playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Supacell (Netflix) ซีรีส์พลังพิเศษที่ลงลึกในโลกของคนผิวดำแบบจริงจังและแตกต่าง!

Supacell

Summary

ซีรีส์คนมีพลังพิเศษที่สร้างสมดุลย์ของตัวละครและเรื่องราวได้ดี ผ่านโลกของคนผิวดำแบบลงลึกไปถึงแก่นแท้ของปัญหาหลายอย่างในลอนดอนที่เชื่อมต่อกับแก๊งยาเสพติด บทเน้นดราม่าเล่าถึงชีวิตคนผิวดำที่ได้พลังมาแต่ก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้นอย่างที่คิด เรื่องมีความเรียลของชีวิตคนดำมากกว่าขายการโชว์พลังต่อสู้กัน แต่ก็ทำให้ทุกตัวละครมีมิติเรื่องราวที่ลึกและแปลกแตกต่างออกไป และเมื่อถึงเวลาก็ปล่อยของแบบจัดหนักถึงใจ มีความรุนแรงค่อนข้างมาก และก็กล้าหักมุมเรื่องราวแบบไม่คาดคิดอีกด้วยครับ

Overall
7.5/10
7.5/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • ซีรีส์คนมีพลังพิเศษในโลกของคนผิวดำที่ลอนดอน
  • ลงลึกแก่นแท้ของปัญหาคนผิวดำ
  • เน้นดราม่าชีวิตตัวละครมีมิติ
  • ผูกปมเนื้อเรื่องทุกตัวละครเข้ากับยาเสพติดได้ดี
  • มีฉากอาชญากรรมความรุนแรงค่อนข้างมาก
  • มีพากย์ไทย

 

Cons

  • ภาพวิชวล CG ของพลังพิเศษไม่ได้เด่นมาก
  • ฉากพลังพิเศษไม่ได้เยอะ
  • ส่วนขององกรค์ลับโผล่ออกมาน้อย (ไว้ไปต่อซีซั่น 2)

 

 

Supacell ยอดมนุษย์ซูปาเซลล์ ซีรีส์ Original Netflix จากอังกฤษ 6 ตอน มีพากย์ไทย เรื่องราวของกลุ่มคนผิวดำในลอนดอนที่ค้นพบว่าตัวเองมีพลังพิเศษขึ้นมาจากเซลล์หายาก ‘ซูปาเซลล์’ และพวกเขาต้องรวมพลังกันหยุดการตามล่าจากองค์ปริศนาที่จับคนมีพลังแบบพวกเขาไว้
Supacell (2024) on IMDb

รีวิว Supacell (ไม่สปอยล์)

 

ซีรีส์จาก Rapman ผู้สร้างใหม่เรื่องแรก และด้วยแนวเรื่องซูเปอร์ฮีโร่ที่นิยมทำออกมาช่วงหลังจนเกลื่อนกลาดดาษดื่น แม้แต่มาร์เวลกับดีซีเองยังแทบไม่รอด ท่ีรอดอย่าง The Boys ของ Prime ก็ฉีกแนวไปที่เล่นกับความรุนแรงมากไปเลย ทำให้ผลงานเรื่องนี้ดูภายนอกก็ไม่น่าจะแปลกใหม่ตรงไหนเลย เพราะแนวคนผิวดำก็มีทำมาหลายเรื่องแล้วในเน็ตฟลิกซ์ แต่สิ่งที่เรื่องนี้ทำได้และคาดไม่ถึงคือ การเอาประเด็นแก๊งยาเสพติดที่มักจะใส่ในหนังคนผิวดำมาผนวกรวมเข้ากับพลังพิเศษ โดยไม่ได้มุ่งเป้าว่าพวกเขาต้องเป็นฮีโร่ปกป้องผู้คน แต่ขอแค่ปกป้องคนที่เขารักกับทำเพื่อให้ตัวเองรอดเท่านั้น และด้วยการเล่าเรื่องที่เน้นสังคมคนผิวดำแบบจริงจัง ทำให้เรื่องนี้มันกลับมีความพิเศษแตกต่างได้อย่างไม่คาดคิดเหมือนกันครับ

เรื่องเล่าถึงตัวละคร 5 คนที่มีพลังแตกต่างกัน ตัวเอกคือ ไมเคิล พนักงานขับรถส่งของที่อยู่ๆ ก็มีพลังด้านเวลา หยุดเวลา วาร์ปได้ ข้ามเวลาไปอนาคตกับอดีตได้ โดยเรื่องเริ่มจากที่เขาไปเห็นอนาคตจากการใช้พลังอย่างบังเอิญในช่วงแรก แล้วไปเจอตัวเองในอนาคตบอกว่าแฟนสาวเขากำลังจะตายในอีก 3 เดือน เขาต้องรวมพลังกับพวกอีก 4 คนเพื่อต่อสู้ให้แฟนสาวรอดจากกลุ่มคนที่มีพลังเหมือนกับพวกเขา ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใคร จากนั้นเรื่องก็เดินหน้าโดยการที่ไมเคิลพยายามตามหาคนที่เหลือในลอนดอน ซึ่งมี เทเซอร์ เด็กหนุ่มอันธพาลที่ตั้งแก๊งขึ้นมาเพื่อชิงความเป็นใหญ่ในย่านนั้น โดยเขามีพลังพิเศษคือหายตัวได้ /อันเดร พ่อที่ออกจากคุกมาแล้วพยายามซื้อใจลูกชาย แต่เขากลับตกงานไม่มีใครจ้าง พลังคือแรงมหาศาล / ซาบริน่า พยาบาลฝึกหัดที่พยายามให้ได้งานจริง แต่เธอต้องดูแลน้องสาวที่คบกับเจ้าพ่อค้ายา พลังคือ เทเลคิเนซิส เคลื่อนย้ายวัตถุได้โดยไม่ต้องสัมผัส /ร็อดนีย์ เด็กหนุ่มลูกครึ่งผิวดำพ่อค้ากัญชาตามถนน พลังคือ สปีดความไวแบบแฟลชของ DC โดยทั้ง 4 คนนี้ก็ไม่ได้สนใจเข้าร่วมกับไมเคิลในตอนแรก ทุกตัวละครต่างมีเนื้อเรื่องแยกของตัวเองเพื่อไปแก้ไขปัญหาชีวิตกันเอง โดยเล่าถึงปัญหาของความเป็นคนผิวดำทั้งหมด  มีมุมชีวิตของคนผิวดำซึ่งต้องเจอความยากลำบาก แต่ใส่พลังพิเศษแทรกลงไป โดยที่เรื่องก็ไม่ได้สร้างพวกเขาเป็นคนดีหรือเลว 100% ออกแนวตัวละครเทาๆ โดยพลังพิเศษนี้ก็ไม่ได้ช่วยทำให้ชีวิตเขาดีขึ้นอย่างคิดในตอนแรก หลายครั้งกลับทำให้ชีวิตตกต่ำแย่ลงไปอีก บทค่อยๆ สร้างเหตุการณ์จำเป็นที่บีบรัดพวกเขาให้ต้องมาร่วมมือกันในตอนท้าย ซึ่งเรื่องเดินหน้าไปสู่จุดนี้ได้ดี ทำให้เรื่องดูเรียลสัมผัสได้จริงๆ แตกต่างจากแนวซูเปอร์ฮีโร่ทั่วไปค่อนข้างมาก

ด้วยความที่ซีรีส์ผูกโยงเรื่องราวเข้ากับแก๊งยาเสพติดจึงมีฉากก่ออาชญากรรมกับความรุนแรงสูงอยู่ตลอด ผ่านตัวละครหลักในเรื่องนี้คือเทเซอร์ที่เป็นหัวโจกกลุ่มวัยรุ่น และความสามารถคือหายตัวได้ทำให้เรื่องมีฉากที่จัดว่าโหดโดยตรงก็คือเขาใช้ความสามารถนี้ไล่ฆ่าคู่แข่งอีกฝ่ายแบบไม่ปราณีโดยการใช้มีดไล่เชือด ซึ่งเรื่องไม่ได้นำเสนอออกมาตรงๆ ว่าถ้าเด็กแบบนี้ได้พลังไปจะเกิดอะไรขึ้น โดยที่ตัวละครนี้ก็ไม่ได้ลดทอนความรุนแรงออกไปเลยจนจบ แต่บทของเทเซอร์ก็มีอีกด้านคือยายที่เลี้ยงเขามาแทนแม่ที่หายตัวไปและเขาคอยดูแลอยู่ แม้จะทำเรื่องผิดกฎหมาย ทำให้ตัวละครนี้ก็ยังดูมีส่วนดีที่ผู้ชมเข้าใจและเอาใจช่วยได้อยู่ และบทถ่วงดุลย์ตรงนี้ก็ทำได้ดีมากด้วย 

ส่วนตัวร้ายของเรื่องก็คือเจ้าพ่อค้ายาเสพติดที่มีปัญหาเกี่ยวข้องเชื่อมต่อไปยังทุกคน ซึ่งเรื่องนำเสนอตัวละครนี้คู่ไปกับเทเซอร์ในตอนแรก ก่อนค่อยๆ ลากทุกคนเข้ามาเกี่ยวข้องกันได้ดีมาก ทำให้เห็นว่านี่เป็นปัญหาที่ทุกคนเข้ามาเกี่ยวข้องได้ถ้ายาเสพติดยังอยู่ และเรื่องก็แสดงให้เห็นถึงฉากการแก้แค้นเอาคืนแบบแก๊งยาเสพติดคนดำทำกัน คือการเล่นงานคนในครอบครัวอีกฝ่าย เพราะรู้ว่านี่คือกล่องดวงใจของคนดำที่ถูกปลุกฝังให้รักคนในครอบครัวอย่างเหนียวแน่นมาก

ซีรีส์สร้างองค์กรลับไว้เป็นเนื้อเรื่องเสริมมากกว่าเรื่องหลักไว้ไปต่อซีซั่น 2 โดยจะโผล่มาสั้นๆ ในแต่ละตอนให้รู้ว่ามี แต่ไม่ออกมาเต็มตัว มีการอธิบายถึงซูปาเซลล์ว่าคืออะไรและทำให้เกิดพลังได้ยังไง โดยผู้กำกับเขียนบท Rapman น่าจะได้แรงบันดาลมาจากซีรีส์ Heroes ในอดีตแน่ๆ เพราะหลายอย่างตั้งแต่การไปอนาคตย้อนเวลาของไมเคิลก็คือพล็อตที่คล้ายกันมาก แล้วยังการไล่จับพวกมีพลังแบบเงียบๆ โดยที่ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าเป็นพวกรัฐบาลแบบเรื่องอื่น รวมถึงบอสใหญ่ของซีซั่นนี้ก็มีพลังแบบเดียวกัน โดยตัวละครนี้ปรากฎตัวแบบหักมุมในตอนท้ายแบบคาดไม่ถึงเหมือนกัน มีฉากต่อสู้ใหญ่ที่ทำได้ดีค่อนข้างถึงใจมาก แม้ฉากจะไม่ได้อลังการ แต่เข้ากับธีมคนผิวดำที่เรื่องนำเสนอ และก็ยังใช้สมองในการต่อสู้กับฉากจบหักมุมที่ยอมรับว่าคนเขียนบทเรื่องนี้กล้าและมีของดีไว้รอปล่อยอยู่จริงๆ ครับ

 

สรุป ซีรีส์คนมีพลังพิเศษที่สร้างสมดุลย์ของตัวละครและเรื่องราวได้ดี ผ่านโลกของคนผิวดำแบบลงลึกไปถึงแก่นแท้ของปัญหาหลายอย่างในลอนดอนที่เชื่อมต่อกับแก๊งยาเสพติด บทเน้นดราม่าเล่าถึงชีวิตคนผิวดำที่ได้พลังมาแต่ก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้นอย่างที่คิด เรื่องมีความเรียลของชีวิตคนดำมากกว่าขายการโชว์พลังต่อสู้กัน แต่ก็ทำให้ทุกตัวละครมีมิติเรื่องราวที่ลึกและแปลกแตกต่างออกไป และเมื่อถึงเวลาก็ปล่อยของแบบจัดหนักถึงใจ มีความรุนแรงค่อนข้างมาก และก็กล้าหักมุมเรื่องราวแบบไม่คาดคิดอีกด้วยครับ

 

รวมรีวิว Netflix คลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!