รีวิว Knives Out 2 (Glass Onion: A Knives Out Mystery) ภาคต่อไอเดียบรรเจิดสุดหรรรษากว่าภาคแรกซะอีก (ไม่มีสปอยล์)
Glass Onion: A Knives Out Mystery
Summary
นี่คือผลงานภาคต่อสุดบรรเจิดทั้งไอเดียการเล่าเรื่องสุดเก๋ ความตลกหรรษามาเต็มแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวหาใครเลียนแบบได้ยาก ยังไงก็ต้องดู ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ
Overall
9/10User Review
( votes)Pros
- สืบสวนแนวตลกที่ยังซับซ้อนเข้มข้นไปพร้อมกัน
- ผู้กำกับเขียนบทคนเดิมหมด
- รวมนักแสดงเด่นดังมีซีนกันครบทุกคน
- มีพากย์ไทย
Cons
- ช่วงท้ายจบแบบติดง่ายไปนิดๆ
Glass Onion: A Knives Out Mystery ฆาตกรรมหรรษา ใครฆ่าเพื่อน Knives Out ภาค 2 ที่ได้ผู้กำกับ Rian Johnson มากำกับพ่วงเขียนบทเหมือนภาคแรก โดยยังเป็นเรื่องราวของนักสืบเก่งที่สุดในโลก Benoit Blanc ที่แดเนียล เครก เล่น เรื่องราวในเวลาต่อมาจากภาคก่อนที่คดีภาคก่อนเป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง และเขาได้รับเชิญให้มาที่เกาะของมหาเศรษฐีร่วมเล่นเกมสืบหาฆาตกรกับกลุ่มเพื่อนสนิทของเขา แต่กลายเป็นเกิดคดีฆาตกรรมขึ้นจริง
รีวิว Knives Out 2 (Glass Onion: A Knives Out Mystery)
พล็อตเรื่องแนวตัวละครมารวมกันแล้วก็เกิดคดีฆาตกรรมนี่คือเบสิคของนิยายหนังแนวสืบสวนยุคเก่า แต่ด้วยความครีเอทเอาของเก่ามาเล่าใหม่ให้ดูแตกต่างได้อย่างสนุก ทำให้ภาคแรกก็โดด่งดังโหยเงินมากมายจนเน็ตฟลิกซ์ถึงกับประมูลคว้าสิทธิ์มาไว้เป็นของตัวเองในราคาสูงลิบ ซึ่งภาคนี้มีฉายลงโรงก่อนสักพักแล้วในอเมริกาเพื่อยั่วผู้ชมกับเปิดให้สื่อเมืองนอกรีวิว ซึ่งคะแนนก็สูงปรี๊ดเกินหน้าหนังเน็ตฟลิกซ์ทำเองทั้งหมด ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะนี่เป็นการยกทีมจากงานภาพยนตร์มาลงสตรีมมิ่งแบบไม่มีการลดต้นทุนใดๆ เลย แถมยังได้อิสระจากเน็ตฟลิกซ์มากขึ้น ผลงานในภาคนี้จึงสานต่อความสำเร็จภาคแรกได้อย่างดีงามเอามากๆ
โครงเรื่องที่ผู้ชมเห็นว่าสูตรเดิมก็จริง แต่ตัวเรื่องจริงกลับสามารถฉีกพลิกออกไปได้หลายตลบ ตั้งแต่การเล่าเรื่องที่ดูเหมือนไม่มีอะไร นักสืบคนเก่งบังเอิญไปติดอยู่ที่เกาะส่วนตัวกับคดีฆาตกรรมสดๆ ตัวเรื่องกลับสามารถเล่าเรื่องราวที่ดูเบสิคซ้ำซากนี้ให้กลายเป็นเรื่องราวสืบสวนที่ซ้อนกันเป็นชั้นๆ ปอกเปลือกลงลึกขึ้นได้เรื่อยๆ เหมือนหัวหอมที่เป้นชื่อตอนของภาคนี้ ส่วนแก้วนั่นคือนัยยะแฝงของเรื่องที่อิงกับความชอบของมหาเศรษฐีที่เล่นโดยเอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน สิ่งของประดับบ้านนี้เต็มไปด้วยแก้ว จนถึงโดมรูปหัวหอมแก้ว ซึ่งแม้ตัวเรื่องจะสามารถปอกเปลือกเล่าเรื่องหลายชั้นซ้อนกัน ซึ่งผู้ชมไม่อาจจะเดาได้แน่นอน แต่ก็ไม่ทำให้ผู้ชมงงเลย กลับเต็มไปด้วยความสนุก ตลก มีอารมณ์ขันล้อเลียนแนวสืบสวนด้วยกัน พร้อมทั้งโยงเรื่องราวเหลือเชื่อเข้ามามีส่วนในคดีนี้ได้อย่างน่าทึ่ง พร้อมทั้งเก็บตกทุกประเด็นในเรื่องไว้ได้หมด ปิดจบเรื่องราวได้อย่างสวยงามในแบบที่ไม่ต้องจบด้วยการเปิดตัวคนร้ายแบบเดิมๆ ด้วย
และสิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างที่ยังคงไว้ได้ดีมากก็คือการใช้ดารามีชื่อเสียงมาร่วมสร้างสีสันในเรื่องแบบที่ไม่มีใครเป็นตัวประกอบ ทุกคนมีบทบาทน่าสงสัย มีแรงจูงใจ มีซีนเด่นของตัวเองหมด โดยเฉพาะ เดฟ บอทิสตา ที่ฝีมือการแสดงกับบทบาทแนวตลกกล้ามใหญ่ตัวโตห้าวๆ แต่ดูน่ารัก คล้ายๆ แดร็กในกาเดียนออฟกาแลกซี่ก็ยังนำมาใช้กับเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี และผู้ชมน่าจะจดจำเขาได้มากที่สุด
ตัวแดเนียลเองก็เหมือนสนุกไปกับบทบาทพระเอกของเรื่องที่อะไรๆ ก็ดูง่ายไปหมดกับความสามารถนักสืบสุดโม้ระดับโลกในเรื่อง ที่แค่เห็นอะไรนิดหน่อยก็เคลียร์ปริศนาได้หมดทันที บทของเขาอาจจะไม่ได้มีอะไรใหม่จากภาคก่อน แต่นี่ก็คือตัวละครนักสืบที่มีเสน่ห์ขี้เล่นกวนๆ ที่เชื่อเลยว่าเขาคงรับเล่นกันยาวๆ เป็นแฟรนไชนส์ประจำตัวต่อจากบท 007 ที่จะทำให้คนจดจำแดเนียลได้ดีทั้งสองลุคที่แตกต่างไปพร้อมกัน
ก็ต้องบอกว่าไม่ต้องอวยชมอะไรมาก เพราะนี่คือผลงานภาคต่อสุดบรรเจิดทั้งไอเดียการเล่าเรื่องสุดเก๋ ความตลกหรรษามาเต็มแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวหาใครเลียนแบบได้ยาก ยังไงก็ต้องดู ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ
ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่