playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว PLUTO พลูโต อนิเมะที่ถ่ายทอดเรื่องราวจากมังงะได้อย่างปราณีตลึกซึ้งมาก

PLUTO

Summary

นี่คือผลงานสร้างจากมังงะในตำนานมาเป็นแอนิเมชั่นซีรีส์ได้อย่างปราณีต และมีความยาวจุใจโดยไม่ได้ตัดทอนเนื้อหาไป ซึ่งเนื้อเรื่องก็ลงลึกถึงจิตใจของตัวละครทั้งมนุษย์และหุ่นยนต์ในโลกไซไฟที่ซับซ้อน มีฉากสืบสวนตามหาฆาตกรพร้อมฉากแอ็กชั่นเป็นระยะที่ดูแล้วสนุกน่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง แต่นี่ไม่ใช่แนวแอ็กชั่นเต็มตัวตามสไตล์ของผู้เขียนเรื่องนี้อยู่แล้ว ซึ่งก็อาจจะไม่เหมาะกับผู้ชมที่ต้องการแนวแอ็กชั่นโดยตรง และด้วยความยากของเนื้อหาที่ซับซ้อนต้องตีความอยู่ตลอดเวลาก็อาจจะไม่เหมาะกับผู้ชมที่ต้องการดูสบายๆ เช่นกันครับ    

Overall
8.5/10
8.5/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • สร้างจากมังงะชื่อดังของ นาโอกิ อุระซาวะ x โอซามุ เทสึกะ
  • เรื่องราวลึกซึ้งถึงจิตใจและพฤติกรรมมนุษย์กับหุ่นยนต์
  • นำประวัติศาสตร์สงครามอเมริกา-อิรัก มาดัดแปลง
  • งานแอนิชั่นคุณภาพสูง
  • มีพากย์ไทย

 

Cons

  • ไม่ได้มีฉากแอ็กชั่นหุ่นยนต์ต่อสู้กันให้เห็นมาก
  • เนื้อเรื่องซับซ้อนต้องทำความเข้าใจเยอะ

ADBRO

PLUTO” พลูโต อนิเมชั่นซีรีส์แนวไซไฟ จาก Netflix ญี่ปุ่น 8 ตอนจบ สร้างจากมังงะชื่อดังของ นาโอกิ อุระซาวะ x โอซามุ เทสึกะ เกิดเหตุฆาตกรรมในโลกที่สงบสุขซึ่งหุ่นยนต์ไม่สามารถฆ่ามนุษย์ได้ หุ่นยนต์ตำรวจจากยูโรโปลเข้ามาจับคดีนี้ แต่ปริศนาก็ยิ่งดิ่งลึกขึ้นเมื่อเขาไม่พบร่องรอยมนุษย์ในที่เกิดเหตุเลย ยิ่งตามหาความจริงก็ยิ่งพบความเกลียดชังที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งอาจนำหายนะที่อาจทำลายล้างโลกทั้งใบได้

Pluto (2023) on IMDb

รีวิว PLUTO พลูโต (ไม่มีสปอยล์)

อนิเมะจากนักเขียนดัง นาโอกิ อุระซาวะ ผู้เขียน 20th Century Boys ที่เป็นองค์กรลับของเด็กๆ ที่เชื่อมโยงถึงลัทธิล้างโลก และเคยถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ด้วย ซึ่งเรื่องนี้ก็คือผลงานชิ้นต่อมาของเขาเมื่อปี 2003-2009 โดยดึงเอาตัวละครที่ชื่อ อะตอม จากมังงะเก่าแก่ปี 1952 Astro Boy หรือ เจ้าหนูปรมาณู ของอาจารย์ โอซามุ เท็ตซึกะ มาเป็นตัวละครหลักตัวหนึ่งของเรื่อง ในโลกที่หุ่นยนต์ได้ผสานการใช้ชีวิตเข้ากับสังคมมนุษย์ไปมากแล้ว มีกฎหมายสิทธิของหุ่นยนต์ใช้กันทั่วโลก โดยหุ่นยนต์ในเรื่องนี้มีสมองกลที่ช่วยประมวลผลแสดงอารมณ์ได้ใกล้เคียงเหมือนมนุษย์ แต่ก็มีกฎบางอย่างกำกับไว้อย่างการห้ามฆ่าหรือทำร้ายมนุษย์ถ้าไม่ได้รับอนุญาตตามหน้าที่ หรือหุ่นยนต์ไม่สามารถโกหกได้ ซึ่งสองประเด็นนี้คือจุดเริ่มของการพิสูจน์ท้าทายว่า ถ้าหุ่นยนต์โกหกหรือทำร้ายมนุษย์ได้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง? 

สำหรับผู้ชมที่คุ้นเคยกับผลงานของ นาโอกิ อุระซาวะ อยู่แล้วก็คงเข้าใจสไตล์ของเรื่องที่พล็อตซับซ้อนเน้นสำรวจจิตใจมนุษย์ทุกเรื่อง ซึ่งเรื่องนี้ก็ซับซ้อนไม่แพ้กัน ผู้ชมหน้าใหม่ที่ไม่รู้จักงานของเขามาก่อนก็คงมีงงได้แน่นอน เพราะแม้แต่แฟนผลงานเรื่องก่อนๆ มาก็ต้องทำความเข้าใจกับประเด็นจิตวิทยาในเรื่องมากเช่นกันมันอาจจะดูคล้ายพวกหนังฝรั่งอย่าง Blade Runner ก็เพราะ นาโอกิ อุระซาวะ ก็หยิบไอเดียนี้มาดัดแปลง มันจึงความคล้ายคลึงมาก แต่ถ้าเทียบกันแล้ว Pluto ซับซ้อนกว่า ลงลึกกว่า และก็มีหลายประเด็นในเรื่องมากกว่าโจทย์ที่ว่า หุ่นยนต์นั้นเทียบเท่ามนุษย์ได้แล้วหรือยัง ซึ่งเรื่องนี้เนื้อหาแทบจะเลยจุดนั้นไปแล้วจากสภาพสังคมในเรื่องที่หุ่นยนต์ก็กลมกลืนไปกับมนุษย์ปกติมาก และก็ไม่ได้มีประเด็นจับผิดว่านี่เป็นหุ่นยนต์หรือมนุษย์ด้วยเหมือนกัน แต่เป็นการนำเสนอความคิดว่าถ้ามีหุ่นยนต์ที่เทียบเท่ามนุษย์ไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น โดยมีเหตุการณ์ประวัติศาสตร์สำคัญในอดีตกับปัจจุบันมาเป็นเหตุและผลของเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด 

 

เนื้อเรื่องในโลกนี้คืออนาคตที่ล้ำมาก มีหุ่นยนต์ระดับท็อปของโลก 7 ตัว ซึ่งทุกตัวก็จะตกเป็นเหยื่อของฆาตกรปริศนาที่มาพร้อมกับพายุหมุนเพื่อปิดบังตัวเอง และก็ปิดบังฉากต่อสู้กันในเรื่องด้วยจนแทบไม่ให้เห็นอะไรเลย นี่จึงไม่ใช่อนิเมะแนวแอ็กชั่นหุ่นยนต์ต่อสู้กันโดยตรง แต่แม้จะไม่มีฉากตรงๆ แต่เนื้อเรื่องก็สนุกตื่นเต้นกับการที่หุ่นทั้ง 7 ต้องตกเป็นเหยื่อในแต่ละตอน โดยมีเหยื่อเป็นมนุษย์ด้วย และก็ค่อยๆ เฉลยเนื้อเรื่องตามลำดับหลังการต่อสู้ด้วยว่าฆาตกรปริศนานั่นคือตัวอะไร รูปร่างแบบไหน กำเนิดมาจากไหน ใครคือผู้สร้าง และแรงจูงใจในการก่อเหตุฆาตกรรมนี่คืออะไร ซึ่งนี่คือความลับสุดท้ายของเรื่องราวทั้งหมด โดยผู้ชมจะค่อยๆ ได้รู้เรื่องตามลำดับ ไม่ใช่การมาเฉลยทีเดียวในตอนท้าย ทำให้เนื้อเรื่องกระตุ้นความน่าติดตามได้ตลอดเวลา 

สิ่งที่ดีมากของเรื่องนี้คือการค่อยๆ แนะนำตัวละคนหุ่นทั้ง 7 ทีละตัวแบบละเอียดในแต่ละตอน โดยหุ่นทั้ง 7 ก็มีความเกี่ยวโยงกันในบางตัว ซึ่งทุกตัวคือตัวละครที่มีหน้าที่การงานโดดเด่นและมีผลกับสังคมโลกมนุษย์ในตอนนั้นทั้งหมด และยังมีเนื้อเรื่องชีวิตครอบครัวของแต่ละตัว ซึ่งเนื้อเรื่องก็เจาะลึกลงไปในจุดนี้ให้เกี่ยวพันกับคดีฆาตกรรมซ้อนไปอีก อย่าง หุ่นสืบสวนมือหนึ่งของโลกที่มีฝันร้ายปริศนากับความทรงจำแปลกๆ โผล่ขึ้นมาเสมอ หรืออะตอมหุ่นจากญี่ปุ่นก็มีความเกี่ยวพันทางสมองกลอันซับซ้อนจากผู้สร้างเขาขึ้นมา โดยมีน้องสาวของอะตอมที่รับรู้อารมณ์ของสิ่งมีชีวิตได้จากที่ไกลๆ ทั้งหมดนี้ถูกนำมาผูกปมเล่าเรื่องให้เกี่ยวข้องกับคดีทั้งหมดได้อย่างกลมกลืน

 

นอกจากนี้เนื้อเรื่องยังนำประวัติศาสตร์สงครามอเมริกาบุกอิรักมาดัดแปลง และนำเสนอในแบบที่เป็นภาพลักษณ์ของสงครามหุ่นยนต์ที่โหดร้ายและอำมหิต ซึ่งแม้จะมีการเปลี่ยนชื่อประเทศไปแต่ก็เข้าใจได้โดยตรงว่ากำลังนำเสนอว่าประเทศไหนคือตัวร้ายของเรื่อง โดยผู้ชมที่ไม่รู้รายละเอียดประวัติศาสตร์ตรงนี้ก็ยังสามารถเข้าใจเรื่องราวได้เช่นกัน แต่ในตอนสุดท้ายอาจจะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เนื่องจากในต้นฉบับมังงะก็ตั้งใจทำให้ตอนจบเป็นปลายเปิดและไม่พยายามอธิบายอะไรมากอยู่แล้ว (แต่ก็ไม่ได้ยากจนคิดไม่ออก แค่มันไม่ชัดเจนตรงๆ)  

 

ในส่วนของแอนิเมชั่นเรื่องนี้คืองานที่ปราณีตละเอียดมากจาก 3 ค่าย Genco M2 Tezuka Productions ความยาวในแต่ละตอนถึง 1 ชั่วโมง ตัวละครเคลื่อนไหวลื่นไหล ไม่มีการกระโดดของฉาก ลายเส้นก็ถอดแบบมาจากมังงะโดยตรงไม่มีผิดเพี้ยนเลย เรียกว่าเป็นผลงานแอนิเมชั่นเกรด A+ ของ Netflix เลยครับ 

สรุป นี่คือผลงานสร้างจากมังงะในตำนานมาเป็นแอนิเมชั่นซีรีส์ได้อย่างปราณีต และมีความยาวจุใจโดยไม่ได้ตัดทอนเนื้อหาไป ซึ่งเนื้อเรื่องก็ลงลึกถึงจิตใจของตัวละครทั้งมนุษย์และหุ่นยนต์ในโลกไซไฟที่ซับซ้อน มีฉากสืบสวนตามหาฆาตกรพร้อมฉากแอ็กชั่นเป็นระยะที่ดูแล้วสนุกน่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง แต่นี่ไม่ใช่แนวแอ็กชั่นเต็มตัวตามสไตล์ของผู้เขียนเรื่องนี้อยู่แล้ว ซึ่งก็อาจจะไม่เหมาะกับผู้ชมที่ต้องการแนวแอ็กชั่นโดยตรง และด้วยความยากของเนื้อหาที่ซับซ้อนต้องตีความอยู่ตลอดเวลาก็อาจจะไม่เหมาะกับผู้ชมที่ต้องการดูสบายๆ เช่นกันครับ

 

including other English reviews

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!