ้นระทึกอย่างสมเหตุผล ซึ่งเรื่องนี้สร้างเหตุผลการไปติดในตู้คอนเทนเนอร์ได้ดีตั้งแต่แรก ด้วยการผูกโยงเรื่องเข้ากับปัญหาผู้อพยพล้นและใส่จินตนาการทางการเมืองให้สเปนถูกเผด็จการเข้าปกครอง เพื่อบีบให้ตัวเอกของเรื่องต้องพยายามหนีไปประเทศอื่น ซึ่งการผูกเรื่องที่ดีตั้งแต่แรก ทำให้เนื้อเรื่องในเวลาต่อมามีเหตุผลแรงจูงใจที่ดีพอตามมา และก็ได้สร้างเบื้องลึกตัวละครหลักให้มีปมความลับต่างๆ ที่ต้องเล่าในภายหลังได้เป็นอย่างดี มีความเป็นธรรมชาติในการคลายปมอดีตของเธอ และก็เกี่ยวพันกับการเอาตัวรอดของเธอได้อย่างสมเหตุผล อย่างเช่นอาชีพของนางเอกกว่าผู้ชมจะได้รู้ว่าเธอเป็นใครก็ช่วงหลังของเรื่องแล้ว
หนังทำเนื้อเรื่องได้โหดมากกว่าปกติด้วยฉากฆาตกรรมครั้งใหญ่ในช่วงแรก และต่อด้วยการพลัดพรากจากสามีในเวลาต่อมา ก่อนที่จะพบอุปสรรคโหดๆ ด้วยการติดในตู้คอนเทนเนอร์ทั้งๆ ที่ท้องแก่ใกล้คลอด อาหารและน้ำก็มีจำกัด น้ำก็ไหลเข้ามาในตู้เรื่อยๆ โดยออกจากตู้ก็ไม่ได้ ซึ่งอุปสรรคต่างๆ เหล่านี้ดูโหดหินมากเมื่อนางเอกคือผู้หญิงท้องแก่ และต้องหาทางเอาตัวรอดให้ได้ในครึ่งแรก ก่อนที่ครึ่งหลังจะเป็นเรื่องราวนอกตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งแม้ความโหดของเรื่องจะลดลงจากตอนแรกค่อนข้างมาก แต่หนังก็ยังมีฉากให้ลุ้นกับไอเดียการเอาชีวิตรอดจากที่นี่ให้ได้ ก่อนที่จะไปถึงบทจบที่หาทางออกได้ดี และมีฉากลุ้นซ้ำๆ หลายครั้งในตอนจบ ซึ่งเป็นฉากจบที่สมบูรณ์และลงตัวด้วยเหตุผลแบบที่เป็นไปได้มาก
นักแสดง Anna Castillo นางเอกของเรื่องก็เล่นได้ดีในบทที่ต้องเอาชีวิตรอดเพื่อลูกกับสามีให้ได้ เธอเล่นคนเดียวแทบทั้งเรื่องโดยมีบทเสริมจากตัวละครอื่นตอนฝันหรือเห็นภาพหลอนในบางครั้ง และก็ยังมีซีนที่เปลืองตัวเพื่อความสมจริงของเรื่องอีกด้วย
สรุปนี่เป็นหนังแนวติดในพื้นที่จำกัดที่เขียนบทได้ดีตั้งแต่เริ่มเรื่องไปจนถึงตอนจบ อุปสรรคมีความโหดร้ายจากตัวนางเอกตั้งท้องใกล้คลอด มีการแก้ปัญหาได้อย่างสมเหตผลพร้อมฉากลุ้นระทึกตลอดเรื่อง แม้ช่วงหลังจะลดลง แต่ก็แทบไม่มีช่วงยืดทำให้เรื่องช้าเลย และก็มีปมชีวิตเบื้องหลังตัวละครที่สะเทือนใจใส่มาให้มีเนื้อเรื่องมากกว่าแค่การเอาชีวิตรอด ซึ่งทำให้เรื่องราวมีมิติมากกว่าหนังแนวนี้โดยทั่วไปอย่างชัดเจน ห้ามพลาดโดยเด็ดขาดครับ