รีวิว Supersex (Netflix) ฉากเซ็กส์ขยันจัดเต็มมาก แต่ชีวิต Rocco แต่งเติมเยอะจนไม่เรียล…
Supersex
Summary
ซีรีส์ที่เล่าเรื่องชีวิตของ Rocco Siffredi แค่บางส่วน โดยที่เหลือเป็นเรื่องแต่งเสริมเข้ามาแทบทั้งนั้น ซึ่งก็ทำออกมาได้เฉยๆ มาก แต่ในมุมของฉากเซ็กส์ต่างๆ ซีรีส์จัดเต็มมากมีทุกตอน เห็นหมดแทบทุกอย่าง ซึ่งผู้ชมที่สนใจแค่ตรงนี้ก็กรอๆ ดูได้เลย แต่ถ้าจะเอาเรื่องราวดีๆ ด้วยก็คงสู้ซีรีส์ The Naked Director ของญี่ปุ่นไม่ได้เลย
Overall
5/10User Review
( votes)Pros
- เล่าเรื่องอ้างอิงชีวิตของ Rocco Siffredi
- นักแสดงสวยพร้อมฉากเซ็กส์เยอะจัดเต็มมาก
Cons
- เรื่องค่อนข้างเวิ่นเว้อไม่น่าสนใจเยอะ
- ดราม่าในเรื่องเป็นเรื่องแต่งไม่ได้อ้างอิงชีวิตจริง
- ประวัติศาสตร์วงการหนังโป๊ฝรั่งมีน้อยมาก
Supersex ซูเปอร์เซ็กส์ ซีรีส์อิตาลี Original Netflix 7 ตอนจบ เรื่องราวอ้างอิงมาจากชีวิตจริงบางส่วนของนักแสดงหนังโป๊ชื่อดัง Rocco Siffredi ที่เป็นตำนานในวงการหนังโป๊ฝรั่ง (ปัจจุบันอายุ 59 ปี) โดยเล่าเรื่องเบื้องหลังชีวิตส่วนตัวอีกด้านที่เป็นปัญหากัดกระเทาะจิตใจเขามาตลอดชีวิต
รีวิว Supersex
ซีรีส์ชีวประวัตินักแสดงหนังโป๊ฝรั่งที่ต้องขอเอาไปเทียบกับเรื่องดังของญี่ปุ่นก่อนหน้านี้อย่าง The Naked Director โป๊ บ้า กล้า รวย กันตรงๆ เพราะในบ้านเราหนัง AV ญี่ปุ่นครองตลาดไปหมด แล้วเรื่องนี้ก็ยังมาในแนวเล่าเรื่องผ่านประวัติศาสตร์หนังโป๊ฝรั่ง โดยมีปัญหาส่วนตัวผสมปนเปเข้ามา ซึ่งมันก็คือสไตล์การเล่าเรื่องแบบเดียวกัน แต่ Supersex สู้ไม่ได้เลยในทุกแนวแบบที่ The Naked Director ทำไว้ได้ดีจริงๆ
ซีรีส์เริ่มจากชีวิตของ Rocco Siffredi ซึ่งเรื่องก็พยายามขึ้นบอกไว้ทุกตอนว่าอ้างอิงมาแค่บางส่วน ดังนั้นนี่จึงไม่ใช่เรื่องราวของเขาจริงๆ ทั้งหมด ซึ่งเรื่องก็เลือกเล่าที่มาของความสนใจในเรื่องอย่างว่าตั้งแต่เด็ก โดยมีสาวสวยของหมู่บ้านที่ใครๆ ก็หลงเธอไปหมด แต่เธอคนนั้นได้มาแต่งกับพี่ชายของเขา และทำให้เขาได้เห็นฉากรักของทั้งคู่ จนนำมาสู้การได้เจอกับหนังสือโป๊ที่มีชื่อว่า Supersex โดยเป็นจังหวะที่พี่น้องในบ้านเสียชีวิตไปพอดี กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นแบบแบทแมนที่พ่อแม่ถูกโจรฆ่าตาย ทำให้เขาฝังใจว่าสักวันเขาจะมีพลังพิเศษในเรื่องเซ็กส์แบบนี้บ้าง ซึ่งการปูมาแบบนี้ก็พอจะรู้แล้วว่าเรื่องนี้แทบจะไม่ได้อิงประวัติของเขาจริงๆ ทำให้เรื่องหลังจากนั้นไม่ได้อยู่ในโหมดหนังชีวประวัติสักเท่าไหร่ แม้เรื่องจะพยายามสร้างปมดราม่าพี่ชายกับพี่สะใภ้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องไปตลอดชีวิตกับเขา (พระเอกแอบชอบพี่สะใภ้มาตลอด แต่ก็ไม่เคยมีอะไรกัน) ซึ่งเรื่องค่อนข้างโฟกัสไปที่ปัญหาชีวิตครอบครัวพี่ชายที่ทำให้เขามีปัญหาตามไปด้วย โดยมีประเด็นเรื่องที่ทุกคนไม่ชอบที่เขาไปเล่นหนังโป๊ ยิ่งโด่งดังยิ่งทำให้ทุกคนห่างเหินจากเขาไป แม้แต่ความรักจริงๆ ก็ยังหามาไม่ได้ ซึ่งเรื่องก็เล่าถึงความแตกร้าวในใจที่ใครๆ อาจจะมองว่าเขาประสบความสำเร็จ แต่ที่จริงชีวิตเบื้องหลังกลับตรงข้ามกันเลย ซึ่งจริงๆ ซีรีส์ก็โฟกัสเรื่องนี้ได้ดี แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องจริงอย่างที่บอกไว้แต่แรก ก็เลยเป็นเหมือนซีรีส์ที่พยายามขายดราม่าที่เขียนบทขึ้นมาเองมากกว่าจะเป็นชีวิตของเขาจริงๆ
แต่ถึงเรื่องราวดราม่าจะไม่ได้ดีอะไร แต่สิ่งที่ผู้ชมมาดูกันจริงๆ น่าจะเป็นพวกฉากเซ็กส์มากกว่า ซึ่งส่วนนี้ซีรีส์จัดมาให้เต็มๆ ทุกตอน แล้วก็โป๊เปลือยกันสุดๆ ทั้งน้องชายตัวเอกที่ว่าใหญ่มากก็โชว์ให้เห็นหลายครั้ง แถมยังมีช่วงที่น้องชายมีปัญหาเป็นแผลก็ยังอุตส่าห์มีฉากพันผ้าโชว์ให้ดูกันอีก หรือฉากที่ลามกสุดๆ อย่างการชักว่าวบนโต๊ะต่อหน้าทุกคนในร้านอาหารจากคำท้าก็ยังมีให้ดูกัน ถึงจะมีแก้วบังตรงนั้นแต่ฉากแบบนี้ก็ตั้งใจเล่นกันจริงๆ แบบโจ๋งครึ่มมาก
ส่วนของฝ่ายนักแสดงหญิงในเรื่องก็หน้าตาดีกันทุกคน มีฉากเซ็กส์เห็นกันแบบเห็นจะๆ ถึงขนสามเหลี่ยม แล้วก็เน้นเย่อกันแบบง่ายๆ ในที่โจ่งแจ้งก็ไม่เว้น ฉากเป็นแนวฮาร์ดคอร์ตามสไตล์หนังโป๊ฝรั่ง โดยมีฉากเซ็กส์ทุกแบบทำมาเป็นลำดับพัฒนาการของตัวเอกที่ต้องเจอกับรูปแบบเซ็กส์ในชีวิตจริงแบบต่างๆ แม้แต่พวกแนวประหลาดๆ จนทำให้เขามีประสบการณ์มากมายและกลายมาเป็นเต็งหนึ่งในวงการนี้ที่จัดเต็มทำจริงไม่เสแสร้ง แทบจะเป็นหนังโป๊เต็มๆ เลยก็ได้เพียงแค่ฉากมันสั้นๆ เท่านั้น
หนังพยายามใส่ประวัติศาสตร์วงการหนังโป๊ลงไปจางๆ อย่างเรื่องการพบนักแสดงแบบงานมีตติ้งในยุคแรกๆ เพื่อหารายได้ตรง แต่ก็ผิดกฏหมายจนโดนจับ หรือการข้ามประเทศมาทำงานในอเมริกาที่เงินดีกว่า แม้จะพูดอังกฤษไม่ได้เลยก็ไม่เป็นปัญหา รวมถึงการได้รางวัลใหญ่ของตัวเขา ซึ่งตัวจริงก็กวาดรางวัลมานับไม่ถ้วนเช่นกัน
สรุป ซีรีส์ที่เล่าเรื่องชีวิตของ Rocco Siffredi แค่บางส่วน โดยที่เหลือเป็นเรื่องแต่งเสริมเข้ามาแทบทั้งนั้น ซึ่งก็ทำออกมาได้เฉยๆ มาก แต่ในมุมของฉากเซ็กส์ต่างๆ ซีรีส์จัดเต็มมากมีทุกตอน เห็นหมดแทบทุกอย่าง ซึ่งผู้ชมที่สนใจแค่ตรงนี้ก็กรอๆ ดูได้เลย แต่ถ้าจะเอาเรื่องราวดีๆ ด้วยก็คงสู้ซีรีส์ The Naked Director ของญี่ปุ่นไม่ได้เลย