รีวิว Sixty Minutes (Netflix) ไอเดียจับเวลาท่าทางดี แต่ทีเหลว มีแค่ฉากแอ็กชั่นที่รอด
Sixty Minutes
Summary
สรุปเป็นหนังที่ขายไอเดียเรื่องเวลาจริง แต่กลับดูเฟคทำไม่ได้ตามจริง จนเหลือแค่จุดขายจริงคือฉากแอ็กชั่น MMA ที่ใส่มาเยอะและทำได้สนุกอยู่ แต่ก็ยังเสียตรงเป็นการจัดฉากเซ็ตติ้งที่ดูไม่สมจริงตามท้องเรื่องและฉากดราม่าพ่อลูกที่พยายามแทรกใส่มาก็เบาโหวงมากจนดูแล้วไม่อินเลยจริงๆ
Overall
5.5/10User Review
( vote)Pros
- ฉากแอ็กชั่น MMA เยอะ
- นักแสดงเล่นฉากต่อสู้ได้ดี
- มีพากษ์ไทย
Cons
- ขายไอเดียเวลาจริง 1 ชั่วโมง แต่ดูแล้วเฟคไม่ตรงจริง
- ฉากแอ็กชั่นดูจัดฉากจนไม่สมจริง
- ปมดราม่าเบาบาง
Sixty Minutes 60 นาที หนัง Original Netflix เยอรมัน ชายหนุ่มนักกีฬา MMA กำลังจะขึ้นชกครั้งสำคัญ แต่เขาเลือกละทิ้งเพื่อไปงานวันเกิดลูกให้ทันภายในเวลา 1 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นจะเสียสิทธิเลี้ยงดูลูกสาวไป แต่ฝ่ายคู่แข่งกลับไล่ตามเขามาเพราะวางเดิมพันสกปรกไว้กับการแข่งนัดนี้
รีวิว Sixty Minutes 60 นาที
หนังแอ็กชั่นศิลปะการต่อสู้ที่เอาคอนเซ็ปต์จับเวลาตามจริงอย่างหนัง Run lola run ในอดีตมาใช้ (เป็นหนังเยอรมันทั้งคู่ด้วย) โดยการวิ่งจากสนามกีฬาไปยังบ้านของแฟนสาวที่แยกกันอยู่และกำลังจะจัดงานวันเกิดให้ลูกสาวตัวน้อยของเขา โดยมีเส้นตายคือภายในเวลา 1 ชั่วโมงถ้าเขาไม่มาจะถูกฟ้องเสียสิทธิดูแลลูกสาวไป ซึ่งแค่วิ่งไปเฉยๆ ยังไม่พอ หนังได้เพิ่มอุปสรรรคมากขึ้นด้วยการให้การแข่งที่เขาทิ้งมามีการวางแผนล้มมวยจากฝ่ายตรงข้ามที่ต้องการเงินเดิมพันสูงลิ่ว ทำให้ฝ่ายทีมคู่แข่งตามมาไล่ล่าเกิดการต่อสู้ระหว่างทาง จนเกิดเป็นฉากแอ็กชั่นขึ้นตามรายทาง โดยที่เวลาก็บีบคั้นมากขึ้นเรื่อยๆ
หนังตั้งใจขายฉากแอ็กชั่นการต่อสู้แบบ MMA ในสถานการณ์ที่เหมือนจริง โดยมีทั้งการยืนต่อสู้และกอดรัดให้สลบ ซึ่งฉากเหล่านี้ทำได้ดี ดุเดือด มีความสมจริง แม้ดารานักแสดงจะไม่ใช่นักกีฬาตัวจริง แต่ก็เล่นได้ดีสมจริง และน่าจะมีการเมคอัพให้คล้ายนักกีฬา MMA ด้วยอย่างหูที่มีรูปลักษณ์ผิดปกติจากการถูกรัด ซึ่งฉากพวกนี้คือตัวชูโรงของเรื่อง และก็ยังมีตัวละครเพื่อนร่วมโรงฝึกของพระเอกตามมาช่วยด้วย มีฉากการต่อสู้แบบนี้หลายครั้งตามสถานที่ต่างๆ แต่ก็มีความไม่สมเหตุผลตรงที่ว่าไม่มีใครมาห้ามปรามหรือจับตัวพวกเขาไปเลย อย่างต่อยในผับโดยไม่มีการ์ดจับออกไป ซึ่งทำให้ฉากพวกนี้ดูเป็นเซ็ตติ้งมากกว่าจะสมจริงอย่างที่เนื้อเรื่องต้องการนัก
หนังยังขายดราม่าด้วยความพยายามของพระเอกที่ต้องไปให้ทันเวลา โดยต้องไปรับเค๊กวันเกิดกับลูกแมวมาให้ลูกสาว ซึ่งก็เหมือนเป็นอุปสรรคทางผ่านแบบดราม่าให้พระเอกต้องเจอและต้องดูแลสองสิ่งนี้ให้ได้ แต่หนังก็ไม่ได้ถึงกับใส่ใจมากอย่างที่บทวางไว้ สุดท้ายทั้งสองสิ่งนี้ก็เหมือนแค่ปมเรื่องผิวๆ ที่แทบไม่มีน้ำหนักกับดราม่าที่วางไว้ในที่สุด
ส่วนจุดขายเรื่องเวลาตามจริงของเรื่อง เอาจริงๆ ก็คือค่อนข้างเฟคเพราะหนังยาว 1 ชั่วโมง 29 นาที ตัดช่วงแรกที่ปูเรื่องไป 15 นาที ตัดเครดิต 4 นาทีออกไป เท่ากับเวลาในเรื่องก็ยังยาวกว่า 60 นาที ซึ่งหนังเสียเวลากับหลายอย่างมาก มีกระทั่งฉากหลับบนรถไฟ ไม่ใช่การจับเวลาตามจริงทำให้ผู้ชมที่แรกๆ อาจจะลุ้นอยู่บ้างกลับต้องมารู้สึกไม่เชื่อเวลาที่ขึ้นไว้ในเรื่องไป แล้วสุดท้ายหนังก็ละทิ้งเรื่องเวลานั่นไปซะอีกเพื่อหาทางจบแบบของตัวเอง ทำให้ประเด็น 60 นาทีของเรื่องนี้ถูกทิ้งเสียเปล่าไปฟรีๆ ซึ่งถือว่าแย่มาก
สรุปเป็นหนังที่ขายไอเดียเรื่องเวลาจริง แต่กลับดูเฟคทำไม่ได้ตามจริง จนเหลือแค่จุดขายจริงคือฉากแอ็กชั่น MMA ที่ใส่มาเยอะและทำได้สนุกอยู่ แต่ก็ยังเสียตรงเป็นการจัดฉากเซ็ตติ้งที่ดูไม่สมจริงตามท้องเรื่องและฉากดราม่าพ่อลูกที่พยายามแทรกใส่มาก็เบาโหวงมากจนดูแล้วไม่อินเลยจริงๆ