playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Servant ซีรีส์หลอนจาก ผกก. เอ็มไนท์ ชยามาลาน (อัพเดทจบ 10 ตอน+อธิบายปริศนาสำคัญทั้งหมด)

สรุป

หนังที่เล่นปมทางจิตวิทยาผนวกกับเรื่องเหนือธรรมชาติในสไตล์ของผู้กำกับเอ็มไนท์ มีความแปลกใหม่แตกต่างชวนดูอยู่ แม้จะไม่ใช่หนังจาก “เอ็มไนท์ ชยามาลาน” แท้ๆ ก็ตามที

Overall
7.5/10
7.5/10
Sending
User Review
59.67 (3 votes)
Comments Rating 0 (0 reviews)

Pros

  • มีกลิ่นอายเรื่องราวพอยอมรับได้ว่าเป็นหนัง “เอ็มไนท์ ชยามาลาน”
  • หลอนแบบรียบๆ เงียบๆ โดยไม่พึ่งฉากจั๊มสแกร์เลย
  • บทลูกจ้างลีแอนนท์เล่นได้สวยแบบโรคจิตเงียบๆ แล้วก็ดูมีเสน่ห์ในแบบสาวชนบท

Cons

  • ฉากวนเวียนอยู่แต่ในบ้านเป็นหลักและค่อนข้างมืดมากจนเกินไป (เข้าใจว่าต้องการจัดแสงแบบเป็นธรรมชาติของบ้านจริงๆ)
  • ไม่ได้เน้นปมจบเพื่อให้ดูต่อเนื่องแบบซีรีส์ทั่วไป

Servant (ลูกจ้าง) เป็นซีรีส์ Original Content บน Apple Tv+ แนวดราม่าทริลเลอร์ ที่อำนวยการสร้างควบกำกับโดย เอ็มไนท์ ชยามาลาน (M.Night Shyamalan) ผ่านบทของ Tony Basgallop นักเขียนบทซีรีส์ชาวอังกฤษ ถ่ายทอดเรื่องราวของคู่รักชาวฟิลาเดลเฟียที่จ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกชายวัยแบเบาะของเขา แต่กลายเป็นว่าตัวเธอมีความลับดำมืดและความผิดปกติทางจิตแบบที่คาดเดาไม่ได้

 Servant (2019) on IMDb
คะแนนเฉลี่ย IMDB

ตัวอย่างหนังซีรีส์ Servant ของ Apple Tv+

งานสร้างปะยี่ห้อ “เอ็มไนท์ ชยามาลาน”

ก่อนอื่นขอให้ผู้อ่านทำความเข้าใจงานสร้างเรื่องนี้จากตัวผู้สร้างก่อนครับ เนื่องจากซีรีส์เรื่องนี้มีจุดขายปะหน้าหราด้วยชื่อเสียงของผู้กำกับอินเดีย “เอ็มไนท์ ชยามาลาน” ซึ่งหลายๆ คนคงรู้จักกันดี แต่สำหรับคนไม่รู้จักผมจะบอกแนวทางอารมณ์ของหนังเอ็มไนท์ให้ฟังคร่าวๆ ก่อนครับ

โดยปกติทุกเรื่องหนังของเอ็มไนท์จะเขียนบทเองและกำกับเอง พร้อมกับเนื้อเรื่องแปลกใหม่แตกต่างจากทั่วไปแบบคาดเดาแทบไม่ได้ ซึ่งอาจจะไม่ดีเลิศหรือบางทีก็ดูแย่ไปเลยสำหรับคนที่เข้าไม่ใจ ส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับกลางๆ มากกว่า (ส่วนผมเป็นแฟนเอ็มไนท์คนหนึ่งที่ดูหนังเขาแล้วค่อนข้างชอบทุกเรื่อง มีแค่ชอบมากกับน้อยเท่านั้น) หนังของเขาอย่างเรื่องหลังสุดเรื่อง Glass ก็กลายเป็นหนังเสียงแตกชัดเจนจากทั้งคนชอบและไม่ชอบแนวทางการเล่าเรื่องเรียบๆ เนิบๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่มีหักมุมเซอร์ไพรส์ทีหลังเสมอ อันเป็นลายเซ็นต์เอกลักษณ์หนังของเขา (บางเรื่องก็แอบกวนไม่เซอร์ไพรส์อย่างตั้งใจ ทั้งๆ ที่ใส่ปมให้เหมือนต้องมี) ดังนั้นนี่คือซีรีส์ที่ปะชื่อเอาเครดิตมาขายให้แฟนๆ ดูโดยเฉพาะ

แต่ไม่ใช่ว่าแค่ปะชื่อ เอ็มไนท์ ชยามาลาน แล้วจะเป็นหนังแบบที่ใช่ลายเซ็นต์เขาเลย เพราะยุคหลังนี้ฮอลลีวู๊ดมักใช้วิธีเล่นง่ายเอาชื่อผู้กำกับมีชื่อเสียงรุ่นก่อนมาปะหน้าขายแฟนรุ่นใหม่ซะหลายเรื่อง ซึ่ง Servant นี้ก็เข้าข่ายนั้นด้วย เพราะนอกจากบทที่ไม่ใช่เอ็มไนท์สร้างขึ้นมาเองแล้ว เอ็มไนท์ยังมากำกับแค่ 2 ตอน (อ้างอิงข้อมูล IMDB) โดยเริ่มตอนแรก Reborn ก่อนจะข้ามไปตอนจบ ep10 ในชื่อตอน Balloon  ที่เหลือกำกับโดยผู้กำกับคนอื่นอย่างตอน 2 -3 กำกับโดย Daniel Sackheim (เคยทำ The X-Files มา) ซึ่งการแยกกำกับนี้เป็นเรื่องปกติของการถ่ายทำซีรีส์ฝรั่งเพื่อให้งานเสร็จเร็วกว่าพึ่งผู้กำกับคนเดียวทุกตอน หน้าที่จริงๆ ของ เอ็มไนท์ ชยามาลาน คือเป็นโปรดิวเซอร์คุมทิศทางของเรื่องให้เป็นแนวทางกลิ่นอายของเขาซะมากกว่า ดังนั้นสำหรับแฟนๆ หรือไม่ใช่แฟน อย่าพึ่งคาดหวังว่านี่เป็นหนังของ “เอ็มไนท์ ชยามาลาน” แท้ๆ อะไรแบบนั้น

รีวิวสั้นตอน 1-3 (Opening 3 Episode)

ซีรีส์ Apple TV มักจะเปิดเรื่องก่อน 3 ตอน ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นไปตามสูตรนี้ โดย Servant เป็นซีรีส์สั้นเฉลี่ยตอนละ 30 นาที เรื่องราวของครอบครัว 2 สามีภรรยา “ชอนกับโดโรธี” จ้างลูกจ้าง “ลีแอนน์” สาววัยรุ่นมาดูแล “เจริโค” ลูกของพวกเขา ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ใช่ลูกจริงๆ แต่เป็นตุ๊กตาเด็กเหมือนจริงแทนลูกที่ป่วยเสียชีวิตไป 3 เดือนกว่า เพื่อรักษาเยียวยาโดโรธีที่ความจำช่วงนั้นหายไป ซึ่งชอนก็ไม่ได้บอกให้ลีแอนท์รับรู้มาก่อน แต่กลายเป็นว่าเธอกลับเลี้ยงดูเจริโคเหมือนเด็กจริงๆ โดยไม่รู้สึกอะไร ทำให้ชอนสงสัยจนต้องขุดคุ้ยประวัติของเธอ ก่อนที่จะพบความผิดปกติหลายอย่าง รวมถึงสิ่งแปลกประหลาดที่เริ่มเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ในบ้านหลังนี้

ซีรีส์ตอนแรก Reborn เต็มไปด้วยกลิ่นอายเอ็มไนท์ ชยามาลานของแท้จริงๆ ทั้งการเล่นกับอะไรง่ายๆ แต่น่ากลัวลึกๆ หวิวๆ ในใจอย่างฉากที่ลีแอนน์ทำหน้าไม่ตกใจกับความลับของเจริโคที่ชอนอธิบาย ทำให้ผู้ชมรู้สึกได้เลยว่าเธอคนนี้ผิดปกติอย่างน่ากลัว รวมถึงการเล่นกับเสียงเด็กร้องผ่านเครื่องจับการร้องไห้ของเด็ก โดยที่ไม่ต้องเล่นมุกจั๊มสแกว์ตุ้งแช่อะไรเลยก็น่ากลัวได้อย่างพิลึกตามสไตล์เงียบๆ เนิบๆ ของเขา

ผู้ชมที่เป็นแฟนเอ็มไนท์คงรู้สึกได้เลยว่าตอนแรกมีความแตกต่างกว่า 2 ตอนหลัง ซึ่งแม้จะพยายามให้โทนแสงสีการถ่ายทำอะไรหลายๆ อย่างเหมือนกัน แต่จังหวะการปล่อยของและทิ้งปมใน 2 ตอนหลังกลับทำได้ไม่น่าติดตามเท่ากับตอนแรก เรื่องราวในตอน 2-3 กลับไม่ค่อยไปไหน แถมเดินตามสูตรหนังสยองขวัญทั่วไปแบบรู้สึกผิดหวังเล็กๆ หนังเริ่มต้นด้วยความเซอร์ไพรส์ทางจิตวิทยาที่ดูลึกลับแตกต่าง แต่กลับเดินเรื่องต่อมาด้วยการสืบสวนตามรอยประวัติลีแอนน์ไปยังชนบท ก่อนจะไปพบกับความผิดปกติหลายอย่าง ซึ่งเท่าที่หนังใส่มากลายเป็นพล็อตโหลๆ ทั่วไปที่ใครๆ ก็เดาได้หมด แถมยังจบแบบไม่มีปมอะไรให้รู้สึกน่าติดตามในแบบตอนแรกที่ทำได้ชะงัด จนเกรงว่าถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ซีรีส์เรื่องนี้ก็ไม่พ้นแค่การปะชื่อ เอ็มไนท์ ชยามาลาน มาขายแค่นั้นจริงๆ

แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่อยากตัดสินว่าเรื่องราวในซีรีส์เรื่องนี้จะดรอปลงหรือดีขึ้นไปในทิศทางไหน เพราะปมจิตวิทยาที่หนังทิ้งไว้ในตอนแรกกับช่วงท้ายตอน 2 ถือว่ายังเป็นอะไรที่น่าติดตามต่อไป ขอให้มองว่านี่เป็นหนังทริลเลอร์สยองขวัญเรื่องหนึ่งมากกว่าจะคาดหวังว่าเป็นหนังออริจินอลแท้ๆ ของเอ็มไนท์ที่แฟนๆ คาดหวังไว้ว่าจะต้องฉีกแตกต่างแบบที่เคยดูกันมาทุกเรื่องจะดีกว่าครับ ซึ่งตัวหนังก็ถือว่าทำได้ดีในแง่สยองขวัญโดยไม่ต้องพึ่งฉากจั๊มสแกร์ แต่อาจจะมีฉากแหวะอยู่บ้าง หนังมีความน่ากลัวแบบเงียบๆ โดยไม่ต้องมีเสียงดนตรีเร้าดังๆ มาประกอบ ซึ่งช่วยส่งอารมณ์ให้อยู่ในแนวหนังสยองขวัญสไตล์เอ็มไนท์อยู่เหมือนกัน

ดารานักแสดงหลักในเรื่องทั้ง 3 คนที่ดูแล้วสอบผ่านไปกับบทได้อย่างน่าเชื่อถือ “ชอน” รับบทคนปกติคนเดียวในเรื่องราวนี้ที่ต้องวางตัวปกติ ทั้งๆ ที่เห็นแต่สิ่งผิดปกติทั้งกับภรรยาและลูกจ้างของเขา “โดโรธี” ภรรยาของชอน นักข่าวมีชื่อเสียงทางทีวี ที่ดูภายนอกปกติ แต่ที่จริงเธอผิดปกติทางจิตในแบบไม่ยอมรับการสูญเสีย แต่กลับทำตัวเหมือนเป็นปกติซึ่งก็เป็นความน่ากลัวแบบหลอนๆ เหมือนปมทางจิตที่รอวันระเบิดออกมา ซึ่งก็รวมถึงบทของลีแอนน์ที่ดูก็รู้ว่าเป็นคนผิดปกติที่ได้รับงานผิดปกติซ้ำเข้าไปอีก แต่เธอกลับทำงานใช้ชีวิตเหมือนปกติมีความสุขดีกับงานที่ทำ ซึ่งกลายเป็นเรื่องที่ดูย้อนแย้งผิดปกติจนน่ากลัว และก็เดาจุดประสงค์ไม่ออก ซึ่งในส่วนนี้เป็นจุดขายความน่ากลัวของเรื่องที่ดูแตกต่างน่าติดตาม มากกว่าจะเป็นเรื่องลี้ลับที่หนังพยายามใส่ไว้จางๆ ผ่านตุ๊กตาฟางที่ลีแอนน์ทำแขวนไว้ในห้องเลี้ยงเด็กของบ้าน

โดยรวมตอน 1-3 นี้ยังถือว่าเป็นซีรีส์ที่น่าติดตามอยู่ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าต้องดูทันที เพราะตอน 2-3 ค่อนข้างยืดและไม่ได้มีอะไรใหม่ จนรู้สึกว่าบางทีบทดั้งเดิมของเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์แต่ถูกนำมายืดเรื่องให้เป็นซีรีส์หรือเปล่า ถ้าเป็นไปได้ก็รอจนจบหมดแล้วค่อยดูเป็นแบบภาพยนตร์เรื่องยาวอาจจะได้อรรถรสมากกว่ามาดูทีละตอนแบบนี้ครับ


 อัพเดทรีวิว Servant ครบ 10 ตอน จบซีซั่น 1

หลังดูจบก็พบว่าซีรีส์เรื่องนี้เป็นแนวเรียบๆ โดยแต่ละตอนมีจุดสำคัญนิดหน่อยให้พอติดตามฉงนสนเท่ห์กับเรื่องลึกลับเล็กๆ แต่ไม่ถึงกับว้าวหรือหักมุม เรียกว่าทั้งหมดทุกตอนไปจนจบยังให้อารมณ์แบบเดียวกับ 3 ตอนแรกหมด ซึ่งก็จะเป็นฉากการทำกิจกรรมในบ้านของทั้ง 3 ตัวละครหลัก ที่ไม่ค่อยจะไปไหนหรือมีฉากไปนอกบ้าน แล้วก็ไม่ค่อยเปิดเผยเรื่องราวความลับโดยตรงที่คนดูสงสัยอย่าง ลีแอนน์เป็นใคร? เด็กทารกที่มาแทนเจริโคมาจากไหน? หนังเปิดปมออกมาแต่ละตอนน้อยมาก เรียกว่ามีแต่ปริศนาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มากกว่าจะพยายามเคลียร์ให้ชัดไปจนจบซีซั่นแรก ซึ่งถ้าไม่ใช่คอหนังแนวนี้ของเอ็มไนท์จริงๆ อาจจะทนดูไม่ไหวก็ได้ เพราะหนังถือว่าเนิบๆ พอดูเลยถ้าเทียบกับหนังสยองขวัญปกติทั่วไปที่พยายามเร้าอารมณ์หรือหลอกให้เราตกใจกลัวเรื่อยๆ แต่เรื่องนี้กลับเน้นไปที่ “ความแหวะของอาหารที่ชอนทำ” เพราะเขาเป็นนักคิดสูตรอาหารใหม่ จึงชอบทำอาหารพิสดารแบบสดๆ กล้องก็มักจะซูมไปให้เห็นพวกเลือดเนื้อดิบๆ ที่ถูกชำแหละ แล้วก็ไม่มีฉากจั๊มสแกร์หรือดนตรีเร้าให้ตกใจเลย ซึ่งก็ถือว่าเป็นข้อดีที่ไม่เล่นมุกเก่าๆ แบบนี้ให้เสียชื่อหนังเอ็มไนท์ครับ

แม้ว่าหนังจะดูเนิบๆ ก็ไม่ใช่ว่าจะดูไม่รู้เรื่องหรือแย่นะครับ เรื่องราวยังมีความน่าติดตามอยู่เป็นระยะทุกตอน แล้วก็ดูจบรู้เรื่องเข้าใจ แต่ต้องมาปะติดปะต่อกันมากอยู่พอสมควร ซึ่งซีรีส์เดินเรื่องแบบวางไว้ต่อซีซั่น 2 ก็ทำให้หลายๆ อย่างถูกทิ้งไว้แบบไม่เคลียร์ แต่ก็เป็นการเปิดเรื่องราวอีกด้านที่น่าสนใจว่าซีซั่น 2 จะไปทางไหน เพราะตอนจบนี่หลุดจากเรื่องแค่การเลี้ยงเด็กในบ้าน ไปสู่เรื่องราวที่ลึกลับกว่าเดิมมากๆ ครับ

ซีซั่น 2 ยังไม่มีกำหนดฉาย แต่คาดว่าน่าจะทำต่อแน่นอนครับ


 สปอยล์อธิบายปริศนาเรื่องราวในซีซั่น 1

ลีแอนน์เป็นใคร?

เธอเป็นเด็กที่อยู่กับลุงจอร์จกับป้าเมย์ในชนบทมาจนโต คาดว่าน่าจะถูกลักพาตัวมาเลี้ยงด้วย เธอเคยเจอโดโรธีตอนเด็กและชอบมากจนวางแผนมาเป็นคนรับใช้ในบ้านหลังนี้ เพื่อหวังใกล้ชิดโดโรธีมากกว่าจะเกี่ยวข้องกับเจริโคโดยตรง แต่นิสัยจริงๆ เธอก็ไม่ได้คิดร้ายหรือเป็นตัวร้ายในเรื่อง เพียงแต่มีนิสัยหุนหันพลันแล่นทำให้เธอทำอะไรไปแบบไม่ทันคิด (อ่านในสปอยล์ต่อไป)

นอกจากนี้ในตอน 10 ก่อนจบ เรื่องราวแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นคนสำคัญของกลุ่มลัทธิศาสนาที่จอร์จกับเมย์เป็นหัวหน้า ซึ่งโดโรธีเคยไปทำข่าวตอนที่สองคนนี้จับเด็กจำนวนมากไว้ แต่หนังไม่ได้เฉลยให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนจบข่าวชิ้นนั้นที่หน่วยสวาทบุกเข้าไปแล้วโดนระเบิดออกมา ซึ่งในตอนจบลุงจอร์จกับป้าเมย์ต้องการตัวลีแอนน์คืนกลับไปจริงๆ โดยไม่เกี่ยวกับเจริโคใดๆ ทั้งสิ้น

 

เรื่องราวเหนือธรรมชาติหรือจิตหลอน?

เรื่องนี้เป็นเรื่องเหนือธรรมชาติที่เกิดจากพลังของลีแอนน์ ซึ่งเธอยึดมั่นในพระเจ้า และน่าจะมีพลังคืนชีวิตให้กับสิ่งที่ตายไปแล้ว อย่างตอนหมาที่โดนน้องชายชอนทุบตายก็ฟื้นกลับมาได้ แล้วลุงจอร์จก็บอกชัดเจนว่าลีแอนน์อาจจะทำอะไรที่พลาดพลั้งไป ซึ่งก็คือการคืนชีพเจริโค หรือไม่ก็เป็นการเปลี่ยนตุ๊กตาตัวนี้ให้มีชีวิต โดยไม่ใช่ไปลักพาเด็กที่ไหนมาแน่นอน เพราะมีหลายครั้งที่เรื่องราวบอกไว้เลยว่านี่คือเจริโคจริงๆ ชัดเจนสุดก็ตอนที่ลุงจอร์จถามย้ำกับชอนว่า คุณรู้คำตอบอยู่แล้วว่าลูกใคร และในตอนจบ EP10 หลังลีแอนน์จากไป ตุ๊กตาตัวนั้นก็กลับเป็นเหมือนเช่นเดิม

หรือความเป็นไปได้อีกอย่างคือลีแอนน์มีพลังในการสร้างภาพลวงตาให้คนเห็นว่าตุ๊กตานั้นเป็นเด็กจริงๆ ซึ่งในตอนที่จูเลียนน้องชายโดโรธีมาเฝ้าเด็กคนเดียว กลับกลายว่าเป็นตุ๊กตาเหมือนเดิม จนกระทั่งเขาทนไม่ไหวจะทิ้งตุ๊กตาลงชั้นล่างต่อหน้าลีแอนน์ อยู่ๆ ก็มีเสียงเด็กออกมาจากตุ๊กตา แสดงให้เห็นว่าลีแอนน์ควบคุมพลังตรงนี้ได้ตามใจ และก็เป็นคนตัดสินใจว่าตอนไหนจะให้เป็นตุ๊กตาหรือเป็นเด็กจริงๆ

พลังของลีแอนน์อีกอย่างคือการสาปแช่ง ที่เธอเขียนชื่อไว้ในบันทึกพร้อมกับแอบเอาผมหรือบางส่วนจากร่างกายเป้าหมายมาเก็บไว้ ซึ่งลุงจอร์จบอกใบ้ไว้ว่าถ้าลีแอนน์รักใครก็จะเอาใจคนนั้นมาก แต่หากไม่ชอบใครก็จะทำร้ายแทน ซึ่งตั้งแต่เธอมาอยู่ที่นี่ชอนก็โดนเสี้ยนตำตลอด แถมเสียการรับรู้รสชาติที่สำคัญกับการทำงานของเขาไป

 

เกิดอะไรขึ้นกับเจริโคกันแน่?

ในตอนที่ 9 ชื่อตอนเจริโคโดยตรง แล้วก็แฟลชแบ็คย้อนกลับไปให้เห็นเหตุการณ์ช่วงนั้น ซึ่งหลังโดโรธีคลอดลูกออกมาก็หยุดพักงานพิธีกรเพื่อเลี้ยงลูก ซึ่งเรื่องราวก็ดูจะเป็นปกติดี จนกระทั่งชอนต้องไปทำงานเป็นกูรูในรายการเคเบิลทีวีไกลจากลีแอนน์มาก ทำให้โดโรธีต้องเลี้ยงลูกคนเดียวจนเกิดความเครียด แล้วก็ประจวบเหมาะกับเมืองโดนคลื่นความร้อนฮีทเวฟ ที่ร้อนถึงระดับ 40 กว่าองศาเซลเซียส ทำให้เจริโคเสียชีวิต เมื่อโดโรธีมาพบเข้าก็ช็อคจนทิ้งศพลูกเธอไว้จนเน่ามีกลิ่นเหม็นไปทั่วห้อง (ในตอน EP10 ป้าเมย์จะพูดประโยคนึงว่าอากาศในห้องนี้ยังมีกลิ่นเหม็นเน่าอยู่) หลังจากนั้นน้องชายโดโรธีจึงมาพบเข้า และก็แก้ปัญหาด้วยการพานักสะกดจิตมาสะกดโดโรธีให้เชื่อว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และให้ตุ๊กตาไว้เป็นตัวแทนลูกที่ตายไปโดยมีแค่โดโรธีที่เห็นว่าเป็นเด็กจริงๆ คนเดียว ก่อนที่ลีแอนน์จะมาเปลี่ยนตุ๊กตาให้เป็นเจริโคที่ตายไป ทำให้เรื่องพิศวงเข้าไปอีกขั้น


คลิกรับชมผ่านเว็บ Apple TV+ ได้ที่นี่

ติดตามอัพเดทรีวิวหนัง Apple TV+ คลิกที่นี่

Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!