playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Narco-Saints งานเกาหลีวอนนาบีเป็น Narcos ที่ไม่ได้ให้อารมณ์ใกล้เคียงกันเลยสักนิด (ไม่มีสปอยล์)

Narco-Saints

Summary

ซีรีส์เกาหลีที่พยายามวอนนาบีเป็น Narcos อาจจะเพราะตามโจทย์ Netflix หลังๆ ที่พยายามให้เกาหลีเป็นแบบนี้ด้วย แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาก็ยังเป็นเกาหลีจ๋ามากๆ ยิ่งการโปรโมทว่าเป็นเรื่องจริงที่นำมาดัดแปลงแต่งเติมแบบเดียวกัน แต่ความสมจริงของเรื่องราว แอ็กติ้งการแสดง บทพูด อารมณ์ ดนตรีประกอบกลับไม่ได้ให้ความรู้สึกแบบนั้นเลย ให้ความรู้สึกเหมือนเรื่องพยายามจะตลกร้ายกับเรื่องราวซะมากกว่า ยิ่งกับการแสดงที่ล้นๆ ของทุกตัวละครตลอดเรื่อง พาลนึกไปถึงเรื่องก่อนนี้อย่าง Seoul Vibe ด้วยอารมณ์ที่คล้ายๆ กันมาก แต่แป๊กสนิท ยังดีที่เรื่องนี้ยังพอดูสนุกเพลินๆ ได้ในสไตล์เกาหลีมาตรฐาน และก็เดินเรื่องตามสูตรสำเร็จเป๊ะๆ ถ้าใครไม่เคยดู Narcos มาก่อนก็อาจจะชอบไปเลยที่เกาหลีลุกมาทำอะไรแบบนี้บ้าง แต่ถ้าเคยดูก็คงรู้สึกผิดหวังกับการโปรโมทจุดขายความสมจริงจากเรื่องราวจริงไปมากๆ ซึ่งนี่เป็นรีวิวจากมุมมองคนดู Narcos มาก่อน แต่ถ้าคุณไม่เคยดูแล้วชอบเรื่องนี้เข้า ก็อยากให้ลองเปิด Narcos ดูในไตรภาคโคลอมเบีย เรื่องราวของ ปาโบล เอสโกบาร์ แล้วคุณจะได้รู้ว่าเรื่องราวของแก๊งค้ายาที่สมจริงเป็นยังไงครับ

Overall
6.5/10
6.5/10
Sending
User Review
3.5 (2 votes)

Pros

  • แก๊งค้ายาเสพติดชาวเกาหลีที่ไปอยู่ในอเมริกาใต้
  • เชื่อมโยงกับแก๊ง Kali ที่อยู่ใน Narcos ซีซั่น 3
  • รวมดาราดังเกาหลี
  • 6 ตอนจบสั้นๆ
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • พยายามขายว่าสมจริง แต่กลับไม่สมจริงตั้งแต่ต้นจนจบในทุกรายละเอียด
  • ตัวละครพูดจ้อพูดเยอะตลอดเรื่องจนดูตลก
  • การแสดงที่ดูล้นๆ ตลอดเรื่องของทุกตัวละคร
  • จบแบบสูตรสำเร็จแฮปปี้สวยหรูมาก

ADBRO

Narco-Saints นักบุญนาร์โค ซีรีส์เกาหลีงานสร้างแบบ Original Netflix ขนาดสั้น 6 ตอนจบ สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริง เมื่อนักธุรกิจธรรมดาๆ เข้าร่วมภารกิจลับของรัฐบาลเพื่อหาทางจับกุมเจ้าพ่อค้ายาชาวเกาหลีซึ่งทำธุรกิจอยู่ในประเทศเล็กๆ ที่ชื่อว่าซูรินามในทวีปอเมริกาใต้

 The Accidental Narco (2022) on IMDb


รีวิว Narco-Saints

ซีรีส์แก๊งยาเสพติดที่อิงว่าสร้างจากเรื่องจริง แต่ตัวละครกับเนื้อเรื่องสร้างขึ้นมาใหม่ ซึ่งอาจจะดูคล้ายกับเป็น Narcos เวอร์ชั่นเกาหลี แต่กลับไม่เหมือนเลย แม้แต่กลิ่นไอหรือการดำเนินเรื่อง เพราะ Narcos เป็นซีรีส์ที่เอาเรื่องจริงตามลำดับไทม์ไลน์การจับกุมเด็ดหัวพ่อค้ายาจริงๆ มาใช้โดยเพิ่มตัวละครเดินเรื่องการจับกุมเข้าไปผสมกับประวัติศาสตร์จริงๆ มีการตัดภาพเหตุการณ์จริงจากสื่อต่างๆ แทรกมาตลอดให้เหมือนสารคดี แต่กลับเรื่องนี้เป็นการเดินเรื่องแบบเรื่องแต่งขึ้นมาล้วนๆ อย่างสังเกตุได้เลย

ด้วยความที่ขึ้นต้นและการโปรโมทว่าทำจากเรื่องจริง แล้วท้าให้พิสูจน์ตัดสินใจเองเมื่อดูจบ ก็ต้องบอกว่าเหมือนเกาหลีได้รับโจทย์มาให้ทำตามเรื่องดังๆ ของฝรั่ง ตั้งแต่เรื่องก่อนอย่าง Seoul Vibe ที่พยายามเป็นฟาสเวอร์ชั่นเกาหลี โดยเปลี่ยนแนวมาเป็นจารกรรมซิ่งตลกๆ แทน ซึ่งเรื่องนี้ก็เช่นกันเหมือนเป็นความพยายามที่จะตามรอย Narcos แต่เปลี่ยนจากโหมดซีเรียสจริงจังมาเป็นอารมณ์ผ่อนคลายให้ดูเหมือนตลกโอเวอร์นิดๆ สไตล์เกาหลี แม้จะไม่ได้ตลกแบบยิงมุกจริงจัง แต่โทนเรื่องทั้งดนตรีประกอบ แอ็กติ้ง บทสนทนา อะไรหลายๆ อย่างมันคือเกาหลีจ๋ามาก ซึ่งก็ไม่ผิดถ้ามองในมุมว่าเกาหลีทำก็ต้องแบบนี้ แต่สำหรับคนที่มองหาความจริงจัง อารมณ์กดดันกับเรื่องราวโหดร้ายของแก๊งยาเสพติดแบบ Narcos ก็คงต้องผ่านไปเลย เพราะมันไม่ได้เลยจริงๆ ไม่ว่าจะมองในมุมไหนก็ตาม 

หลักๆ ความโหดของเรื่องนี้น้อยมาก คือแทบทั้งเรื่องไม่มีฉากแก๊งยาเสพติดทำอะไรที่โหดจริงๆ เลย ในเรื่องที่โหดแบบหั่นศพก็ถูกให้เป็นแก๊งชาวจีนในไชน่าทาวน์ของที่นั่นแทน และในความจริงชาวเกาหลีในซูรินามก็ไม่ได้มีเยอะอะไรขนาดที่เป็นชุมชนได้เท่ากับจีนจริงๆ ด้วย เหมือนเรื่องพยายามแต่งให้เกาหลีในประเทศนั้นเยอะจนดูเกลื่อนตามาเป็นลูกน้องแก๊งได้เต็มไปหมด รวมถึงคนมาโบสถ์เกาหลีอีกพรึ่บด้วย ซึ่งความสมจริงของเรื่องนี้มีปัญหาตั้งแต่แรกๆ แล้วที่ผู้ชมสายฝรั่งมาคงรับรู้และสะดุดใจเป็นระยะๆ จากหลายๆ อย่างที่ไม่เมคเซนส์ 

ตัวเรื่องพยายามทำให้ดูว่าแก๊งนี้โหด แต่ว่ามันกลับดูหลอกๆ อย่างการที่ตัวหัวหน้าโยฮวานที่วางไว้ว่าเป็นเจ้าพ่อยาเสพติดตัวพ่อของที่นี่ กลับเป็นคนขยันพูดมาก พูดไปเรื่อย ขนาดเอาปืนจ่อใครก็พูดไม่หยุด จะว่าติดบุคลิกการเป็นบาทหลวงมันก้ยิ่งแปลกๆ เพราะบทบาทที่ออกมามันเหมือนเรื่องแต่งที่วายร้ายต้องพูดมาก แต่ไม่ลงมือยิงสักที ต่างกับ Narcos ที่แทบไม่พูดกันเลย จ่อคือยิง สงสัยคือตาย บรรยากาศในเรื่องจึงหวาดเสียวหายใจไม่ทั่วท้องตลอดว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่กับเรื่องนี้คือเหมือนขำๆ ผ่านไปเรื่อยๆ ในแต่ละฉากที่ตัวพระเอกต้องพยายามสวมรอยเนียนไปติดต่อหลอกให้โยฮวานมาขายยาในประเทศเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับอเมริกา เพื่อจะใช้อำนาจของ DEA อเมริกามาถล่มจับกุมตัวในซูรินามให้ได้ ซึ่งการหลอกล่อนี่ก็ต้องผ่านการทดสอบวัดใจต่างๆ แต่เรื่องนี้คือตัวละครเอกทั้งคู่กลับขยันพูดจ้อ พูดไปเรื่อยจนน่ารำคาญมากถ้าคิดว่าจะหาหนังซีเรียสเครียดนี่ไม่ได้เลยจริงๆ

อีกอย่างเหมือนเรื่องนี้ก็งบไม่สูงมากด้วยเพราะมีแค่ 6 ตอน และก็พยายามเอาฉากยิงกันไปไว้ 2 ตอนสุดท้ายเพื่อเพิ่มแรงกดดันให้กับเรื่องรามตามสูตร ก็อาจจะดูว่าซีรีส์นี้มีความเดือดอยู่บ้าง แต่มันก็ยังเป็นการใส่มาแบบเรื่องแต่งเว่อร์ๆ เกินจริงอยู่ดี อย่างการให้ตัวเอกไม่มีปืนแล้วมาวัดใจต่อยกันกับตัวร้าย การให้ตัวเอกคนธรรมดาขับรถไล่ตามผู้ร้ายมีฉากไล่ล่ากันกลางป่า ทั้งๆ ที่ DEA ก็ใช้คอปเตอร์บินติดตามไล่ล่าให้อยู่แล้ว มีกระทั่งฉากขับรถออกนอกเส้นทางเหมือนคำนวนไว้แล้วเพื่อไปดักชนตัดหน้าตัวร้าย ซึ่งเป็นฉากสูตรสำเร็จที่หนังชอบหยิบมาใช้กันบ่อยๆ (แต่ถ้าไปดู Narcos จะไม่มีฉากแบบนี้หรอกครับ) หรือในรายละเอียดเล็กน้อยก็ยังผิดพลาด อย่างการสวมกุญแจมือตัวร้ายด้านหน้า ซึ่งเห็นแล้วก็ชวนให้หงุดหงิดกับอะไรพวกนี้อยู่ตลอดทั้งเรื่อง

และการที่โปรโมทว่าเรื่องนี้รวมทีมดารา A-list ไม่ว่าจะเป็น ฮาจองอู ฮวังจองมิน พัคแฮซู โจอูจิน ยูยอนซอก แต่ผลลัพธ์มันก็ออกมาแบบเดียวกับ Seoul Vibe เลย คือเป็นการแค่การรวมดารามาขาย แต่บทมันก็ไม่ได้จะดีหรือโดดเด่นขนาดที่ว่าทำให้เรารู้สึกว่าสุดอะไรการมาแสดงเรื่องนี้เลย เหมือนเป็นแค่ซีรีส์ปกติที่มีโควต้าลิสต์ดาราเซ็นสัญญาเล่นประจำกับ Netflix มารวมตัวกันแค่นั้น เห็นได้ชัดๆ ก็จาก พัคแฮซู ขาประจำเน็ตฟลิกซ์ที่โผล่ไปแทบทุกเรื่องแล้วตอนนี้หลังจากสควิดเกมดัง 

แต่ก็ไม่ใช่ว่าซีรีส์จะดูแย่หรือไม่สนุกอะไร ถ้าในมุมของสายเกาหลีมากๆ ทีไ่ม่ได้ดูซีรีส์ฝรั่งอะไรมาก โดยเฉพาะไม่ได้ดู Narcos ด้วยก็คงเพลินๆ ไปกับเรื่องแต่งจากเค้าโครงเรื่องจริงที่ผู้สร้างพยายามขายจุดนี้ได้ไม่ยาก เพราะมันเป็นดราม่าสูตรสำเร็จเกาหลีมากๆ ที่คนดีตกกระไดพลอยโจน พยายามล้างแค้นให้สำเร็จผ่านภารกิจระดับโลก มีปมครอบครัวที่รออยู่ ก่อนจะจบลงแบบแฮปปี้เอนดิ้งสวยๆ ตามสูตรเป๊ะๆ (ถ้าเป็น Narcos นี่คือจบแบบสูญเสียซะมากกว่า แต่เรื่องนี้คือไม่เสียอะไรเลยสักนิด)

โดยรวมคือพอสนุกอยู่บ้าง แต่ก็รู้สึกผิดหวังกับการโปรโมทจุดขายความสมจริงจากเรื่องราวจริงไปมากๆ ซึ่งก็ถือว่าเป็นรีวิวจากมุมมองคนดู Narcos มาก่อน แต่ถ้าคุณไม่เคยดูแล้วชอบเรื่องนี้เข้า ก็อยากให้ลองเปิด Narcos ดูในไตรภาคโคลอมเบีย เรื่องราวของ ปาโบล เอสโกบาร์ แล้วคุณจะได้รู้ว่าดุเดือดกดดันของจริงเป็นยังไงครับ

 

 

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!