รีวิวซีรีส์ญี่ปุ่น Ossan’s Love SS1-2 หัวหน้าจ๋า มาหลงรักผมทำไมกันครับ T_T

Ossan’s Love รักใหม่หัวใจจะวาย ซีรีส์ญี่ปุ่นแนวที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยนักกับประเด็นชายรักชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำออกมาเป็นแนวดราม่า+ตลกตามสไตล์โอเวอร์แอ็กติ้งของญี่ปุ่น แต่ก็ยังจริงจังกับเนื้อหาในประเด็นตรงๆ แบบซีเรียสไปพร้อมกัน แถมยังมีเรื่องรักต่างวัย ต่าง Gen มาเสริมเพิ่มครบรส ตอนนี้ซีรีส์แบ่งเป็น 2 ซีซั่น คนละเวอร์ชั่น แต่นักแสดงหลักชุดเดียวกัน เรื่องราวต่างกัน จะดูอันไหนก่อนก็ได้ครับ แต่แนะนำซีซั่นแรกเป็นหลัก

รีวิวซีซั่น 1 เวอร์ชั่นพนักงานอสังหาริมทรัพย์

เรื่องเริ่มต้นที่ “ฮารุตะ” ชายโสดวัย 33 ที่ทำงานอยู่ในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ เป็นชายแท้ที่อยากแต่งงานและใช้ชีวิตอย่างสุขกายสบายใจ แต่แล้ววันนึงเขากลับพบรูปแอบถ่ายของเขาในคอมพิวเตอร์ของเจ้านาย “คุโรซาวะ” ทำให้เขาเริ่มสงสัยในตัวเจ้านายว่าคิดไม่ซื่อกับเขา ในขณะที่ “เรียวตะ” รุ่นน้องที่ทำงานที่เขาชวนมาอยู่ด้วยเพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่าย กลับสารภาพรักเขาขึ้นมาซะงั้น ชีวิตของฮารุตะจึงเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ทำความเข้าใจกันนิดนึงก่อนว่าเรื่องนี้สร้างมาจากมังงะตาหวาน ขายสาวๆ ชวนจิ้นเป็นหลัก แต่พอมาปรับเป็นซีรีส์ (มีภาพยนตร์ด้วย) ก็จะลดความหวานปิ๊งๆ ลงมาเป็นแนวตัวละครฮาๆ โอเวอร์แอ็กติ้งตามสไตล์ญี่ปุ่น แล้วเรื่องราวในซีซั่นแรกนี้จะเป็นโลกของการทำงานด้านอสังหาริมทรัพย์ เรียกง่ายๆ ว่านายหน้าขายบ้านนี่แหละครับ ซึ่งหนังแม้จะวางตัวเป็นแนวรักตลก ชายรักชาย (จริงๆ ต้องบอกเกย์จิ้นชายมากกว่าเพราะพระเอกเป็นชายแท้ที่เกย์มาหลงรักหัวปักหัวปำ) แต่ก็ยังลงลึกถึงโลกการทำงานด้านอสังหาแบบจริงจัง ชนิดที่ว่าดูจบนี่รู้กระบวนการขั้นตอนการทำงานของวงการนี้ได้ลึกในระดับหนึ่งเลย ดังนั้นนี่ไม่ใช่แค่หนังเกย์เพียวๆ แบบที่บ้านเราหรือฝรั่งทำ จนชวนกระอักกระอ่วนใจไม่น่าดูแน่นอนครับ

ด้วยความที่หนังชัดเจนว่าเป็นเรื่องราวความรักเพศเดียวกัน ชายแท้หลายคนอาจจะตัดสินใจไม่ดูเลย ก็ต้องบอกว่าดูได้ไม่มีฉาก SEX หรือแม้แต่โป๊เปลือยอะไรสักนิดเดียว คงเพราะทำจากมังงะไม่ติดเรตด้วย  บวกกับวงการบันเทิงญี่ปุ่นยังไม่หัวก้าวหน้าแบบบ้านเราที่ต้องบอกว่าเราล้ำหน้าเขาในการทำหนังแบบนี้จริงๆ ซึ่งในเรื่องนี้มากสุดคือจูบแบบผ่านๆ ออกแนวผิดพลาดหรือไม่ได้ตั้้งใจ ซึ่งนับได้ไม่เกิน 3 ครั้งเลยด้วย เอาว่าถ้าหนุ่มเกย์ตั้งใจมาดูแนวนี้อาจจะผิดหวังกว่าชายแท้มาดูก็ได้ เพราะเขาไม่ได้กะขายจุดนี้เลยแม้แต่น้อย เรื่องราวจริงๆ เป็นแนวความรักที่เกิดกับใครก็ได้ แล้วก็ออกแนวละมุนๆ พร้อมกับตลกกับการที่พระเอกเป็นชายแท้ๆ แต่โดนรุมรักจากเพศเดียวกันไม่ทันตั้งตัว และก็ไม่ใช่แค่คู่ของพระเอก แต่ในเรื่องยังมีคู่ชายหญิงอื่น ประเด็นอื่นมาเกี่ยวข้องด้วยครับ

ความตลกของหนังหลักๆ มาจากการที่พระเอกเป็นคนมองโลกในแง่ดี มีน้ำใจกับคนอื่นมากจนอาจจะเรียกว่าซื่อบื้อเลยก็ได้ และไอ้ความมีน้ำใจใสๆ ของเขานี่แหละ ทำให้กลายเป็นที่ต้องตาต้องใจของชายหนุ่มในบริษัทอย่าง “คุโรซาวะ” หัวหน้าที่ทำงานกันมา 10 กว่าปี ซึ่งหัวหน้าของพระเอกก็มีครอบครัวแล้วแท้ๆ แต่กลับเผลอใจหลงรักเขาซะได้ แล้วก็แสดงออกแบบเหนียมอายเหมือนสาวแรกรุ่นโอเวอร์แอ็กติ้งกระชากวัย ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นเกย์มาก่อน แบบพึ่งมารู้ตัวตอนได้ใกล้ชิดฮารุตะนี่แหละ ซึ่งหนังจะลงรายละเอียดให้เราเข้าใจได้หมดว่าหัวหน้าเขามาหลงรักตอนจังหวะไหน แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปกับชีวิตครอบครัวของหัวหน้า ที่ดูเหมือนว่าต้องพบจุดจบลงแน่แท้ถ้ายังฝืนจะรักพระเอกแบบนี้

อีกด้านคือรุ่นน้องบอบบาง หน้าใสกิ๊ง แบบเห็นหน้าก็รู้เลยหมอนี่น่ารักสุดๆ แถมเพียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติแม่บ้านในร่างชายที่หาไม่ได้ง่ายๆ เลยในยุคนี้ ทำให้ฮารุตะเองก็คาดไม่ถึงว่าหมอนี่จะมาหลงรักเขาได้ แถมยังขี้น้อยใจ เอะอะก็จะหนีไปๆ ซึ่งเขาก็รู้สึกผิดที่ไม่อาจจะรักตอบได้ แต่ก็อยากให้อยู่เป็นเพื่อนกัน แต่มันก็ดันมาขโมยจูบแรกเขาไปซะนี่!

หนังวางตัวละครไว้ 2 คนเป็นจุดเริ่มต้น แล้วก็เป็นเมนหลักของเรื่องที่พระเอกต้องสับสนวุ่นวายใจกับที่ทั้งคู่การพยายามชนะใจเขา ก็กลายเป็นความฮาต่างวัยคนละแบบ คนนึงรุ่นลุงมารักแบบโอเวอร์ๆ ทำตาปิ๊งๆ พยายามหยอดเสน่ห์ชายสูงวัยใส่เขาให้ขนลุก แต่กับอีกคนนึงมาแนวเพื่อนรุ่นน้องผู้บอบบาง นิสัยดี ที่เขาเองก็ขาดหมอนี่ไม่ได้ ไม่งั้นบ้านรก ชีวิตกลับมาแย่แน่นอนหลังแม่ทิ้งบ้านนี้ไปให้เขาดูแลเอง พระเอกนิสัยเหมือนเด็กโลเลก็เลยปวดหัวตึ๊บว่าเอาไงกับชีวิตตรูที่ไม่นึกว่าจะมาลงเอยกับเรื่องอะไรแบบนี้ขึ้น ซึ่งบอกเลยว่าความฮาจัดหนักเต็มพิกัดจริงๆ ตลอดเวลาที่ดูทั้งซีซั่นเลยจริงๆ ครับ

และจากการที่สองคนนี้มารักพระเอกนี่แหละ ทำให้เกิดเอฟเฟ็กต์ต่อเนื่องไปยังคนใกล้ตัวพระอกกับคนอื่นในบริษัทและครอบครัวของบอสด้วย ซึ่งกลายเป็นว่าพระเอกนอกจากจะต้องปิดบังเรื่องนี้สุดๆ แล้ว ยังต้องโกหกหลายคนแบบไม่ใช่นิสัยของเขาเลย ซึ่งก็กลายเป็นความฮาทวีคูณเข้าไปอีก เมื่อทุกคนเริ่มสงสัยจับผิดเขามากขึ้นเรื่อยๆ แถมเพื่อนสาวสมัยเด็กที่ใกล้ขึ้นคานกลับกลายมาทำให้เขาหวั่นไหวหัวใจเข้าไปอีก ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้กลายเป็นรัก 4-5 เส้าบานปลายไปเรื่อยๆ และออกแนวดราม่าเรียกน้ำตามาได้เหมือนกัน ตรงนี้ไม่อยากสปอยล์ แต่ขอให้ลองรับชมดูจะรู้ว่าหนังผูกเรื่องราวความรักไว้ยุ่งเหยิงแต่น่าสนใจเอามากๆ กับหลากหลายประเด็น หลายคู่ไม่ใช่มีแค่พระเอกเท่านั้นที่ต้องปวดหัวกับเรื่องราวนี้เพียงคนเดียว

Ossan’s Love มีความลื่นไหนดูสนุกเอามากๆ ในทุกทาง แต่สิ่งหนึ่งที่หนังอาจจะพลาดหรือไม่ก็ตั้งใจให้เป็นแบบนี้คือ ความรักในเรื่องมีการเปลี่ยนแปลงฉับไว พลิกเรื่องราวกันง่ายๆ เปลี่ยนคู่เปลี่ยนทิศทางกันใหม่ไวเกินไป ซึ่งทำให้กำลังจะอินๆ เรื่องก็พลิกไปอีกทางแบบเดาไม่ได้ หรือไม่ได้ตั้งใจให้เราเลยก็ได้ เพราะไม่ค่อยมีเหตุผลที่หนักแน่นรองรับพอสักเท่าไหร่ในการพลิกเรื่องช่วงหลัง (แรกๆ ยังไม่พลิก) ทำให้ไม่ค่อยรู้สึกอินไปจนสุดเหมือนหนังรักดีๆ ที่ขยี้ปมจนแหลกละเอียดในหัวใจ แต่ยังดีที่ความฮาหนักหน่วงยังพอกลบเรื่องราวตรงนี้ไปได้ครับ

สรุป Ossan’s Love SS1

นี่เป็นซีรีส์ที่หาไม่ได้ง่ายเลยในญี่ปุ่น แต่ก็ทำออกมาได้ดี มีโมเมนต์กุ๊กกิ๊กชวนจิ้นบวกความฮาหนักๆ จนท้องแข็งได้ทันทีที่ดูไปไม่กี่นาทีในตอนแรก และก็ยิงยาวไปจนจบซีซั่นด้วยอารมณ์แบบนี้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เรื่องราวความรักแบบนี้ดูน่าเกลียด หรือตลกแบบดูถูกคนเป็นเกย์แต่อย่างใด พร้อมทั้งควบรวมสาระแวดวงอสังหาริมทรัพย์ที่ผูกประเด็นการหาบ้านเข้ากับความรักได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เสียแค่ว่าเรื่องอาจจะพลิกกันปุ๊บปั๊บไวเกินไปจนไม่อินซึ้งได้มากเท่ากับหนังรักดีๆ ครับ

รีวิวซีซั่น 2 เวอร์ชั่นพนักงานสายการบิน (Love: In the Sky)

แปลกใจอยู่เหมือนกันตอนเปิดซีซั่น 2 ขึ้นมาดู เพราะกลายเป็นซีรีส์นี้ใช้ตัวละครหลักเดิมจากซีซั่นแรก “ฮารุตะ” กับ “คุโรซาวะ” มาเป็นลูกน้องกับเจ้านายเหมือนเดิม แต่คราวนี้พระเอกเป็นสจ๊วต คุโรซาวะเป็นกับตันเครื่องบิน ซึ่งยังคงคาแรกเตอร์นิสัยการใช้ชีวิตแบบเดิมไว้ทั้งคู่ไม่เปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย ส่วนตัวละครอื่นเปลี่ยนใหม่หมดยกชุด ซึ่งทำให้ไม่คุ้นเคยสักเท่าไหร่ ส่วนตัวคิดว่านักแสดงชุดเดิมซีซั่นแรกดีอยู่แล้วน่าจะยกชุดมาทั้งหมด แต่เอาว่าก็ดูได้ไม่ถึงกับขัดตาขัดใจครับ

Ossan’s Love Love: In the Sky เวอร์ชั่นสายการบินปรับให้ฮารุะพึ่งเข้ามาทำงานหลังถูกเลย์ออฟจากงานเดิมที่ทำมานาน แล้วก็มาวันแรกพบกับภาพวาดของเขาในตู้เอกสาร ซึ่งก็เป็นมุกเดิมจากซีซั่น 1 ที่เจอในคอมพิวเตอร์ แล้วตัวการที่วาดภาพเหมือนของเขาก็ถูกสงสัยว่าเป็นกับตันเครื่องบินทีมของเขาเองนี่แหละที่วาดภาพเขาช่วงที่ยังฝึกงานอยู่ในบริษัท

แต่หนังไม่ได้เดินรอยตามเดิมอีกแล้ว เพราะหลังจากนั้นสิ่งที่เราคาดเดาไว้จากซีซั่นแรกจะไม่มีอะไรตรงเลยแม้แต่น้อย เหมือนเป็นการเขียนบทดักทางคนดูให้เกิดคล้อยตามว่าจะมาแบบเดิม แต่แล้วก็หักเรื่องราวไปอีกทางซึ่งก็ทำได้ดีเลย เพราะหนังมีทิศทางและประเด็นใหม่ๆ เข้ามาหลายอย่างที่แตกต่างกันไปเลย อย่างเรื่องการทำงานสายการบินที่เวอร์ชั่นนี้ก็ลงลึกระดับที่ใกล้เคียงกับเวอร์ชั่นอสังหาเลย แถมด้วยคนใหม่ๆ ที่เข้ามาหลงรักพระเอกก็มีความซับซ้อนกว่าเดิมมาก ไม่ใช่เปิดตัวกันง่ายๆ แบบในซีซั่นแรก ซึ่งเรื่องราวก็ยังคงความหลากหลายคู่อยู่เช่นเดิม พร้อมกับยังมีเรื่องรักชายหญิงของพระเอกกับรุ่นน้องสมัยเรียนที่แอบชอบเขามาตลอด จนได้มาทำงานที่เดียวกันสมใจเธออีกด้วย แถมยังมีความลับเกี่ยวพันกับคุณลุงกับตันของเรื่องอีก ซึ่งคราวนี้ก็พัวพันอีรุงตุงนังไม่แพ้กันเลย แถมดูดราม่าจะหนักกว่าเดิมด้วยเพราะความรักครั้งนี้ไม่จบลงง่ายๆ แบบซีซั่นแรกอีกแล้ว มีตัวละครที่ต้องปวดใจรักหลายเส้ากันเป็นทอดๆ มากกว่าที่คิดครับ

แต่สิ่งที่เวอร์ชั่นนี้สู้เวอร์ชั่นแรกไม่ค่อยได้เลยคือเรื่องความตลกแบบลื่นไหลเป็นธรรมชาติ ซึ่งอาจจะเพราะผมดูซีซั่นแรกมาหมดแล้วเลยจับทางได้ก็เป็นได้ แต่ถึงไม่ดูมาก่อนก็ยังคิดว่าตลกได้น้อยกว่ามากอยู่เหมือนกัน คือดูแล้วไม่ค่อยขำหนักแบบซีซั่นแรกเลย ซึ่งอาจจะเพราะซีซั่นนี้เล่นเรื่องดราม่าหนักๆ หลายอย่างมากกว่าเดิมก็เป็นได้ครับ

นอกจากนี้แล้วในเวอร์ชั่นสายการบินนี้เรื่องราวมักวนๆ อยู่ในสนามบินไม่ไปไหน ทำให้เรื่องไม่อาจจะครีเอทตัวละครคนนอกที่มาเกี่ยวกับงานพระเอกได้สักเท่าไหร่ ทำให้ดูแล้วค่อนข้างแคบอึดกว่าการได้เห็นทีมพระเอกออกไปทำการตลาดบ้าๆ ข้างถนนพบปะผู้คนมากกว่าเวอร์ชั่นนี้ครับ

สรุป Ossan’s SS2 Love Love: In the Sky

ยังคงสูตรสำเร็จเดิมกับตัวละครเดิมไว้ แต่ไม่ได้สนุกเท่าซีซั่นแรกที่ทำออกมาได้น่าประทับใจกว่ามาก แม้เรื่องราวจะมีความซับซ้อนกว่า แต่ก็อาจจะไม่ถูกจริตของคนดูที่ต้องการแค่ความฮาจัดหนัก+ซึ้งกับความรักที่คาดไม่ถึง มากกว่าความรักหลายเส้าเป็นทอดๆ แบบที่ซีซั่นสองผลักดันดราม่าให้ดูมีน้ำหนักมากกว่าซีซั่นแรกทำไว้ครับ

ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นในเว็บคลิกที่นี่