playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว PASSING (NETFLIX) เปลี่ยนผ่านเชื้อชาติผิวดำกลายเป็นขาว

Passing

สรุป

สำหรับผู้ขมที่ชอบแนวหนังคลาสสิคอินดี้ก็คงไม่มีปัญหากับการรับชมใดๆ เพราะตัวเรื่องก็ทำออกมาลงตัวดี ความยาวก็ไม่มากแค่ 99 นาที แต่สำหรับผู้ชมที่ไม่ใช่สายนี้ก็แนะนำให้ข้ามไปเลยดีกว่า เพราะการเดินเรื่องออกแนวราบเรียบเน้นบทสนทนาโต้ตอบกันในชีวิตประจำวันเป็นส่วนใหญ่ จนออกแนวน่าเบื่อได้ง่ายๆ ครับ

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • หนังขาวดำย้อนยุคเรื่องราวการเหยียดผิวแบบที่คนผิวดำมีอภิสิทธิ์เทียบเท่าคนผิวขาวแล้ว
  • สัดส่วนภาพ 4:3

 

Cons

  • ตัวเรื่องราบเรียบมากเหมาะกับผู้ชมหนังอินดี้มากกว่าผู้ชมทั่วไป

ADBRO

Passing  หนัง Netflix แนวดราม่า เรื่องราวในนิวยอร์คช่วงทศวรรษ 1920 ชีวิตของหญิงผิวสีคนหนึ่งต้องพลิกผัน เมื่อเธอได้กลับมาพบเพื่อนเก่าสมัยเด็กที่ใช้ชีวิตเป็นชนผิวขาว

 Passing (2021) on IMDb

ตัวอย่าง Passing

ภาพยนตร์ดราม่าขาวดำปี 2021 ที่เขียนบท อำนวยการสร้าง และกำกับโดย Rebecca Hall ในการกำกับเรื่องแรกของเธอ นำแสดงโดย Tessa Thompson กับ Ruth Negga ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากนวนิยายชื่อเดียวกันในปี 1929 โดยเนลลา ลาร์เซ่น ชื่อเรื่องหมายถึงชาวแอฟริกัน – อเมริกันที่มีสีผิวอ่อนพอที่จะถูกมองว่าเป็นสีขาว ซึ่งเรียกว่า Passing ซึ่งเป็นผู้หญิงสาวตัวเอก 2 คนของเรื่องนี้

ฉากของเรื่องอยู่ในนิวยอร์ก ทศวรรษ 1920 เริ่มจากการกลับมาพบกันของเพื่อนสมัยเด็ก 2 คน “ไอรีน”แต่งงานกับหมอผิวสี ส่วน “แคลร์” จากไปตั้งแต่เด็ก ใช้ชีวิตแต่งงานกับชายผิวขาวผู้มั่งคั่ง และเหยียดเชื้อชาติ การกลับมาพบกันครั้งนี้แคลร์โหยหาคิดถึงเพื่อนเก่าไอรีนมาก ในขณะที่ไอรีนกลับรู้สึกตะขิดตะขวงใจกับการตีสนิทของแคลร์ที่เริ่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตครอบครัวเธออย่างไม่ยินยอม แต่สามีของไอรีนกลับรู้สึกว่าแคลร์ช่วยเข้ามาทำให้ชีวิตของเขามีความสุขมากขึ้น

ฉากของเรื่องนี้ส่วนใหญ่จะวนเวียนอยู่ที่งานเลี้ยงการกุศลของไอรีน โดยมีประเด็นอยู่ที่งานเลี้ยงนี้เป็นการรวมคนผิวดำชนชั้นกลางสูงมารวมตัวกัน ทำให้แคลร์ค่อยๆ แทรกเข้ามาในชีวิตครอบครัวของไอรีน โดยที่เธอก็แอบสามีมาโดยไม่บอกกล่าวเพราะเรื่องเชื้อชาติของเธอเป็นความลับที่ปกปิดไว้ ในขณะที่สามีของไอรีนก็ค่อยๆ สนิทสนมกับแคลร์มากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นความวิตกกังกวลของไอรีนเองที่คิดว่าสามีตัวเองอาจจะแอบมีใจให้เพื่อนเก่าของเธอ ซึ่งเรื่องราวตรงนี้คือเมนหลักของเรื่องที่จะพาไปยังฉากสุดท้ายที่ชวนให้คนดูตั้งคำถามในใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับโศกนาฎกรรมในตอนจบ

การที่ผู้กำกับ Rebecca Maria Hall เลือกใช้สีขาวดำก็เพื่อให้เข้ากับเรื่องราวการเหยียดสีผิว ในอีกนัยยะคือสะท้อนเรื่องสีผิวของสองตัวละครหลักขาวกับดำไปในตัว รวมถึงฉากย้อนยุคในเรื่องด้วย ซึ่งผู้กำกับจงใจใช้สัดส่วนภาพ 4:3 ให้ได้อารมณ์หนังยุคเก่าเข้าไปอีก ซึ่งก็ทำให้องค์ประกอบทั้งหมดดูกลมกลืนดี

สำหรับผู้ขมที่ชอบแนวหนังคลาสสิคอินดี้ก็คงไม่มีปัญหากับการรับชมใดๆ เพราะตัวเรื่องก็ทำออกมาลงตัวดี ความยาวก็ไม่มากแค่ 99 นาที แต่สำหรับผู้ชมที่ไม่ใช่สายนี้ก็แนะนำให้ข้ามไปเลยดีกว่า เพราะการเดินเรื่องออกแนวราบเรียบเน้นบทสนทนาโต้ตอบกันในชีวิตประจำวันเป็นส่วนใหญ่ จนออกแนวน่าเบื่อได้ง่ายๆ ครับ

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่

 

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!