รีวิว Picture This (Prime) โฟกัสรักให้ชัด แต่กลับทำฉากรักไม่ชัดเอง
Picture This
Summary
เป็นภาพยนตร์รักที่ไม่ได้โฟกัสที่ความรักของตัวเอกอย่างชัดเจน การเล่าเรื่องขาดสมดุลระหว่างความรักและปัญหาธุรกิจของตัวเอก ขาดการพัฒนาความสัมพันธ์กลับตัวพระเอกมากพอ แม้จะมีความพยายามสร้างสีสันด้วยวัฒนธรรมอินเดียในอังกฤษและมุกตลกจากตัวละครประกอบเพื่อนเกย์ แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้ภาพยนตร์โดดเด่นในแนวโรแมนติกคอมเมดี้ได้นักครับ
Overall
5.5/10User Review
( votes)Pros
- การนำเสนอวัฒนธรรมอินเดียในอังกฤษ
- ตัวละครเพื่อนเกย์โดดเด่น
- มีพากย์ไทย
Cons
- ขาดฉากสร้างความรู้สึกโรแมนติกที่น่าประทับใจ
- นางเอกที่ขาดเสน่ห์
- บทพระเอกน้อยมาก
- ฉากจบหาทางออกง่ายๆ
ADBRO
Picture This โฟกัสรักให้ชัดที ภาพยนตร์แนวรักตลก Original amazon Prime เพีย ช่างภาพสาววัยใกล้ 30 ที่กำลังประสบปัญหาธุรกิจใกล้ปิดตัว แต่ต้องการสินสอดของแม่มาช่วยเหลือเพียงแต่เธอต้องแต่งงาน ตามคำทำนายของหมอดูว่า รักแท้กำลังรออยู่ในห้าเดทถัดไปของเธอที่แม่เธอหาาให้ แต่อดีตแฟนของเธอกลับมาปรากฏตัว ทำให้ชีวิตความรักของเธอต้องตกอยู่ในความยุ่งเหยิง
รีวิว Picture This โฟกัสรักให้ชัดที
หนังแนวรักตลกที่เล่าเรื่องครอบครัวอินเดียในอังกฤษ สะท้อนความเป็นจริงของชุมชนอินเดียที่มีขนาดใหญ่ในสหราชอาณาจักร ตัวละครส่วนใหญ่เป็นคนอินเดีย ยกเว้นพระเอกและเพื่อนสนิทของนางเอกที่เป็นชาวตะวันตก เรื่องราวไม่ได้เน้นความรักโรแมนติกระหว่างพระนางเป็นหลัก แต่หัวใจสำคัญของเรื่องคือการที่นางเอกต้องดิ้นรนกอบกู้กิจการร้านถ่ายภาพศิลปะที่กำลังจะถูกธนาคารยึดภายในเวลาเพียงหนึ่งเดือนเศษ ทางออกเดียวคือการแต่งงาน เพื่อรับมรดกสินสอดที่แม่ได้เตรียมไว้ให้ ซึ่งหมอดูทำนายว่าเธอจะพบรักแท้ภายในการพบรักครั้งที่ห้า ทำให้แม่ของเธอวางแผนจัดหาหนุ่มๆ มาให้เธอได้รู้จักตามลำดับ แต่จังหวะชีวิตกลับพลิกผัน เมื่อคนรักเก่าสมัยเรียนกลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง ทำให้หัวใจของเธอสับสนวุ่นวายว่าควรจะเลือกเส้นทางไหนระหว่างความรักและความรับผิดชอบ
ด้วยโครงเรื่องที่เลือกนำเสนอผ่านมุมมองของนางเอกเป็นหลัก ภาพยนตร์จึงทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่าเรื่องการเดทกับชายหนุ่มทั้งสามคนที่แม่เลือกสรรมาให้ – เศรษฐีที่กำลังมองหาภรรยา กูรูโยคะผู้สอนเรื่องจิตวิญญาณ และหนุ่มพนักงานที่ทำงานกับมารดาของเธอ
แต่ละการเดทถูกนำเสนออย่างมีสีสันด้วยมุกตลกเล็กๆ น้อยๆ แทรกอยู่ เช่น ฉากกูรูโยคะพานางเอกเดินลุยไฟ ซึ่งแม้จะสร้างความบันเทิงเล็กๆ ได้พอประมาณ แต่ก็กินเวลาไปเกือบชั่วโมงเต็ม ในขณะที่ตัวละครพระเอกแท้จริงกลับมีบทบาทเพียงเล็กน้อย ปรากฏตัวแทรกระหว่างการเดทเหล่านั้นเท่านั้น ก่อนที่ความสัมพันธ์ระหว่างนางเอกกับพระเอกถูกรวบรัดในตอนท้าย จบลงด้วยการตกลงรักกันอย่างง่ายดายโดยปราศจากการพัฒนาความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้ง ทำให้ขาดอรรถรสของความโรแมนติกที่ควรจะเป็นหัวใจสำคัญของภาพยนตร์แนวนี้ ผู้ชมจึงแทบไม่มีโอกาสได้ซึมซับและเอาใจช่วยความรักของตัวละครหลักเลย
ช่วงครึ่งหลังของเรื่องเน้นไปที่การแก้ปัญหาธุรกิจของนางเอก แต่กลับเลือกใช้แนวทางที่ขาดความสมจริง นั่นคือการดังเป็นไวรัลในโซเชียลมีเดียอย่างฉับพลัน ซึ่งเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ถูกนำมาใช้จนกลายเป็นคลิเช่ในหลายภาพยนตร์แล้ว การเสริมสีสันด้วยงานแต่งงานอินเดียของน้องสาวในตอนท้ายเรื่องก็ไม่ได้สร้างความประทับใจแต่อย่างใด
จุดที่ทำให้ภาพยนตร์มีชีวิตชีวาไม่ใช่นางเอก แต่เป็นตัวละครประกอบอย่างเพื่อนเกย์ของเธอ (แสดงโดย Luke Fetherston) ที่คอยสนับสนุนและช่วยเหลือให้เธอได้พบกับคนที่ใช่ เขาทำงานในสตูดิโอเดียวกับเธอและมีบทสนทนาแลกเปลี่ยนมุกตลกกับนางเอกที่ยืนกรานจะถ่ายเฉพาะภาพศิลปะเท่านั้น แม้จะมีนักท่องเที่ยวมาขอถ่ายรูปติดบัตรเป็นประจำ การรับส่งมุกระหว่างตัวละครคู่นี้สร้างความน่ารักให้กับเรื่อง
ในขณะเดียวกัน Simone Ashley ในบทบาทนางเอกกลับไม่สามารถสร้างเสน่ห์ให้กับตัวละครได้มากนัก เนื่องจากบทบาทที่ได้รับให้เธอเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจสูง ยืนกรานว่าจะไม่แต่งงานหรือมีลูกกับใคร ทำให้การแสดงออกดูแข็งกระด้างและขาดความน่าดึงดูด ยิ่งการคู่กับพระเอกที่แสดงโดย Hero Fiennes Tiffin ก็ดูไม่มีเคมีเข้ากันได้เลย
สรุป เป็นภาพยนตร์รักที่ไม่ได้โฟกัสที่ความรักของตัวเอกอย่างชัดเจน การเล่าเรื่องขาดสมดุลระหว่างความรักและปัญหาธุรกิจของตัวเอก ขาดการพัฒนาความสัมพันธ์กลับตัวพระเอกมากพอ แม้จะมีความพยายามสร้างสีสันด้วยวัฒนธรรมอินเดียและมุกตลกจากตัวละครประกอบ แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้ภาพยนตร์โดดเด่นในแนวโรแมนติกคอมเมดี้ได้นักครับ