รีวิว Stay Close ซ่อน สูตรสำเร็จเดิมแต่เพิ่มแนวฆาตกรต่อเนื่องครั้งแรกของ ฮาร์ลาน โคเบน (ไม่มีสปอยล์)
Stay Close ซ่อน
สรุป
ซีรีส์คนหายสูตรเดิมจากฮาร์ลาน โคเบน แต่หลุดจากมาตรฐานที่ผ่านมามาก มีพล็อตโฮลใหญ่เป็นระยะตลอดเรื่อง นักแสดงหลักบางคนก็ดูเล่นล้นๆ ไม่เป็นธรรมชาติ แต่สิ่งที่เรื่องนี้ยังมีความน่าสนใจอยู่คือ การมีอยู่ของฆาตกรต่อเนื่องในเรื่องหลายคน พาร์ทความรักที่ชวนสะเทือนใจ และบทเฉลยก็ยังคงทำได้ดีตามมาตรฐาน จนพอช่วยกอบกู้ความผิดพลาดของทั้งเรื่องไว้ได้อยู่
Overall
6.5/10User Review
( vote)Pros
- มีฆาตกรต่อเนื่องหลายคนมาเป็นเรื่องหลัก
- มีฉากโหดเยอะ
- พาร์ทความรักสะเทือนใจของทั้งสองตัวเอกทำได้ดี
- ตอนจบดีลงตัว มีดราม่าสะเทือนใจ
- มีเสียงพากย์ไทย
Cons
- พล็อตโฮลหลายจุด ดูมักง่ายมากไปด้วย
- นักแสดงเล่นบทแปลกๆ ไม่เป็นธรรมชาติ
- ใส่ปมมาเยอะรัวๆ จนเรื่องดูงงไม่ปะติดปะต่อกัน
- ตัวนางเอกขาดที่มาที่ไปว่าเก่งการต่อสู้ได้อย่างไร
- องค์ประกอบฉากหลายอย่างของอังกฤษไม่เข้ากับเรื่องต้นฉบับอเมริกัน
Stay Close ซ่อน ซีรีส์ Netflix แนวสืบสวนสร้างจากนิยายของฮาร์ลาน โคเบน แบบที่ผ่านมา แต่เรื่องราวคนหายคราวนี้เกี่ยวพันกับการตามล่าฆาตกรต่อเนื่องที่ซ่อนอยู่ในมุมมืดมาตลอด 17 ปี
ตัวอย่าง Stay Close ซ่อน
อีกหนึ่งชุดซีรีส์ Netflix จากนิยายของ ฮาร์ลาน โคเบน นักเขียนซึ่งขึ้นชื่อเรื่องพล็อตคนหาย ที่เน็ตฟลิกซ์ซื้อสิทธิ์มาสิบกว่าเรื่อง (ยังทำไปได้แค่ครึ่งเดียว) และถูกนำมากระจายให้หลายทีมงานจากแต่ละประเทศสร้างมาเรื่อยๆ ทุก 3-4 เดือน โดยมีผลงานขึ้นหิ้งก่อนนี้อย่าง The Innocent ผลงานจากทีมสร้างสเปน ที่เรียกได้ว่าสืบสวนเข้มข้นโหดอำมหิตที่สุดของ ฮาร์ลาน โคเบน แนะนำเลยว่าห้ามพลาด (อ่านรีวิวประกอบได้ที่นี่) แต่ผลงานเรื่องนี้เป็นของทีมสร้างอังกฤษ ที่ก่อนนี้ก็ทำเรื่อง The Stranger แฉ ของฮาร์ลาน โคเบน เช่นกัน และก็สร้างออกมาได้ดีมากรองจาก The Innocent เลย (อ่านรีวิวประกอบคลิกที่นี่) ทำให้คาดหวังว่าผลงานใหม่เรื่องนี้น่าจะดีไม่แพ้กัน แต่กลับกลายเป็นว่างานที่ออกมาต่างชั้นกับผลงานเรื่องก่อนนี้ของทีมงานนี้เลย
Stay Close ยังคงเรื่องราวสูตรสำเร็จในสไตล์ฮาร์ลาน โคเบน ไว้แบบเดิม โดยเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคนหายที่มีสูตรสำเร็จคือ การขุดคุ้ยความลับในอดีตของตัวละครลึกลงไปใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทุกคนในเรื่องตามสูตรของโคเบนมักจะเป็นตัวละครสีเทาๆ ในเรื่องนี้เองก็ยังมาในรูปแบบนี้เช่นกัน โดยเป็นเรื่องราวของ “เมแกน” สาวที่กำลังจะจัดงานแต่งงานภายหลังจากมีลูกกับสามีไปแล้ว 3 คน แต่เธอกลับได้รับโน๊ตลึกลับส่งมาบอกว่ารู้อดีตของเธอเมื่อ 17 ปีก่อนที่เคยเป็นผู้หญิงโหนบาร์ ที่ชื่อว่าแคสซี ทำให้เธอต้องตามหาว่าใครกันที่ตามรอยเธอมาจากอดีต และต้องการอะไรจากเรื่องนี้ โดยมีนักสืบ “ไมเคิล บรูม” กำลังทำคดีลูกชายผู้มีอิทธิพลหายตัวไป และดูเหมือนว่าจะกลายเป็นคดีฆาตกรรมที่มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตของเมแกนเมื่อ 17 ปีก่อนอย่างไม่น่าเชื่อ
หลายคนที่ตามดูผลงานของโคเบนในเน็ตฟลิกซ์คงเห็นได้ว่า ถึงแม้มาจากนิยายดี แต่ก็ไม่ใช่ทุกเรื่องที่สร้างออกมาดี และหลายครั้งก็เริ่มออกแนวเบื่อๆ เนื่องจากการเดินเรื่องตามพล็อตกับสูตรเดิมๆ ที่ทำให้คนดูพอจะเดาเรื่องได้ ซึ่งเรื่องนี้เองในช่วงแรกก็มีความน่าเบื่อจากการเดินเรื่องตามสูตรนี้เช่นกัน โดยเฉพาะตอนแรกนี่เรียกได้ว่าใครเคยดูงานโคเบนมาก่อนคงหาวแทบอยากปิดทิ้ง เพราะนอกจากจะไม่มีความแปลกใหม่ การเดินเรื่องยังคงสูตรเดิมเป๊ะมากเกินไป แถมตัวละครบางตัวก็ดูแสดงแบบโอเวอร์แอคติ้งไม่เป็นธรรมชาติผิดจากผลงานที่ผ่านๆ มาอย่างบอกไม่ถูก แม้ผ่านไปหลายตอนแล้วปัญหาที่ว่านี้ก็ยังไม่หาย เป็นจุดที่ขัดตาที่สุดของเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ อีกทั้งสูตรการกระจายปมให้ตัวละครหลายตัวในเรื่องเกี่ยวข้องกันในครั้งนี้ก็ทำออกมาไม่ดีเท่าไหร่ เพราะเล่นใส่แต่ปมใหม่มาเรื่อยๆ โดยไม่มีความรู้สึกว่าจะมาเกี่ยวข้องกันได้สักที เหมือนนึกจะใส่ปมอะไรก็ใส่มาแบบทำให้คนดูงงเล่นมากกว่าจะน่าติดตาม แล้วแบ็คกราวด์ตัวละครก็ไม่ค่อยชัดเจน อย่างนางเอกอยู่ๆ ก็กลายเป็นคนต่อสู้เก่งโดยไม่มีที่มาที่ไปอธิบายไว้ในเรื่องเลย ซึ่งอะไรเหล่านี้ทำให้เรื่องนี้ดูเป็นงานของโคเบนสูตรเดิมที่ชวนสับสนและมีความน่าเบื่ออยู่ไม่น้อยตลอดเวลาที่รับชม
แต่ยังดีที่เรื่องนี้มีสิ่งที่แตกต่างออกจากพล็อตคนหายแบบเดิมอยู่คือ เรื่องนี้มีฆาตกรต่อเนื่องซ่อนอยู่ ซึ่งผลงานที่ผ่านมาทั้งหมดของโคเบนในเน็ตฟลิกซ์ไม่มีเรื่องแนวนี้มาเกี่ยวข้องเลย โดยปกติตัวร้ายมักเป็นผู้มีอิทธิพล แก๊งอาชญากรรม นักฆ่าที่ตามมาเก็บงาน หลายๆ ครั้งก็เป็นการฆ่าโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ต้องอำพรางศพเรื่องก็เลยบานปลาย แต่เรื่องนี้ตัวเมนหลักคือมีฆาตกรต่อเนื่องโรคจิตซ่อนอยู่ในเรื่องราวทั้งหมดของเมแกนกับบรูม 2 ตัวเอกหลักของเรื่องที่ดูไม่น่าเกี่ยวกันได้เลย แต่ก็มาเกี่ยวกันได้ในเวลาต่อมา และเป็นการเดินเรื่องคนละด้านที่ต่างคนต่างก็ต้องเจอกับฆาตกรต่อเนื่องแตกต่างกัน โดยของบรูมคือการสืบหาคนหายในปัจจุบันแต่เกี่ยวพันกับการหายตัวไปของผู้ชายทุกปี ตลอดเวลา 17 ปี โดยมีบาร์ที่เมแกนเคยทำงานในอดีตมาเป็นเกี่ยวข้อง ส่วนของเมแกนเองเธอต้องเจอกับ 2 นักฆ่าที่เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ไล่ตามล่าหาข้อมูลสำคัญบางอย่างจากเธอ ซึ่งตัวละคร 2 นักฆ่านี้ถูกเซ็ตให้การแต่งตัวกับบุคลิกหลุดโลกติดตลกแบบตุ๊กตา “เคนกับบาร์บี้” เกิดมาคู่กัน และนิยมชมชอบการฆ่าคนแบบทรมาน ในเรื่องจะมีฉากก่อคดีโหดของ 2 คนนี้อยู่หลายครั้ง ซึ่งดูแปลกแตกต่างไปจากแนวโคเบนปกติที่มักอิงความเป็นเหตุเป็นผลตามจริงไว้เสมอ แต่จุดนี้ก็ทำให้เรื่องดูแปลกใหม่ขึ้นมาในสูตรเดิมๆ และก็เป็นตัวดึงให้เรื่องยังดูน่าติดตามได้จนจบ แม้ว่าหลายอย่างของเรื่องนี้จะออกมาไม่ดีตามมาตรฐานโคเบนเลยก็ตาม
อีกอย่างที่เรื่องนี้ค่อนข้างให้ความสำคัญมากกว่าที่ผ่านมาคือเรื่องความรัก ในเรื่องตัวนางเอกเมแกนจะมีปมกับคนรักเก่าเรย์ที่เป็นช่างภาพ ตัวเรื่องให้ความสำคัญกับปมตรงนี้ค่อนข้างมากว่าเมแกนทิ้งเรย์ไปเพราะอะไรในอดีต และเธอยังรักเขาอยู่หรือไม่ในตอนนี้ ซึ่งตัวเรย์ที่เจ็บช้ำในอดีตก็มีแฟลชแบ็คกลับไปเป็นระยะๆ ถึงฉากฆาตกรรมที่ตัวเรื่องปกปิดไว้เกิดอะไรขึ้นกับเขา ส่วนนักสืบบรูมก็เน้นเรื่องความรักเช่นกันโดยเขาหวนกลับไปรักสาวเจ้าของบาร์ที่เมแกนเคยทำงานอยู่ โดยมีปมว่าเธอเป็นมะเร็งปากมดลูกระยะสุดท้ายใกล้ตายแล้ว ตัวเรื่องจะโฟกัสไปที่ความรู้สึกของทั้งคู่ในช่วงชีวิตสุดท้ายที่กลับมารักกัน โดยเรื่องรักตรงนี้ก็ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสืบสวนหลักในเรื่องไปด้วย ซึ่งพาร์ทความรักของทั้งสองตัวเอกถือว่าทำออกมาค่อนข้างดีเลย มีปมชวนสะเทือนใจและยังให้อารมณ์เหงาๆ เศร้าๆ กับชะตาชีวิตอาภัพรักของทั้งคู่ด้วย
และด้วยความที่เรื่องนี้เป็นทีมงานอังกฤษ แต่ตัวโคเบนเองเขียนโดยอิงจากบริบทในอเมริกา องค์ประกอบหลายอย่างในเรื่องนี้จึงดูแปลกๆ ไม่ค่อยเข้ากันกับเรื่องที่ต้องดูเป็นแนวสืบสวนอาชญากรรมของอเมริกา อย่างรถในเรื่องที่เห็นมักป็นรถโฟล์คเล็ก รถเก่าแบบอังกฤษ สถานีตำรวจในเรื่องก็เซ็ตมาว่ากำลังรีโนเวตใหม่ให้ทันสมัย แต่ดูแล้วไม่เหมือนสถานีตำรวจเลย ออกแนวออฟฟิซบริษัทมากกว่า ฉากบ้านเรือนก็เป็นบ้านเก่าของอังกฤษ จนให้อารมณ์ดูเหมือนซีรีส์ย้อนยุคไม่ทันสมัยไปกับเรื่องราวที่ดำเนินอยู่สักเท่าไหร่
ถึงหลายอย่างจะออกมาไม่ดี ไม่ลงตัว แต่เมื่อดูจบก็ยังต้องยอมรับว่าบทเฉลยของโคเบนยังคงรักษามาตรฐานได้ดีอยู่เสมอ ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีหักมุมแบบคาดไม่ถึง แต่การหักมุมของเรื่องนี้หักในแบบที่ลงตัวสมเหตุผลดีกว่าตัวเรื่องที่ปูมาทั้งหมดมาก และมีฉากดราม่าสะเทือนใจที่ทำให้อินตามได้พอสมควรเลย ผิดกับตัวเรื่องที่มีพล็อตโฮลหลายจุดจนทำให้เรื่องดูไม่น่าเชื่อถือ ไม่อินตาม ผู้เขียนคิดว่าต้นฉบับนิยายเองก็คงมีปัญหามาก่อน อาจจะเป็นความไม่ถนัดในการทำแนวฆาตกรต่อเนื่องของโคเบนก็ได้ ส่วนปมอื่นๆ ในเรื่องก็ถูกเคลียร์ออกมาลงตัวดีเช่นกัน โดยมีปมสุดท้ายหยอดไว้ปิดเรื่องให้อึ้งเล็กๆ ตามสไตลด์เดิม ซึ่งตอนจบที่ลงตัวทำให้ยังรู้สึกว่าเป็นผลงานที่ยังคงน่าติดตามดูได้อยู่ของซีรีส์ชุดฮาร์ลาน โคเบน ในเน็ตฟลิกซ์ครับ