playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิวหนัง 18 Presents (Netflix) สร้างจากเรื่องจริงพล็อตดีงาม แต่กลับเล่าเรื่องได้ราบเรียบจนเกินไป

18 Presents

สรุป

นี่เป็นหนังที่พล็อตเรื่องดีมาก แต่ขาดสตอรี่ที่ดีพอจนทำให้เรื่องเดินไปอย่างราบเรียบมาก อาจจะไม่ถึงกับน่าเบื่อหาว แต่รู้สึกเสียดายพล็อตที่อุตส่าห์คิดมาดี แถมยังมีจุดที่ทำให้เรื่องราวเหมือนปาฏิหาริย์แฟนตาซีได้เนียนๆ แต่กลับไม่นำมาใช้ประโยชน์สักเท่าไหร่เลย ยังดีที่ตอนจบทำให้สวยงามลงตัวพอให้รู้สึกว่าก็ดูเพลินๆ พอได้อยู่ครับ

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • สร้างจากเรื่องพล็อตเรื่องดีชวนให้น่าดู
  • มีเรื่องราวปาฏิหาริย์แบบแฟนตาซีเล็กๆ
  • ฉากช่วงท้ายเรื่องก่อนจบทำออกมาได้สวยงาม

Cons

  • เนื้อเรื่องราบเรียบจนเกินไป
  • บทและการแสดงของนางเอกที่เหวี่ยงวีนตลอดเวลาดูแล้วชวนหงุดหงิด
  • แต่งเติมจากเรื่องจริงไปเยอะมาก แม้จะอ้างว่าทำจากเรื่องจริง
  • บทพ่อไม่ที่ไม่รู้จุดประสงค์ของภรรยาดูจงใจให้เป็นปมดราม่าจนไม่ค่อยน่าเชื่อถือเมื่อเทียบกับเรื่องจริง

 

 

ADBRO

18 Presents ของขวัญ 18 กล่อง หนังอิตาลีสร้างจากเรื่องจริงของแม่ที่ตายจากไปก่อนได้ดูแลลูกสาว จึงมอบของขวัญวันเกิดทิ้งไว้ 18 ชิ้นให้ลูกของเธอในอนาคต
 18 Presents (2020) on IMDb

ตัวอย่าง 18 Presents

บทความมีสปอยล์เนื้อหาบางส่วน แต่ไม่ใช่จุดความลับสำคัญของเรื่อง

หนังโรงที่ฉายในประเทศอิตาลีเมื่อต้นปี แต่ค่อนข้างเงียบๆ ไม่เป็นกระแส จากนั้น Netflix ซื้อขาดมาเป็นของตัวเองไว้ในระบบอีกที โดยสร้างมาจากเรื่องจริงของแม่ผู้ตายจากไปในช่วงที่คลอดลูกสาวของเธอ เพราะเธอป่วยด้วยโรคมะเร็งอยู่ก่อนแล้ว เธอจึงวางแผนให้ของขวัญวันเกิดลูกสาวไว้ล่วงหน้า 18 ชิ้น แล้วสั่งเสียให้สามีเป็นคนมอบให้เรื่อยๆ โดยไม่ได้บอกเหตุผลลึกๆ ว่าต้องการอะไร ซึ่งก็กลายเป็นว่าตัวลูกสาวไม่เข้าใจว่าแม่ทำแบบนี้ทำไม กลายเป็นการย้ำปมกำพร้าแม่ เหมือนทุกวันเกิดต้องมีแม่ที่ไม่เคยรู้จักกันมาเลือกของขวัญให้เธออย่างไม่เต็มใจ

ด้วยความที่สร้างจากเรื่องจริงล้วนๆ คงธรรมดาไป ผู้สร้างจึงแต่งเติมเรื่องแฟนตาซีลงไปสักหน่อย ด้วยการให้วันเกิดอายุครบ 18 ปีของเธอมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุโดนรถชน ทำให้เธอเหมือนได้ย้อนเวลาไปพบกับแม่ตัวจริงก่อนคลอดเธออีกครั้ง และก็ได้ช่วยสานสัมพันธ์กับแม่ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน และก่อนที่เธอจะได้รู้ว่าของขวัญชิ้นที่ 18 นั้นคืออะไร ซึ่งเป็นไคลแม็กซ์สุดท้ายของเรื่องนี้ที่ทางผู้สร้างวางไว้ให้ให้คนดูคาดเดาว่าจะเป็นอะไรกันแน่

แม้พล็อตเรื่องนี้จะดูดีมาก ดูมีอะไรให้เล่าเป็นดราม่าซึ้งๆ หรือเล่นกับเรื่องไทม์ทราเวลเก๋ๆ ก็ยังได้ (จริงๆ พล็อตเรื่องแอบคล้ายหนังญี่ปุ่นดังในอดีตด้วย) แต่ผู้สร้างกลับแทบไม่มีสตอรี่ที่ดีพอใส่ลงไปในหนังเลย ตัวเรื่องเดินไปแบบธรรมดามาก เป็นชีวิตของนางเอกกับแม่ในบ้านกับช่วยแม่เลือกของขวัญ ซึ่งธรรมดาจนเกินไป แถมยังเอานิสัยน่ารำคาญในช่วงเวลาปกติมาลงกับแม่ในตอนนี้ด้วย ซึ่งเป็นอะไรที่ขัดกับความรู้สึกมากว่าเธอจะวีนเหวี่ยงอวดดีไปถึงไหนตลอดเวลา  แม้ว่าตัวเรื่องจะพยายามให้เธอค่อยๆ เรียนรู้ปรับตัวดีขึ้นในภายหลัง แต่ก็รู้สึกว่านางเอกมีพฤติกรรมค่อนข้างน่ารำคาญจนเกินปกติทั่วไป (ยกตัวอย่างจุดบุหรี่ดูดต่อหน้าแม่ที่ท้องแก่หน้าตาเฉย) ผิดกับแม่ของเธอที่เล่นดีสุขุม ถ่ายทอดช่วงสุดท้ายของชีวิตออกมาแบบแข็งกร้าว ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะใช้เวลาคิดถึงอนาคตของลูกมากกว่าการรักษาตัวเองให้รอด ทำให้ตัวเรื่องคนแม่กลับเป็นตัวพาให้เรื่องน่าติดตามได้มากกว่า

ตัวหนังใส่ช่วงเวลาสุดท้ายของคนเป็นแม่ที่ต้องเลือกให้ความสำคัญกับชีวิตตัวเธอเองหรือลูกมาก่อนได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งก็เป็นพ้อยท์สำคัญของเรื่องนี้ว่าทำไมเธอถึงตัดสินใจเลือกซื้อของขวัญล่วงหน้าให้ลูกล่วงหน้าขนาดนั้น โดยที่สามีก็ไม่เข้าใจว่าเธอคิดยังไง ซึ่งจุดนี้ไม่รู้ว่าเรื่องจริงเป็นแบบนี้หรือเปล่า? เพราะการที่เธอไม่อธิบายอะไรออกมาให้ชัดกับสามีว่าทำอะไรอยู่ ไม่ไปหาหมอรักษาอาการป่วย ทำให้ผู้เป็นพ่อตอบลูกสาวที่วีนเหวี่ยงกลับมาไม่ได้ และก็กลายเป็นปมปัญหาทะเลาะกันมาตลอด จนทำให้ลูกกลายเป็นเด็กมีปมปัญหามากกว่าเด็กกำพร้าปกติ ส่วนตัวคิดว่าจุดนี้เขียนขึ้นมาเป็นหนังเพื่อต้องการให้มีการขัดแย้งกับพ่อมากกว่าเรื่องราวจริงที่หนังอ้างอิงไว้ แม้จะทำให้เรื่องราวการย้อนกลับไปในอดีตมีส่วนช่วยแก้ไขปัจจุบันได้ แต่ก็รู้สึกว่าไม่ค่อยเมคเซนส์สักเท่าไหร่กับการที่พ่อไม่รู้อะไรเลยว่าจะอธิบายกับลูกยังไงให้เข้าใจจุดประสงค์ของแม่ จนเป็นดราม่าเรื้อรังมา 18 ปีแบบนี้

อีกจุดที่รู้สึกว่าหนังทำไม่ค่อยดีเท่าไหร่คือการที่ลูกสาวปิดบังความลับว่าเธอคือใคร หนังทำให้จุดนี้เป็นปัญหาต่อเนื่องกับตัวละครนี้ แล้วก็พ่วงไปหาแม่อีกต่อ จนกลายเป็นเรื่องเดินไปขลุกขลักไม่สมเหตุผลกับการพยายามปิดบังสักเท่าไหร่ ซึ่งผู้กำกับคงตั้งใจเอาไว้บิ้วเป็นไคลแม็กซ์ตอนท้ายเรื่อง แต่พอถึงช่วงเวลานั้นขึ้นมาจริงๆ กลับใส่มานิดเดียว บทพูดไม่ถึงสองคำก็ตัดจบเรื่องตรงนี้ไปเฉยๆ ทำให้ไม่ทันจะรู้สึกอินกับไคลแม็กซ์ตรงจุดนี้ได้สักเท่าไหร่เลย

แต่ยังดีที่หนังมีช่วงเวลาสุดท้ายของทั้งแม่กับลูกที่ทำออกมาได้ดี มีฉากให้กำเนิดลูกที่ถ่ายออกมาเป็นแนวศิลป์สื่ออารมณ์ได้อย่างสวยงาม และก็สัมพันธ์กับการที่นางเอกเป็นนักกระโดดน้ำ มีเรื่องราวกับการว่ายน้ำมาตลอดเรื่อง ทำให้รู้สึกว่าตอนจบสุดท้ายหนังปิดเรื่องได้สวยลงตัว พร้อมบทเฉลยของขวัญชิ้นที่ 18 ที่เรียบง่ายแต่ดีพอสมควร จนทำให้พอมองข้ามข้อเสียระหว่างเดินเรื่องไปได้บ้างครับ ถ้าดูเอาเพลินๆ ก็คงได้ แต่ถ้าถามว่าประทับใจไหมก็คงไม่ ยิ่งถ้าเทียบกับหนังญี่ปุ่นที่บอกไว้ข้างต้นแล้ว ความงดงามของเรื่องราวต่างกันมากจริงๆ ครับ

Be with You ปาฏิหาริย์รัก 6 สัปดาห์ เปลี่ยนฉันให้รักเธอ หนังเมื่อปี 2547


อ่านรีวิวอนิเมะเรื่องอื่นเพิ่มเติมใน Netflix คลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!