playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Sentinelle (Netflix) อดีตนางเอกสาวบอนด์ในบทง่อยๆ+แอ็กชั่นจืดๆ

Sentinelle

สรุป

หนังแอ็กชั่นที่ได้ดารานำอดีตสาวบอนด์มาเล่น แต่บทกลับไม่มีอะไรแปลกใหม่กว่าหนังแนวล้างแค้นที่ผ่านๆ มาเลย ออกแนวทื่อๆ เนือยๆ แถมยังไร้เหตุผลในหลายจุด ฉากแอ็กชั่นก็พื้นๆ มากเกินไปไม่สมกับที่ปูพล็อตเรื่องว่านางเอกเป็นทหารจากสงครามตะวันออกฝีมือระดับพระกาฬเลย แนะนำว่าข้ามไปเลยดีกว่า แต่ถ้าอยากดูก็ข้ามๆ ไปดูแต่ฉากแอ็กชั่นก็พอครับ

Overall
5/10
5/10
Sending
User Review
3 (2 votes)

Pros

  • ได้อดีตนางเอกสาวบอนด์ Olga Kurylenko จากภาค Quantum of Solace มารับบทนำเต็มตัว
  • ฉากเปิดเรื่องในตะวันออกกลางดูดีสุดในเรื่อง

Cons

  • บทไร้เหตุผลหลายจุดจนถึงตอนจบ
  • การเล่าเรื่องที่เนือยๆ เสียเวลาไปกับหลายอย่างเยอะโดยไม่ได้สำคัญกับเรื่อง
  • ฉากยิงกันมีแค่ตอนท้ายเรื่องแค่นั้น

ADBRO

Sentinelle ปฏิบัติการเซนติเนล หนัง Netflix จากฝรั่งเศสที่ได้นางเอกสาวบอนด์ Olga Kurylenko มารับบทนำ เรื่องราวของทหารหญิงมากฝีมือที่ถอนตัวจากสนามรบกลับมาบ้าน แต่ต้องพบว่าน้องสาวถูกข่มขืนโดยผู้มีอิทธิพลระดับประเทศที่กฎหมายทำอะไรไม่ได้

 Sentinelle (2021) on IMDb

ตัวอย่าง Sentinelle ปฏิบัติการเซนติเนล

หนัง Netflix จากฝรั่งเศสที่ได้อดีตนางเอกสาวบอนด์ Olga Kurylenko จากภาค Quantum of Solace มารับบทนำเต็มตัว แต่ก็ไม่ใช่หนังทุนสร้างสูงอะไร แค่ 6 ล้านยูโร (ประมาณ 7 ล้านดอลล่าห์) และก็ลงแค่ Netflix ด้วย ซึ่งพล็อตแบบนี้มีเกลื่อนมากแล้ว จึงต้องมาวัดกันที่บทกับฉากแอ็กชั่นว่ามีดีแค่ไหน แต่จากที่รับชมกลายเป็นว่าทั้งบททั้งฉากแอ็กชั่นของเรื่องนี้ ไม่มีอะไรที่ใกล้เคียงกับคำว่าดี ตื่นเต้น ระทึก ได้เลยแม้แต่น้อย แถมยังเต็มไปด้วยความไม่สมเหตุผลมากมาย แทบจะกลายเป็นงานเกรด B เลยก็ว่าได้

สิ่งที่เราคิดในหัวก่อนรับชมก็คือ บทเข้มๆ ของทหารสาวที่ใช้ทักษะจากสงครามมาไล่จัดการอาชญากรที่ย่ำยีน้องเธอ แต่พอเอาเข้าจริงๆ หนังเสียเวลาไปมากมายให้นางเอกค่อยๆ เริ่มต้นงานตรวจตราสังเกตุหาสิ่งผิดปกติหรือผู้ก่อการร้ายในเมือง ที่เป็นโครงการจริงตามชื่อเรื่องของฝรั่งเศส ภารกิจคือเอาทหารมาช่วยเดินตรวจตราในเมือง หลังประเทศถูกก่อการร้ายหนักข้อ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรสลักสำคัญไปมากกว่านั้น นอกจากนี้ตัวเรื่องก็พยายามให้เห็นว่าเธอติดยาจากผลลัพธ์ของสงคราม ซึ่งระหว่างที่ดูก็คาดว่าปมนี้อาจจะนำมาใช้เป็นอะไรที่สำคัญมากในเรื่อง แต่กลับไม่มีผลอะไรมากเลย นอกจากแค่ใช้อ้างอิงว่าเธออาจจะตัดสินใจเล่นนอกกฎหมายเพราะติดยาจนขาดสติด้วย

แต่พอถึงช่วงที่เริ่มเข้าแอ็กชั่นจริงๆ บทก็มีแค่ให้นางเอกแอบไปสืบ แอบบุกเข้าบ้านตัวร้าย แล้วก็ใส่ฉากบู๊มือเปล่ามานิดหน่อย ไม่ได้เป็นคิวบู๊ที่รู้สึกว่ามีอะไรน่าสนใจ หรือเทียบเคียงกับทักษะของทหารจากสงครามติดมาเลย แค่ต่อยเตะจับทุ่ม แม้จะพยายามให้ดูดุเดือดรุนแรง แต่มันกลับพื้นๆ มากในยุคที่หนังทั่วโลกมีคิวบู๊ดีกว่านี้มากมายแล้ว แถมหลังจากบู๊จบแต่ละครั้ง นางเอกก็ชิลๆ กลับมาทำหน้าที่ตรวจเมืองตามปกติอีก ทั้งๆ ที่โดนจับโยนออกมา กลายเป็นอะไรที่ไร้เหตุผลมาก เพราะนางเอกทำตัวเหมือนปกติ ไม่มีใครรายงานหรือแจ้งตำรวจใดๆ ทั้งสิ้นว่านางเอกไปทำอะไรแบบนี้นอกกฎหมายแบบโจ่งแจ้งเปิดเผยด้วย

หนังมาเริ่มใช้ปืนกันตอนท้ายเรื่องเกือบจบแล้ว ซึ่งอาจจะเพราะงบมีแค่นี้ด้วย ต่างกันตอนแรกฉากเปิดเรื่องในตะวันออกกลางที่ดูลงทุนมากสุดแล้ว พอหนังมายัดฉากยิงกันในตอนท้ายก็เลยใส่มาได้แค่นิดหน่อย เรียกว่าไม่ได้ช่วยให้รู้สึกว่าเรื่องดูดีอะไรขึ้นมาเลย แถมยังตัดจบเรื่องแบบไร้เหตุผลเหมือนเดิมซ้ำอีก เมื่อถึงฉากที่นางเอกจนมุมตำรวจที่มาบุกจับ เรื่องกลับตัดข้ามเวลามาโผล่อีกที่เลย แล้วก็ให้นางเอกได้ล้างแค้นอีกรอบ ซึ่งก็งงๆ ว่าตัวร้ายนี่ระดับใหญ่ข้ามโลกกลับมีทีม รปภ หรือความปลอดภัยที่ต่ำสุดๆ ตั้งแต่นางเอกบุกบ้านแบบโดดข้ามรั้วมาง่ายๆ จนถึงตอนท้ายที่อยู่ในต่างประเทศแล้วก็ยังไม่ต่างจากเดิม

นี่เป็นหนังที่กลวงโบ๋ซะยิ่งกว่าเรื่องไหนที่เคยดูมาในแนวนี้เลย คือถ้าบทไม่ดี แอ็กชั่นก็มีดีทดแทนกันได้ แต่เรื่องนี้คือบทก็ลวกๆ ง่ายๆ แอ็กชั่นก็พื้นๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่ มีความไม่สมเหตุผลทั้งการเดินเรื่องและการเอาตัวรอดของนางเอกที่ชวนงงมากหลายครั้งจนกระทั่งจบเรื่องในฉากสุดท้ายกันเลยครับ แนะนำว่าถ้ายังอยากดูจริงๆ กดข้ามๆ ดูแต่ฉากแอ็กชั่นไปเลยก็รู้เรื่อง เพราะเนื้อเรื่องก็เป็นเส้นตรงแน่ว แถมยังออกแนวหนังฝรั่งเศสที่มีช่วงเนือยๆ ซะเยอะด้วยครับ

แนะนำว่าถ้าอยากดูหนังแนวนี้แต่ทำได้ดีมากใน Netflix ให้ลองดูเรื่องนี้ครับ Mosul เรื่องจริงของหน่วยสวาทลึกลับที่ตามล่าไอซิสกลุ่มสุดท้ายในอิรัก

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!