รีวิว YOU SS4 Part 2 หักมุมเล่าเรื่องใหม่ แต่กลายเป็นพังเละเทะทั้งเรื่อง

รีวิว YOU SS4 Part 2

(อ่านรีวิว Part 1 คลิกที่นี่)

พาร์ท 2 ครึ่งหลัง 5 ตอนของซีซั่น 4 ที่ตอนแรกทำท่าเหมือนจะสานต่อเรื่องราวแนวใหม่ที่ให้โจกลายมาเป็นนักสืบตามล่าฆาตกรต่อเนื่องซะเอง ซึ่งตัวเรื่องก็ทิ้งท้ายไว้ใหญ่โตจนคิดว่าเรื่องนี้จะขยายสเกลไปยังแนวทางอื่นให้โจเป็นฮีโร่มุมมืดต่อสู้กับอาชญากรพวกเดียวกันเอง แต่พอเข้าเรื่องจริงของพาร์ทนี้ที่ตอน 7 กลับกลายเป็นว่าคนเขียนบทไม่รู้ว่าผีอะไรเข้าสิงดลใจให้หักมุมเรื่องราวที่ปูมาอย่างดีไปอีกทาง และก็ให้ผลลัพธ์ที่แย่มากๆ จนทำให้ซีรีส์นี้พังแบบกู่ไม่กลับและควรจบได้แล้ว ไม่ใช่ยังพยายามทำต่อไปอีก ซึ่งในรีวิวนี้จะขอเขียนเฉลยส่วนนี้ไปเลยละกันครับ

พาร์ท 2 เรื่องกลับกลายเป็นว่าสิ่งที่เราดูมาทั้งหมดในตอนแรกเป็นแค่จินตนาการของโจเอง โจกลายเป็นคนสองบุคลิก มีอีกร่างด้านมืดที่ลงมือฆ่าคนทั้งหมดในพาร์ทแรก แล้วตัวร้ายของพาร์ทแรกก็ไม่มีจริง กลายเป็นโจสมมุติพูดคุยหลอนไปเอง นอกจากนั้นยังดึงเอาแมรี่แอนที่ตอนแรกตัดบทเคลียร์ไปแล้วกลับมาอีก กลายเป็นว่าโจขังเธอไว้แล้วพยายามหาทางออกจากเรื่องนี้แทน 

เมื่อเรื่องหักมุมเปลี่ยนกลับมาแบบเกิน 360 องศาแบบนี้ก้ทำให้ตัวบทพยายามอธิบายอะไรหลายๆ อย่าง แต่ดูยังไงก็ไม่สมเหตุ ทั้งๆ ที่เรื่องนี้จริงๆ ก็แทบไม่สมเหตุผลอยู่แล้ว แต่การหักลำขนาดนี้ทำให้เรื่องทั้งหมดดูพังจนเกินเยียวยา ซึ่งคนเขียนบทก็พยายามแถให้ ตอน 8 9 10 วนอยู่กับการหาทางออกของโจจากความทรงจำที่คืนมาว่าตัวเองเป็นคนฆ่าคนทั้งหมดเองอีกแล้ว ซึ่งทำให้เรื่องแทบไม่ไปไหน แถมยังพยายามเติมเรื่องพ่อของเคทที่เป็นผู้มีอิทธิพลเข้ามาอีก โดยแทบจะไม่มีประโยชน์กับเรื่องอะไรมากเลย เป็นการยัดมาเพื่อจะทำให้เนื้อเรื่องของโจมีตอนจบที่ไปต่อยัง SS5 ได้แค่นั้นเองจริงๆ 

ความแย่ของเรื่องนอกจากนี้คือการพยายามให้โจเหมือนคิดได้ พยายามจบชีวิตตัวเองลง ผ่านบทเรียนต่างๆ ว่าตัวเองเกินเยียวยาแก้ไข ไม่สามารถเริ่มชีวิตใหม่ได้อีกแล้ว แต่ตัวบทยังกลับลำในช่วงท้ายให้โจอยู่ๆ ก็กลับมาเป็นฆาตกรอำมหิตแบบฝังกลบเหตุผลที่พยายามเล่ามาทั้งเรื่องไปหมดอีกรอบ กลายเป็นตัวละครที่ไม่ได้พัฒนาการไปไหน เหลือแค่อยากฆ่าใครก็ได้ ยังไงก็ไม่โดนจับเพราะคนเขียนหาทางรอดให้ง่ายขัดแย้งกับความจริงตลอด ซึ่งบอกเลยพังยิ่งกว่าอีกครับ

ทั้งหมดนี้อาจจะเพราะว่าซีรีส์ทำมาเกินนิยายที่มีไปแล้ว ก็เลยทำให้ต้องด้นสดเอง แถมยังตั้งใจทำต่อ SS5 อีก แต่บอกเลยว่าเมื่อตัวบทพาทิศทางของเรื่องพังลงเหวขนาดนี้ก็ไม่น่าติดตามต่อกันอีกแล้ว นี่จึงน่าจะเป็นจุดจบของซีรีส์สุดท้ายที่ขอเถอะ Netflix อย่าทำต่ออีกเลยจะดีกว่าครับ

ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่