playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว One Day (Netflix) ซีรีส์รักที่เรียลมากกว่าโรแมนติก แต่ยาวเกินไป…

One Day

Summary

สรุปเป็นซีรีส์รักที่เล่าเรื่องยาวเกินจำเป็นถึง 14 ตอนจนรู้สึกว่าผู้ชมที่สนใจกลับไปหาต้นฉบับภาพยนตร์มาดูจะดีกว่า แล้วก็มีปัญหาการกระโดดของเรื่องราวในแต่ละตอนตามธีมเรื่อง 1 วันใน 1 ปี ซึ่งทำให้เรื่องไม่ลื่นไหล แล้วก็ไม่ได้มาในแนวโรแมนติกจริงจัง แต่ก็นับเป็นข้อดีเพราะนี่คือซีรีส์ที่นำเสนอความรักแบบเหมือนจริง มีความเศร้าความทุกข์ในชีวิตมากกว่าความสุข เป็นการเรียนรู้เก็บประสบการณ์ความรัก และก็จบแบบไม่แฮปปี้เอนด์ดิ้งอีกด้วยครับ

Overall
5/10
5/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • สร้างจากนิยายดังที่เคยทำเป็นภาพยนตร์มาก่อน
  • เรื่องราวชีวิตรัก 1 วันใน 1 ปีติดต่อกัน 19 ปี
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • พระเอกนางเอกเคมีไม่เข้ากัน
  • เรื่องไม่ลื่นไหลขาดช่วงทุกตอน
  • ความยาว 14 ตอนที่มากไป

 

ADBRO

One Day หนึ่งวัน นิรันดร์รัก ซีรีส์อังกฤษ Original Netflix 14 ตอนจบ เรื่องราวชีวิตของของ Emma กับ Dexter นักศึกษาสองคนที่พบกันในคืนเรียนจบ ก่อนที่ชีวิตของทั้งคู่จะเกี่ยวพันกันไปตลอดชีวิต
One Day (2024) on IMDb

 

รีวิว One Day หนึ่งวัน นิรันดร์รัก 

 สร้างมาจากนิยายขายดีของ “David Nicholls” ปี 2009 เคยสร้างในฉบับภาพยนตร์เมื่อปี 2011 แสดงนำโดย Anne Hathaway และ Jim Sturgess ซึ่งนี่เป็นเวอร์ชั่นซีรีส์ที่ยาวกว่าหลายเท่าด้วยจำนวนตอนถึง 14 ตอน แม้แต่ละตอนจะไม่ยาวมากคือ 20-30 นาที แต่ก็ยาวถึง 6 ชั่วโมงกว่าเลย ซึ่งเป็นการนำเสนอตามธีมนิยายคือ 1 วันของแต่ละปีเท่ากับ 1 ตอน โดยตอนท้ายๆ มียุบรวม 3 ปีใน 1 ตอน รวมแล้วคือเรื่องราวชีวิตของทั้งคู่ 19 ปีต่อ ซึ่งจุดเด่นของเรื่องก็คือการเล่าชีวิตรักของตัวเอกทั้งคู่ในแบบเสมือนจริงที่สุด ก็คือมีจุดเริ่มต้นพบรัก แต่ทั้งคู่ก็ไม่เคยมีอะไรกัน เป็นแค่เพื่อน ก่อนสนิท มีปากเสียง มีความฝัน ทะเลาะกัน แยกทางไปทำงาน มีชีวิตคู่ของตัวเอง ก่อนผิดหวังกับความรักซ้ำๆ หลายครั้ง หวนกลับมาเจอกันแล้วพยายามเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ซึ่งไอเดียการเล่าเรื่องความรักแบบเหมือนชีวิตจริงทำได้ดีเลย ผ่านยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ นี่ไม่ใช่ซีรีส์ที่โรแมนติก มันค่อนข้างเรียลกับชีวิตจริงมาก มีความฝันที่ตั้งไว้แต่ทำไม่สำเร็จ มีเรื่องบอบช้ำในชีวิตเยอะ ซึ่งใครที่คิดว่าจะเสพความหวานโรแมนติกคงต้องผ่านไป เพราะมันไม่ได้นำเสนอในทำนองนั้น แม้จะมีฉากที่ชวนฝันอยู่บ้าง แต่ก็น้อยนิดมาก และก็บอกไว้เลยว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่จบแบบแฮปปี้เอนด์ดิ้งอีกด้วยครับ

แต่ถึงไอเดียการเล่าเรื่องการนำเสนอจะทำได้ดีตามต้นฉบับ แต่ว่าการทำเป็นตอนยาว 20-30 นาที มันก็ทำให้เรื่องดูยืดยาวเกินจำเป็นไปมาก ด้วยความยาว 14 ตอนนี่ก็ทำคนไม่ดูแล้วแต่แรก และอีกปัญหาหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ เรื่องราวไม่ลื่นไหล มีสะดุดทุกตอนที่เริ่มใหม่ในแต่ละปี เพราะทุกตอนจะจบแบบมีปมค้างไว้ อย่างเช่นพระเอกพยายามง้อขอคืนดี แต่นางเอกไม่ได้รับสายเพราะยุคนั้นยังไม่มีมือถือติดตัว สุดท้ายนางเอกไปเดทกับคนใหม่ เรื่องก็ตัดจบไปเลย แล้วพอขึ้นมาอีกปีพระเอกก็เหมือนรู้เรื่องทั้งหมดนั้นไปแล้วและปรับตัวได้ว่านางเอกมีแฟนไปแล้ว ซึ่งทำให้ทุกตอนผู้ชมต้องมานั่งคิดเชื่อมต่อเรื่องกันเองว่า 1 ปีก่อน กับ 1 ปีต่อไปมันเกิดอะไรขึ้น โดยเรื่องมีบอกใบ้ไว้เล็กๆ อยู่ แต่ว่ามันก็กลายเป็นจุดอ่อนของเรื่องไปทันทีเมื่อเราต้องนั่งดูยาวกว่าจะพบว่ามันต่อกันได้ยังไง กลายเป็นซีรีส์รักที่ต้องทำให้ผู้ชมคิดมากเกินจำเป็นไปครับ

ปัญหาอีกอย่างคือนักแสดงนำทั้งคู่เคมีไม่เข้ากันมากๆ คือยุคนี้เข้าใจได้ว่าพระเอกไม่ต้องสวยหล่อ อย่าง ​​Mr. & Mrs. Smith ของ Prime ที่พึ่งฉายไปก็เป็นตัวอย่าง แต่ว่าเคมีต้องเข้ากันได้จริงๆ ยิ่งนี่เป็นแนวรักด้วย พระเอก Leo Woodall แม้จะหล่อดูดี แต่ก็ไม่ค่อยมีเสน่ห์โดดเด่นอะไร ออกเรียบๆ ตามแพทเทิร์นหนุ่มอังกฤษผมทองธรรมดา ส่วนนางเอก Ambika Mod ยิ่งแย่ใหญ่เมื่อมาแนวอินเดียนับถือซิกข์ รูปร่างหน้าตาเทียบกับต้นฉบับภาพยนตร์อย่าง Anne Hathaway ไม่ได้เลย แต่สิ่งที่แย่คือไม่มีเสน่ห์ชวนให้รู้สึกว่าทำไมพระเอกถึงหลงไหลยึดติดกับเธอยาวนานขนาดนี้ได้ตั้งแต่คืนแรก ซึ่งยอมไม่มีอะไรกันแม้จะขึ้นเตียงด้วยกัน และมีฉากแบบนี้ตามมาอีก 2-3 ครั้ง แต่ก็ไม่มีอะไรกันอีก ซึ่งเรื่องตั้งใจกั๊กความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไว้จนตอนสุดท้าย แล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่าฉากเซ็กส์ซีนนั้นสวยงามดีพอเลย

 

สรุปเป็นซีรีส์รักที่เล่าเรื่องยาวเกินจำเป็นถึง 14 ตอนจนรู้สึกว่าผู้ชมที่สนใจกลับไปหาต้นฉบับภาพยนตร์มาดูจะดีกว่า แล้วก็มีปัญหาการกระโดดของเรื่องราวในแต่ละตอนตามธีมเรื่อง 1 วันใน 1 ปี ซึ่งทำให้เรื่องไม่ลื่นไหล แล้วก็ไม่ได้มาในแนวโรแมนติกจริงจัง แต่ก็นับเป็นข้อดีเพราะนี่คือซีรีส์ที่นำเสนอความรักแบบเหมือนจริง มีความเศร้าความทุกข์ในชีวิตมากกว่าความสุข เป็นการเรียนรู้เก็บประสบการณ์ความรัก และก็จบแบบไม่แฮปปี้เอนด์ดิ้งอีกด้วยครับ

 

 

including other English reviews

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!