playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Paradise (Disney+) ซีรีส์การเมืองไซไฟ ปริศนาฆาตกรรมท่ามกลางวันสิ้นโลก

Paradise

Summary

ซีรีส์แนวการเมืองผสมไซไฟนำเสนอปัญหาโลกร้อนเข้ากับสังคมจำลองขนาดใหญ่ใต้ดิน ซึ่งพล็อตเรื่องแบบนี้ไม่ได้ใหม่มีหลายเรื่องทำออกมาแล้ว อย่าง Fallout แต่จุดเด่นคือการเล่าเรื่องแนวสืบสวนย้อนอดีตว่าเกิดอะไรขึ้นกับผืนโลกด้านบนสลับกับการสืบสวนหาคนฆ่าประธานาธิบดีอเมริกาในสังคมจำลอง ซึ่งเรื่องทำให้ทุกคนดูลึกลับมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรมนี้ได้หมด และก็เชื่อมโยงเหตุการณ์ปัจจุบันเข้ากับวันสิ้นโลกที่มีแค่ฉากสนทนาในทำเนียบขาวล้วนๆ แต่ตื่นเต้นระทึกเหมือนหนังวันสิ้นโลกจริงๆ โดยแทบไม่ต้องใช้เอฟเฟกต์ CG แต่อย่างใด แต่ตอนจบของเรื่องดูเหมือนจะตั้งใจหลอกผู้ชม ด้วยการเฉลยตัวละครที่อยู่นอกกรอบความคาดหมาย และมีจุดบอดในฉากการเข้าไปฆาตกรรมที่ง่ายเกินไป เลยกลายเป็นตอนที่ทำขึ้นเพื่อเตรียมทางไปสู่ซีซั่น 2 มากกว่าจะเป็นไคลแม็กซ์ที่น่าประทับใจครับ

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • ไซไฟการเมืองผสมโลกร้อน
  • สร้างความลึกลับให้กับทุกตัวละคร
  • การนำเสนอวันสิ้นโลกโดยใช้เพียงฉากสนทนาในทำเนียบขาว

Cons

  • เล่าเรื่องย้อนอดีตถี่มาก
  • มีจุดบอดในตอนเฉลยวิธีการเข้าไปฆ่าที่ง่ายเกินไป
  • ระบบเสียงรอบทิศทางมีไม่ครบทุกตอน

ADBRO

Paradise ซีรีส์ Disney+ 8 ตอนจบซีซั่น 1 นำเสนอเรื่องราวของเอเจนต์หน่วยรักษาความปลอดภัยประธานาธิบดีที่กำลังสืบสวนคดีฆาตกรรมอดีตประธานาธิบดีในสังคมจำลองหลังวันสิ้นโลกที่ดูสงบสุข
Paradise (2025) on IMDb

รีวิว Paradise (ไม่สปอยล์เนื้อหาสำคัญ)

 

เป็นซีรีส์ที่ผสมผสานแนวการเมือง ไซไฟ และปัญหาโลกร้อน โดยดำเนินเรื่องใน “พาราไดซ์” สังคมจำลองที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับผู้คนที่ได้รับการคัดเลือกให้มาอยู่ร่วมกันหลังจากวันหายนะของโลก ทุกอย่างดูเป็นปกติสุขจนกระทั่งประธานาธิบดีถูกฆาตกรรมอย่างเป็นปริศนา เซเวียร์ คอลลินส์ บอดี้การ์ดอันดับ 1 ข้างกายประธานาธิบดี กลายเป็นผู้พบศพคนแรกและเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าทุกอย่างในสังคมจำลองอาจไม่ได้เป็นไปตามที่เห็น

จุดเด่นของเรื่องนี้คือการผสมผสานทฤษฎีการเมืองสมคบคิต ปัญหาโลกร้อน และสังคมจำลองในแนวไซไฟเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เรื่องเริ่มต้นด้วยการเปิดฉากการตายของประธานาธิบดีในพาราไดส์ แล้วค่อยๆ เล่าย้อนหลังถึงที่มาของสังคมจำลองนี้และภูมิหลังของตัวละครแต่ละตัว

โครงเรื่องมีความซับซ้อนโดยเฉพาะการเปิดเผยประวัติของเซเวียร์ ตัวเอกของเรื่อง ซึ่งผู้ชมต้องรอจนถึงตอนสุดท้ายถึงจะเข้าใจเหตุการณ์ในวันสิ้นโลกอย่างครบถ้วน ซีรีส์ใช้เทคนิคการเล่าเรื่องย้อนหลังแบบตัดสลับเหตุการณ์ไปมาอย่างเข้มข้น โดยกินเวลามากกว่าครึ่งเรื่อง ซึ่งอาจทำให้รู้สึกเบื่อกับตรงนี้อยู่บ้าง

จุดเด่นที่น่าสนใจคือตอนที่ 7 ที่จำลองเหตุการณ์วันสิ้นโลกได้อย่างน่าติดตาม โดยเฉพาะการสะท้อนให้เห็นถึงความยากลำบากของประธานาธิบดีที่ต้องตัดสินใจอพยพคนเพียงหลักหมื่นในขณะที่ต้องทิ้งประชากรอเมริกาหลายร้อยล้านคนไว้ รวมถึงผลกระทบจากอาวุธนิวเคลียร์ที่สะสมมาตลอดหลายทศวรรษ ที่กลายเป็นหายนะของจริงนอกจากปรากกฏการณ์โลกร้อนเป็นตัวเร่งมันออกมา โดยซีรีส์นำเสนอเหตุการณ์ตื่นเต้นนี้ผ่านการสื่อสารของตัวละครในทำเนียบขาวเท่านั้น ไม่ได้มีฉากที่ใช้เอฟเฟ็กซ์ CG ทุ่มทุนสร้างแบบหนังวันสิ้นโลกเลย (ถ้าใครรอตรงนี้ก็อาจจะน่าผิดหวังหน่อย)

ในส่วนของปัจจุบันตัวเรื่องให้เซเวียร์ดำเนินการสืบสวนอย่างลับๆ โดยเขาไม่ได้มีหน้าที่อย่างเป็นทางการ และถูกถอดถอนออกจากการสืบสวนเนื่องจากความเกลียดชังที่มีต่อประธานาธิบดีอย่างชัดเจนที่ถูกเปิดเผยออกมาระหว่างเข้าเครื่องจับเท็จ ซึ่งนี่กลายเป็นปมสำคัญของเรื่อง และแสดงให้เห็นถึงความสามารถของเซเวียร์ในการแยกแยะระหว่างหน้าที่กับความรู้สึกอย่างเด็ดขาด ต่างจากตัวละครอื่นในเรื่องที่ต่างก็มีความลับปกปิดซ่อนเร้นและมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรมไม่มากก็น้อย

ซีรีส์ใช้กลวิธีการเปิดเผยความลับทีละน้อย ทำให้ผู้ชมเกิดข้อสงสัยและคลี่คลายตัดผู้ต้องสงสัยออกไปทีละคน โดยผูกปมกับความลับทางการเมืองที่เกี่ยวข้องกับการสร้างพาราไดส์

น่าเสียดายที่ปมความลับไม่ได้ยากต่อการคาดเดานัก โดยเฉพาะสำหรับคนที่คุ้นเคยกับผลงานแนวนี้ เช่น ซีรีส์ Fallout ของ Amazon Prime อย่างไรก็ตาม ซีรีส์ก็ยังคงสามารถเปิดเผยความจริงของพาราไดส์ได้อย่างน่าตื่นเต้นพอสมควรอยู่

ช่วงที่ดีที่สุดของเรื่องน่าจะเป็นตอนที่ 6 ก่อนที่จะเฉลยเหตุการณ์วันสิ้นโลกในตอน 7 ตามมา และตอน 8 ดูเหมือนจะเป็นการปูเรื่องสำหรับซีซั่น 2 มากกว่าที่จะเป็นตอนจบอันน่าตื่นเต้นของซีซั่นแรก โดยมีเซอร์ไพรส์เล็กน้อยเกี่ยวกับตัวฆาตกรที่แท้จริง ซึ่งมีจุดบอดช่องโหว่ของบทที่ไม่ได้อธิบายเรื่องการเข้าไปถึงในบ้านพักประธานาธิบดีได้อย่างไรให้ชัดเจน ทำให้ตัวเรื่องที่เล่ามาทั้งหมดดูเป็นแค่ทางผ่านหลอกคนดูเท่านั้นครับ

สรุป ซีรีส์แนวการเมืองผสมไซไฟนำเสนอปัญหาโลกร้อนเข้ากับสังคมจำลองขนาดใหญ่ใต้ดิน ซึ่งพล็อตเรื่องแบบนี้ไม่ได้ใหม่มีหลายเรื่องทำออกมาแล้ว อย่าง Fallout แต่จุดเด่นคือการเล่าเรื่องแนวสืบสวนย้อนอดีตว่าเกิดอะไรขึ้นกับผืนโลกด้านบนสลับกับการสืบสวนหาคนฆ่าประธานาธิบดีอเมริกาในสังคมจำลอง ซึ่งเรื่องทำให้ทุกคนดูลึกลับมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรมนี้ได้หมด และก็เชื่อมโยงเหตุการณ์ปัจจุบันเข้ากับวันสิ้นโลกที่มีแค่ฉากสนทนาในทำเนียบขาวล้วนๆ แต่ตื่นเต้นระทึกเหมือนหนังวันสิ้นโลกจริงๆ โดยแทบไม่ต้องใช้เอฟเฟกต์ CG แต่อย่างใด แต่ตอนจบของเรื่องดูเหมือนจะตั้งใจหลอกผู้ชม ด้วยการเฉลยตัวละครที่อยู่นอกกรอบความคาดหมาย และมีจุดบอดในตัวบทบางอย่างที่ง่ายเกินไป เลยกลายเป็นตอนที่ทำขึ้นเพื่อเตรียมทางไปสู่ซีซั่น 2 มากกว่าจะเป็นไคลแม็กซ์ที่น่าประทับใจของซีซั่นแรกครับ

 

ติดตามอ่านรีวิวเรื่องอื่นในดิสนีย์+ ได้ที่นี่

รีวิว Black Doves พิราบเงา (Netflix) ซีรีส์สายลับที่ตัวละครมีเสน่ห์ซับซ้อนคมคายสุดๆ