รีวิว Outer Range เน้นปริศนาเยอะแยะบานตะไท แต่แทบไม่เคลียร์เลยสักอย่าง (ไม่มีสปอยล์)
Outer Range
Summary
ซีรีส์แนวปริศนาลึกลับมากมาย มีความน่าติดตามพอสมควร แต่กลับแทบไม่เคลียร์อะไรเลยในซีซั่นแรก แล้วก็เดินเรื่องโดยเน้นดราม่าปัญหาครอบครัวตัวละครในเรื่องมากกว่า มีส่วนเชื่อมถึงเรื่องลึกลับแค่นิดๆ ทำให้เรื่องค่อนข้างเอื่อยจนน่าผิดหวัง แนะนำให้รอซีซั่น 2 มาให้ชัดเจนก่อนค่อยดูจะดีกว่าครับ
*อัพเดทซีซั่น 2 เคลียร์ปริศนาเกือบหมดและทำได้สนุกกว่าซีซั่นแรกมาก (อ่านรีวิวคลิกที่นี่)
Overall
6/10User Review
( votes)Pros
- เน้นปริศนาเยอะแยะมากมาย
- ดราม่าความสัมพันธ์ครอบครัวที่ค่อยๆ แตกร้าว
- จอช โบรลิน นำแสดงเป็นตัวเอก
- มีพากย์ไทย
Cons
- แทบไม่เคลียร์ปริศนาที่ใส่มาไว้เลย
- CG ใช้น้อยไม่ค่อยมีอะไรหวือหวา
- ใช้เวลาเล่นปัญหาดราม่าครอบครัวเยอะมากเกินไป
Outer Range ชื่อไทย แดนพิศวงปมมรณะ ซีรีส์ Amazon prime ความยาว 8 ตอนจบซีซั่นแรก แนวดราม่าไซไฟ ด้วยเรื่องราวปริศนาลึกลับที่เกิดจากหลุมประหลาดในไร่ ที่เป็นต้นเหตุของเหตุการณ์เหนือธรรมชาติต่างๆ รวมกับดราม่าครอบครัวที่ต้องการเก็บความลับนี้ไว้ครอบครอง
ตัวอย่าง Outer Range
ซีรีส์แนวลึกลับไซไฟที่พล็อตเรื่องดันคล้ายๆ La Brea ที่เป็นหลุมยุบข้ามกาลของ HBO อยู่เหมือนกัน แต่ก็เข้าใจว่าไม่ได้ไปก๊อปอะไรกันนะครับ เพราะทั้งสองเรื่องนี้ก็สร้างมาไล่ๆ กัน แล้วพล็อตแนวอยู่ๆ เกิดเรื่องลึกลับขึ้นนี่ก็เป็นแนวนิยมของซีรีส์ฝรั่งอยู่แล้ว เพียงแต่มันบังเอิญตรงความที่เป็นหลุมปริศนาเหมือนกันเท่านั้น
เรื่องนี้นำเสนอพล็อตเรื่องแนวหลุมลึกลับที่อยู่ๆ โผล่มาในไร่ของครอบครัวตัวเอก รอยัล แอ็บบ็อต ชาวไร่ที่ใช้วิถีชีวิตแบบดั้งเดิมมากกว่าใช้แรงงานเครื่องจักรค้าขายใหม่ๆ แบบบ้านอื่น นั่นทำให้ครอบครัวของเขาค่อนข้างสันโดษ ไม่ได้คบค้าสมาคมกับใครมาก รอยัลพยายามเก็บงำความลับเรื่องหลุมนี้ไว้ ในขณะที่เกิดเหตุร้ายขึ้นเรื่อยๆ กับครอบครัวของเขา ทั้งยังมีเศรษฐีประจำเมืองที่หวังยึดพื้นที่ส่วนนี้ของเขา เพราะล่วงรู้ถึงการมีอยู่ของหลุมนี้เช่นกัน
ซีรีส์เรื่องนี้เล่นเรื่องแนวทางเดียวกับ LOST ที่เป็นต้นตำหรับของการจับยัดปริศนาพิสดารมากมายมาไว้ในเรื่อง อย่าง La Brea นั่นก็เช่นกัน แต่ Outer Range ดูจะเล่นหนักข้อกับปริศนาเหล่านี้แบบเดียวกับซีรีส์สมัยก่อนอย่าง LOST มากไปหน่อย เพราะปริศนามากมายที่เรื่องนี้เปิดขึ้นมาแทบจะไม่มีคำเฉลยใดๆ เลยในซีซั่นแรก อย่างที่มาหลุมนี้ก็คลุมเครือว่าจากไหนกันแน่ โดยตอนแรกก่อนเข้าเรื่องพูดถึงตำนานเทพกรีกโคสโนสใช้เคียวเจาะรูกาลเวลา ต่อจากนั้นเรื่องก็ใส่นั่นนี่มาแบบเยอะแยะไปหมด อย่างควายไบซัน โลกต่างเวลา หินแร่สีดำที่เหมือนมีชีวิต หญิงสาวปริศนาที่อยู่ๆ ก็โผล่มาในไร่ นิมิตรที่เกิดขึ้นกับคนที่มีหินประหลาด ไปจนถึงหมีพูดได้ก็ยังมี ซึ่งใครที่คิดว่าดูไปเรื่อยๆ แล้วจะเฉลยในซีซั่นแรก ต้องบอกเลยว่ามีเฉลยปริศนาที่ใส่มาในเรื่องไม่ถึง 5% แถมเฉลยมาก็เพื่อทำให้เป็นปริศนาใหม่ต่อไปอีก เหมือนมั่นใจเลยว่าต้องได้ทำซีซั่นต่อไปยาวๆ แน่ถึงเลือกเล่นในแนวเดียวกับ LOST ซึ่งเอาจริงๆ แนวทางนี้ในปัจจุบันอาจจะไม่เวิร์คแล้วก็ได้ เพราะซีรีส์ใหม่ๆ มักเน้นเรื่องรวดเดียวจบในซีซั่น ไม่ใช่ซีรีส์ที่วางยาวไว้เฉลยซีซั่นหลังๆ แบบยุคก่อน ขนาดที่ผู้เขียนเองเป็นแฟน LOST และชอบแนวนี้โดยตรงยังรู้สึกว่าแนวทางนี้ไม่ค่อยเวิร์คแล้ว เพราะคนดูมีความอดทนที่จำกัด การทำให้เรื่องเต็มไปด้วยปริศนาแล้วเฉลยน่าจะเป็นการผลักให้ผู้ชมเมื่อดูจบแล้วรู้สึกผิดหวังมากกว่าความรู้สึกลุ้นน่าติดตามในซีซั่นหน้า ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะจบกี่ซีซั่นด้วย เพราะเรื่องนี้มาจาก Brian Watkins ผู้สร้างหน้าใหม่ในวงการแบบไม่เคยมีผลงานมาก่อนเลยด้วยครับ
แล้วการที่ซีรีส์มาในแนวลึกลับแบบนี้คนดูก็คาดหวังไว้ว่าจะดูแนวลึกลับต่อเนื่องมากกว่า แต่เรื่องกลับใช้เวลาเดินเรื่องปัญหาดราม่าความสัมพันธ์ในครอบครัวมากกว่าก็ทำให้ชวนผิดหวังได้ ซึ่งเรื่องค่อนข้างเอื่อยมากพอสมควร โดยมีจุดเริ่มจากการที่รอยัลซ่อนความลับนี้ไว้ แล้วก็ปกปิดมันสุดชีวิตไม่บอกใคร จนทำให้เรื่องราวร้ายๆ ที่เขาใช้หลุมนี้เป็นที่ซ่อนหลายๆ อย่างก็เริ่มแดงออกมา แล้วทางครอบครัวเองก็มีปัญหาการตีกรอบของพ่อ ทำให้เราตัวละครลูกๆ ของรอยัลพยายามแยกตัวออกไปจากงานในไร่แห่งนี้ ซึ่งมันก็ทำให้พ่อกับแม่เจ็บปวดใจในความพยายามรักษาครอบครัวไว้ ทั้งยังมีสาวลึกลับที่เข้ามาอาศัยในพื้นที่ไร่ ทำให้ชีวิตของครอบครัวนี้มีปัญหาเพิ่มขึ้นไป นอกจากนี้แล้วก็ยังไปเล่าถึงปัญหาครอบครัวเศรษฐีไร่ติดกันอีก ซึ่งทำให้เรื่องยืดยาวมากขึ้นไปอีก รวมๆ แล้วปัญหาครอบครัวตรงนี้มาเพื่อเติมเวลาให้เต็มๆ ตอน เพราะถ้าเน้นเล่าเรื่องลึกลับนั้นคงยากที่จะทำให้ต่อเนื่องได้ เพราะตัวเรื่องแทบไม่เฉลยอะไรเลยจนจบซีซั่นนั่นแหละครับ
และการที่ส่วนลึกลับของเรื่องถูกเล่าออกมาน้อย ก็ทำให้เรื่องนี้ใช้ CG ค่อนข้างน้อยตามไปด้วย โดยส่วนใหญ่ก็แทบไม่ได้ใช้ CG ไปกับอะไรมาก นอกจากพื้นผิวหลุม ฝูงควายไบซัน หมี อาจจะไม่เนียนมากนัก แต่ก็ไม่ถึงกับขัดตาอะไรมาก
ตัวนักแสดงหลัก จอช โบรลิน คือจุดขายหนึ่งของเรื่อง ซึ่งดีกรีฝีมือของเขาหายห่วง บทรอยัลเป็นชายแก่ที่ดื้อรั้นและพยายามรักษาครอบครัวด้วยชีวิต แต่ตัวเองก็มีความทะเยอทะยานจากครอบครองหลุมนี้ไว้ ซึ่งบทของเขาคือตัวผลักดันให้เรื่องราวดูน่านิดตามว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปเรื่อยๆ โดยมีออทัม (รับบทโดย Imogen Poots) สาวปริศนาที่รับบทเป็นตัวแปรก่อปัญหาหลายอย่างให้กับรอยัล แต่บทของเธอในตอนแรกน่าสนใจดูมีเสน่ห์ลึกลับตามเรื่อง แต่ตอนหลังถูกทำให้เป็นเหมือนคนบ้าไร้สติแบบไม่ค่อยมีเหตุผลรองรับให้เข้าใจสักเท่าไหร่ นอกจากนี้ก็มีบทลูกชายทั้งคู่ของรอยัล ซึ่งคนพี่มีปมว่าเมียหายไปและต้องอยู่ในความทุกข์ตลอด ส่วนคนน้องก็อยากเด่นดังในวงการแข่งขี่วัวกระทิง ซึ่ใส่มาเพื่อประกอบเรื่องแทบไม่มีส่วนเชื่อมโยมกับเรื่องหลุมในซีซั่นนี้เลย แต่มีบทเด่นอีกคนคือรักษาการนายอำเภอหญิงเชื้อสายอินเดียนแดงที่กำลังอยากได้คะแนนเสียงจากคนในเมืองเพื่อให้เธอที่มีเชื้อสายอินเดียนแดงได้เป็นตำแหน่งนี้ได้คนแรก โดยที่เธอต้องพยายามสืบสวนคดีหลักในเรื่องก่อนจะไปเจอเรื่องเหนือธรรมชาติที่เกิดในเมือง แล้วก็ต้องหาคำตอบอธิบายมันให้ได้
ซีรีส์จบแบบค้างคาปริศนาไว้บานตะไท แล้วก็ไม่ได้รู้สึกชวนให้น่าติดตามเท่าไหร่ คิดว่ารอให้ซีซั่น 2 มาก่อนก็ได้แล้วค่อยตัดสินใจดูอีกทีครับ