รีวิว Onimusha โอนิมูฉะ Netflix ที่แอ็กชั่นสู้กันสนุก แต่เนื้อเรื่องธรรมดามากๆ

Onimusha โอนิมูฉะ แอนิเมชั่นสร้างจากเกมดังในอดีตของค่าย Capcom โดยร่วมกับ Netflix จำนวน 8 ตอนจบ เรื่องราวจะแต่งขึ้นใหม่อยู่ในยุคเซ็งโงกุของญี่ปุ่น มีตัวเอกคือปรมาจารย์ยอดนักดาบ “มูซาชิ มิยาโมโตะ” ในช่วงสูงวัยใช้พลังของปลอกแขนในตำนานเพื่อปราบเหล่าอสูรซอมบี้

รีวิว Onimusha โอนิมูฉะ

แอนิเมชั่นซีรีส์ที่หยิบยืมชื่อมาจากเกมดังในอดีตตั้งแต่ยุค PlayStation 2 และก็มีภาคย่อยๆ ตามาแต่ก็เงียบหายไปสักพัก และก็กลายมาเป็นโปรเจ็กต์แอนิเมชั่นลง Netflix โดยงานอนิเมชันจะสร้างโดยสตูดิโอ Sublimation นำเสนอ CG สามมิติที่มีการเคลื่อนไหวที่ดีไม่มีปัญหาเฟรมภาพกระโดด ทำให้ฉากแอ็กชั่นในเรื่องดูต่อเนื่องลื่นไหล และฉากแอ็กชั่นในเรื่องนี้เองที่เป็นจุดขายหลัก โดยให้มูซาชิมีพลังพิเศษจากปลอกแขนมาช่วยสู้กับเหล่าปีศาจซอมบี้ ซึ่งในแต่ละตอนก็เป็นศัตรูของมูซาชิที่ฆ่าไปแล้วและอัพเกรดพลังให้มีความสามารถพิเศษเพิ่มมากขึ้น โดยมีบอสสุดท้ายก็ยังเป็น ซาซากิ โคจิโร่ ศัตรูอันดับ 1 ของมูซาชิเช่นเดิม แต่ใส่ความโอเวอร์มากๆ ลงไปให้เหมือนเป็นแนวพลังพิเศษปล่อยแสงยิงพลังสู้กันได้เลย ซึ่งก็คงตอบสนองผู้ชมจากวิดีโอเกมสายนี้ได้แน่นอน

แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องดูแล้วจืดชืดคือเนื้อเรื่องเขียนบทมาแบบง่ายๆ แนวมีตัวร้ายที่หวังครองญี่ปุ่นได้ตำราปลุกปีศาจมาใช้โดยสร้างกองทัพซอมบี้ปีศาจไว้ส่วนตัว มุซาชิได้รับคำร้องขอมาให้ช่วยปราบปีศาจพวกนี้และก็ไปขอยืมปลอกแขนในตำนานจากวัด โดยมีผู้ร่วมทีมติดตามมาด้วยหลายคน และก็ค่อยๆ ตายไปทีละคนสองคนตามสูตรปกติ มีตัวละครเด็กสาวที่เจอระหว่างทางมาร่วมด้วย โดยพยายามบิ้วเหตุการณ์ให้แต่ละคนที่ร่วมทางค่อยๆ ตายไปหวังให้เป็นฉากสะเทือนใจ แต่ด้วยความที่เรื่องมันเน้นฉากแอ็กชั่นมากกว่า ตัวละครแต่ละตัวก็ตายแบบง่ายๆ เนื้อเรื่องก็เป็นเส้นตรงมูซาชิไล่ฆ่าบอสปีศาจย่อยประจำตอนไปเรื่อยๆ จนถึงบอส มีประเด็นว่าใช้พลังจากปลอกแขนมากก็จะถูกครอบครองร่างซึ่งก็ไม่ได้สำคัญอะไร ตอนจบมีหักมุมนิดหน่อยแค่นั้น แต่เรื่องก็จบแบบกึ่งปลายเปิดให้คิดเอาเอง ซึ่งก็ตั้งใจทำให้เหมือนเนื้อเรื่องดั้งเดิมที่มูซาชิสู้กับโคจิโร่ที่เกาะกันริวซ้ำอีกครั้งนั่นเอง

โดยรวมถ้าผู้ชมสายวิดีโอเกมที่เล่นเกมนี้มาก่อนก็คงชอบฉากแอ็กชั่นในเรื่องที่ทำออกมาได้ดี งานแอนิเมชั่นลื่นไหล มีฉากต่อสู้เยอะทุกตอนและก็เว่อร์วังแบบเทพซามูไรปะทะปีศาจ แต่เนื้อเรื่องเขียนบทมาทื่อๆ เหมือนพล็อตเรื่องยอดนิยมทั่วไปจนน่าเบื่อตรงจุดนี้จริงๆ แต่เรื่องก็จบในซีซั่นเดียวและใช้เวลาสั้นๆ ก็ถือว่าไม่น่าเกลียดมากที่จะลองรับชมดูครับ

including other English reviews