รีวิว Die Therapie (Prime) จิตวิทยาบำบัดหลอนที่ซ่อนเงื่อนหักมุมไว้หลายชั้นมาก

Die Therapie  บำบัดหลอนของ เซบาสเตียน ฟิตเซค ซีรีส์ Amazon Prime 6 ตอน ระทึกขวัญแนวจิตวิทยาจากนิยายขายดีของ Sebastian Fitzeks ไร้พยาน ไร้ร่องรอย ไร้ศพ โจซี่ ลูกสาววัย 13 ปีของจิตแพทย์ชื่อดัง วิคเตอร์ ลาเรนซ์ หายตัวไปอย่างประหลาด สองปีต่อมาเขาไปที่เกาะห่างไกลและพบกับหญิงสาวปริศนาที่ป่วยทางจิตมาขอให้ช่วยรักษา แต่เธอกลับกุมความลับลูกสาวที่หายไปของเขาอยู่

รีวิว Die Therapie (ไม่มีสปอยล์)

ซีรีส์แนวจิตวิทยาที่มาแบบเงียบๆ ใน Prime เพราะเป็นผลงานของเยอรมัน แต่นี่คืองานชั้นเยี่ยมเลยในแนวทริลเลอร์จิตวิทยาที่หักมุมกันต่อเนื่องหลายชั้นมากตั้งแต่เริ่มแรกจนถึงตอนจบ โดยมีเนื้อเรื่องที่เล่าถึงตัวเอกจิตแพทย์ที่ลูกสาวหายไปและทุกข์ทรมานทางใจอย่างหนัก แต่แล้วผ่านไป 2 ปีก็มีเบาะแสบนเกาะห่างไกลที่เขาหลบหนีไปพักผ่อน แต่เบาะแสนั้นกลับเป็นหญิงสาวที่ป่วยทางจิตและต้องการให้เขารักษา ซึ่งเรื่องก็ดำเนินไปโดยการพูดคุยปรึกษาแบบจิตแพทย์กับผู้ป่วย แต่ว่าในเรื่องเล่าอาการป่วยของเธอมันกลายเป็นเกมจิตวิทยาที่ขุดคุ้ยอดีตของทั้งคู่เชื่อมโยงกันแบบซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหญิงสาวคนนี้คือใคร? นั่นคือโจทย์หลักของเรื่องนี้ ที่ซีรีส์วางเรื่องไว้ซับซ้อนยากแก่การคาดเดามาก

ในเรื่องหลักบนเกาะว่าซับซ้อนแล้ว ซีรีส์ยังเล่าเรื่องอีกด้านไปพร้อมกันโดยเป็นจิตแพทย์อีกคนในโรงพยาบาล ซึ่งเขากำลังทุ่มเทรักษาคนไข้ที่มีอาการทางจิตแปลกประหลาดที่หมอคนอื่นรักษาไม่ได้ แต่การรักษาของเขาใช้วิธีเสี่ยงนอกระบบการแพทย์ เนื้อหาส่วนนี้ดูแยกขาดออกจากส่วนแรกจนเหมือนไม่เป็นเรื่องเดียวกัน แต่ทั้งสองส่วนก็ตัดสลับเล่าเรื่องคู่กันตลอดเวลาตั้งแต่แรก เพิ่มความซับซ้อนให้เรื่องบนเกาะซับซ้อนขึ้นไปอีกเท่าหนึ่ง

นอกจากนั้นแล้วยังมีเรื่องราวที่แยกออกมาเป็นชีวิตส่วนตัวของหมอทั้ง 2 คน ซึ่งมีปัญหาชีวิตร่วมกันเมื่อลูกสาวของทั้งคู่มีปัญหาเริ่มต่อต้านพ่อแม่ แต่ครอบครัวของทั้งคู่ก็มีชีวิตที่แตกต่างกัน ทำให้การแก้ปัญหาที่เกิดแตกต่างกัน เนื้อเรื่องส่วนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการเล่าเรื่องในอดีต เพื่อปูเรื่องให้ผู้ชมได้เข้าใจก่อนที่ตัวโจซี่จะหายตัวไป และก็มีบางช่วงที่เป็นเหตุการณ์ในปัจจุบันรวมอยู่ด้วย โดยที่ซีรีส์จะไม่บอกตรงๆ ว่าส่วนไหนคืออดีตหรือปัจจุบัน แต่ก็มีจุดที่ทำให้เข้าใจได้บอกไว้เสมอ เป็นการชวนให้ผู้ชมฉุกคิดติดตามได้ตลอด

เนื้อเรื่องหักมุมหลายชั้นมากและก็เล่นกับบทหักมุมเล็กๆ อยู่เรื่อยๆ ด้วย ทำให้เนื้อเรื่องน่าติดตามและคาดเดาไม่ได้ไปตลอด โดยเป็นอารมณ์ระทึกขวัญบนเกาะที่ชวนให้น่ากลัวว่าที่แห่งนี้มีอะไร ผ่านฉากเพ้อฝันทางจิตที่แปลกประหลาด ก่อนที่จะจบในตอน 3 เป็นการเฉลยครั้งใหญ่กลางเรื่อง จากนั้น 3 ตอนหลังจะกลายเป็นแนวเน้นอารมณ์ดราม่าที่แม้เรื่องจะดูเบาลง และทำให้ผู้ชมพอเดาเรื่องต่อไปได้แล้ว แต่ก็แฝงความลับที่คาดเดาไม่ได้ซ้อนไว้อีกจนกระทั่งถึงตอนจบที่เคลียร์เรื่องทั้งหมดได้สมบูรณ์ทุกจุดในเรื่องจริงๆ (เคลียร์แม้กระทั่งจุดที่ผู้ชมเองก็คาดไม่ถึงว่าเป็นปริศนาด้วย) 

แต่จุดด้อยของเรื่องก็เป็นการที่พยายามหักมุมมากเพื่อไม่ให้ซ้ำกับเรื่องอื่นๆ ซึ่งทำให้บางช่วงทางจิตวิทยาดูไม่สมเหตุผลหรือเกินจริงตามมา แต่ซีรีส์ก็หาเหตุผลมาประกอบอธิบายไว้ค่อนข้างดี จนทำให้พอมองข้ามไปได้เช่นกัน

ถือว่าเป็นซีรีส์ที่ทำได้ยอดเยี่ยมมากในแนวจิตวิทยาระทึกขวัญ สามารถตรึงผู้ชมด้วยปริศนาซับซ้อนทั้งอาญากรรมคนหายกับปมทางจิตวิทยาร่วมกันได้ตั้งแต่แรก มีเนื้อเรื่องที่ซ้อนกัน 3 เรื่องถูกเล่าไปพร้อมกัน ก่อนตามด้วยจุดหักมุมมากมายเป็นระยะๆ ให้ผู้ชมต้องคิดตามตลอดแต่ก็คาดเดาได้ยากมาก และก็เคลียร์ปริศนาทั้งหมดได้ดีทุกจุด แม้เรื่องจะมีความเว่อร์ทางจิตวิทยาค่อนมากในบางช่วง แต่ก็ยังสามารถมองข้ามและสนุกไปได้ แนะนำเลยว่าใครชอบคิดเยอะๆ นี่ต้องห้ามพลาดเลยครับ

including other English reviews