playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Rebecca (Netflix) หนังแนวโรมานซ์ลึกลับ แต่เฉลยแล้วกลับงั้นๆ (ไม่มีสปอยล์)

Rebecca

สรุป

ตัวหนังพยายามเล่นเรื่องชนชั้นเข้ามาผสมกับเรื่องลึกลับ แต่กลับทำได้แค่ผิวๆ ไปซะทุกอย่าง มีดีตรงนางเอกกับฉากงานสร้างย้อนยุคที่สมจริง ซึ่งก็พอกล้อมแกล้มทดแทนกันได้ แต่หนังลากเรื่องยาวนานมากกว่าจะเฉลยเอาครึ่งชั่วโมงสุดท้าย กับตอนจบที่ง่ายจนเหมือนทิ้งความลึกลับกับปริศนาที่ทำมาไปจนหมด

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
5 (3 votes)

Pros

  • ความสวยใสของนางเอกที่น่ารักไร้เดียงสาน่าติดตาม
  • งานสร้างย้อนยุคที่สมจริง
  • ความคลุมเครือของเรื่องชวนให้ติดตาม
  • ฉากแฟนตาซีในฝันนางเอกที่ดูลึกลับ

Cons

  • ตัวเรื่องหลังเฉลยแล้วกลับไม่มีอะไรที่เซอไพรส์คนดูได้มากนัก
  • ตอนจบหาทางออกของเรื่องแบบง่ายจนเกินไป
  • ช่วงคลุมเครือของเรื่องยาวนานมากถึงชั่วโมงครึ่ง คนดูอาจจะเบื่อไปซะก่อน

ADBRO

Rebecca รีเบคกา คู่รักข้าวใหม่ปลามันเดินทางมาถึงคฤหาสน์เก่าแก่ของตระกูลฝ่ายชาย ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะต้องรับมือกับเงาอดีตของภรรยาคนแรกที่ชื่อรีเบคกา ซึ่งยังทิ้งมรดกไว้ ณ ที่แห่งนี้แม้จะจากโลกไปเนิ่นนาน

ตัวอย่าง Rebecca

ภาพยนตร์จากนิยายแนวโกธิกที่วางตัวเป็นแนวโรมานซ์มิสเทอรีย้อนยุค ตัวเรื่องวางแนวไว้คลุมเครือหลายอย่าง ยิ่งดูจากตัวอย่างก็แอบคิดว่าเป็นหนังผีไปด้วย แต่ตัวเนื้อหาของเรื่องจริงๆ คือแนวรักผสมเรื่องลึกลับที่เกิดขึ้นรอบตัวนางเอกในคฤหาสน์เก่าแก่ โดยมีนางเอก (ลิลลี่ เจมส์ จาก Baby Driver) เป็นตัวเดินเรื่องหลัก ที่ต้องเข้ามาพัวพันกับความลับที่ซ่อนอยู่ที่นี่  ที่จุดเริ่มต้นจากกลับมาของฝ่ายชายที่แต่งงานพาเธอเข้ามาอยู่ด้วย หลังจากพบกันโดยบังเอิญที่โรงแรม และเธอมีสถานะเพียงแค่เป็นคนติดตามรับใช้ของนายหญิงชราคนหนึ่ง ก่อนจะยกระดับขึ้นมาเป็นายหญิงของตระกูลนี้ และการเปลี่ยนสถานะชนชั้นฉับพลันทำให้เธอปรับตัวไม่ทัน จนแทบจะประคองชีวิตคู่ไว้ไม่ได้ แถมตัวสามีเองยังไม่ยอมเปิดเผยว่าเกิดอะไรขึ้นกับภรรยาคนเก่าที่ชื่อว่า “รีเบคกา” อีกด้วย

หนังเริ่มต้นด้วยการปูความสัมพันธ์สดใสของทั้งคู่เหมือนเป็นหนังรักยุคคลาสสิคเชยๆ ที่สาวไร้เดียงสามาพบรักกับพ่อหม้ายตระกูลใหญ่ร่ำรวย ซึ่งตัวเรื่องใช้เวลาไม่นานก็ตัดให้ทั้งคู่ตกลงใจแต่งงานกันทันที และกลับไปยังคฤหาสน์เก่าแก่ “แมนเดอร์ลี” ที่เป็นฉากหลังของเรื่องนี้ ก่อนจะพบว่าชีวิตที่ดูเหมือนแจ็คพ็อตโชคดีร่ำรวย กลับต้องมาเจออะไรที่ลำบากกว่าที่คิด ทั้งการที่มีคนใช้มากมายรุมล้อม แต่กลับอยู่ใต้อำนาจของ “แดนเวอร์” หญิงสูงวัยหัวหน้าคนรับใช้ประจำตระกูล ที่ดูไม่ถูกชะตาเธอตั้งแต่แรก ตัวเรื่องให้นางเอกพยายามปรับตัวเข้าหาทุกคน เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของทุกคน แต่อะไรๆ ก็ไม่เป็นใจ มีแต่เรื่องราวที่ทำให้เธอต้องขายหน้าหรืองุนงงกับการปฏิบัติตัวของสามีที่เดี่ยวดีเดี๋ยวร้าย แถมยังไม่ยอมปริปากว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ กันแน่กับความตายของภรรยาเมื่อปีก่อน แถมยังดูเหมือนว่าแต่งนางเอกมาเพื่อแก้เหงาเพียงเท่านั้น ซึ่งก็กลายเป็นช่วงดราม่ายาวนานมาก มีระทึกนิดๆ จากความฝันประหลาดๆ ของนางเอกทุกคืน ซึ่งออกแนวแฟนตาซีเล่นแสงสีเงาให้ดูลึกลับน่ากลัวเป็นหลัก รวมถึงอะไรบางอย่างที่ชวนให้สงสัยว่า รีเบคกา อาจจะยังมีตัวตนอยู่ในที่แห่งนี้อีกด้วย

ด้วยความยาวสองชั่วโมงของเรื่อง หนังใช้เวลาเดินเรื่องคลุมเครือจากที่บอกไปข้างต้น ก่อนจะมาเฉลยความจริงในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ในคฤหาสน์แห่งนี้ และรีเบคกายังอยู่ในสภาพแบบไหนกันแน่? ซึ่งแม้จะไม่ได้เซอร์ไพรส์หักมุมอะไรนัก เพราะหนังก็ใบ้มาตลอด แต่ก็ถือว่าตัวเรื่องจากนี้ไปสนุกกว่าในช่วงแรกที่คลุมเครือมากเกินไป แทบจะไม่รู้ว่าเป็นแนวอะไรกันแน่เพราะมีทั้งภาพหลอน ฉากแปลกๆ จะเป็นผีหรือฆาตกรรมก็ไม่แน่ใจ ทุกอย่างดูปนๆ กันไปหมด ซึ่งพอเรื่องกระจ่างชัดว่าเป็นแนวไหน และเรื่องจริงๆ คืออะไรก็เลยทำให้น่าติดตามมากกว่า แต่ว่าตอนจบกลับเรียบง่ายเกินไปมาก แบบทำเหมือนจะมีอะไรลึกลับ แต่แล้วก็หาทางออกง่ายๆ ก่อนพบกับฉากจบแบบธรรมดาจนเกินไป จนไม่เหลืออะไรให้น่าพูดถึงเลย

สิ่งที่ชวนให้น่าติดตามน่าดูมากกว่าเนื้อเรื่องคือ นางเอก ที่แสดงโดย ลิลลี่ เจมส์ ที่ดูสวยไร้เดียงสาน่ารักแบบสาวบ้านๆ และโดนรุมกระหน่ำจากการไต่ขึ้นมาเป็นชนชั้นสูงเร็วเกินไป ซึ่งภายหลังเธอก็กลายก็เป็นคนที่แข็งแกร่งพยายามแบกรับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้ ส่วนตัวพระเอก แม็กซิม ที่แสดงโดย อาร์มี แฮมเมอร์ (พระเอกจาก he Man from U.N.C.L.E. หนังสายลับปี 2015) ก็ดูหล่อเนี๊ยบแบบลึกลับ พร้อมกับบทที่เหวี่ยงอารมณ์ขึ้นลงแบบไร้สาเหตุกับภรรยาได้น่ากลัวพอสมควร โดยมีตัวร้ายหลักของเรื่องคือหัวหน้าคนรับใช้ที่แสดงโดย Kristin Scott Thomas มาเป็นตัวร่วมที่ทำให้นางเอกหลอกขึ้นอีกนิดเมื่อเธอมักปรากฎตัวในที่ๆ นางเอกไม่คาดคิดเสมอ

งานโปรดักชั่นเนรมิตยุคอดีตในเรื่องนี้ถือว่าเนี๊ยบมาก เพราะมีฉากกว้างๆ หลากหลายฉากในช่วงแรก อย่างฉากขับรถไปที่ต่างๆ ก่อนที่จะไปอยู่ที่คฤหาสน์ในต่อมาไปจนจบ ซึ่งอาจจะเพราะนี่เป็นหนังอังกฤษแท้ๆ ทำให้การหาฉากโลเกชั่นคลาสสิคแบบนี้ง่ายกว่าหนังอเมริกัน ฉากกับสิ่งต่างๆ ในเรื่องจึงดูสมจริงมาก เรียกว่าถึงบทจะไม่ว้าวมาก แต่งานโปรดักชั่นย้อนยุคในเรื่องก็พอทำให้คนดูไม่เบื่อได้อยู่ครับ

ถือว่าน่าเสียดายมากที่หนังมีหลายๆ อย่างถือว่าดีเลย แต่กลับทำได้ไม่ถึงเองจากบทที่เหมือนจะมีอะไร แต่กลับไม่มีอะไรใหม่หรือแตกต่างในยุคนี้ แต่ก็ถือว่าดูได้ดีกว่าหนัง Netflix โดยทั่วไปอยู่ครับ

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!