รีวิว The Consultant บอสสุดโหดโคตรปั่นหัวลูกน้อง (ไม่สปอยล์)
The Consultant
Summary
ซีรีส์ที่แหวกสุดๆ ด้วยเรื่องราวพิสดารของบอสปริศนาที่ใช้วิธีการบริหารแบบโหดๆ ล่อลวงเล่นเกมปั่นหัวพนักงานด้วยจิตวิทยา ไปจนถึงการยุให้ก่ออาชญากรรมเพื่อแลกกับหน้าที่การงานหรือความอยู่รอดของบริษัท โดยที่ตัวบอสเองก็เต็มไปด้วยปริศนามากมาย แบบที่จบซีซั่นแล้วก็แทบไม่ได้รู้อะไรเพิ่มมากนัก ซึ่งผู้ชมที่ไม่ชอบแนวปริศนามากมายก็อาจจะปวดหัวกับแนวแบบนี้ แต่ถ้าใครชอบแนวระทึกกดดันบีบคั้นจิตใจโหดๆ ทุกตอน ก็ตอบโจทย์เลยครับ
Overall
7/10User Review
( votes)Pros
- นำแสดงโดย Christoph Waltz ที่เหมาะกับบทมาก
- เรื่องติดเรตหลายอย่าง
- ปริศนามากมายทุกตอน
- มีซับไทยครบ
Cons
- ปริศนาเยอะมากแบบแทบไม่ได้เฉลยอะไรเลย
The Consultant เดอะ คอนซัลแทนต์ ซีรีส์ Amazon Prime 8 ตอนจบ ตอนละ 30 นาที มีซับไทยครบ เรื่องราวของบริษัทเกมคอมพ์แวร์ ที่เจอโศกนาฎกรรมฉับพลันกับตัว CEO อายุน้อย ในขณะที่บริษัททำท่าจะไปไม่รอด รีจัส พาทอฟฟ์ ที่ปรึกษาปริศนา ก็โผล่มาและคุมบริษัทด้วยวิธีการบริหารสุดโหด
รีวิว The Consultant (ไม่สปอยล์)
ซีรีส์สร้างมาจากนิยายปี 2016 ชื่อเดียวกันของนักเขียน Bentley Little โดยผู้สร้างเรื่องนี้คือ Tony Basgallop ที่เป็นผู้สร้างซีรีส์เรื่อง Servant ในแอปเปิลทีวี+ ทำให้สไตล์ของเรื่องราวจึงคล้ายกันมาก ด้วยการเล่าเรื่องตัวละครปริศนาที่อยู่ๆ ก็โผล่มาในวิกฤตแล้วกู้สถานการณ์ไว้ได้ แต่ตัวละครนี้คือใคร ที่มาที่ไปลึกลับ นี่คือสิ่งที่ซีรีส์สองเรื่องนี้เดินเรื่องเหมือนกันเป๊ะๆ
ตัวละคร รีจัส พาทอฟฟ์ “ที่ปรึกษา” ที่เป็นบอสของเรื่องนี้ ได้นักแสดงสุดเก๋าอย่าง Christoph Waltz มาเล่นในบทบอสจอมโหด ด้วยวิธีบริหารงานแบบพิสดารสุดขั้ว ทั้งการหยั่งเชิงลูกน้องด้วยการล่อลวงให้ทำอาชญากรรมผิดกฎหมาย การตัดสินใจไล่คนออกด้วยเหตุผลเล็กน้อยอย่าง แค่ไม่ชอบกลิ่นตัวหมอนี่ แถมยังมีห้องลับส่วนตัวที่งอกออกมาจากบริษัทเดิมแบบที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน รวมถึงความสามารถการตัดสินใจหลายๆ อย่างของตัวละครนี้คือเกินคาดเดาเหมือนไม่ใช่มนุษย์ ซึ่งนี่คือจุดขายของเรื่องนี้ในแต่ละตอน ผู้ชมจะได้เห็นวิธีการบริหารสุดแปลกประหลาด เข้าขั้นพิสดารแหวกแนวมากในแต่ละอย่าง โดยที่แทบทั้งหมดเป็นไปในแนวโหดร้ายทารุณจิตใจ ซึ่งหน้าตาของนักแสดงก็เหมาะเจาะอย่างยิ่งแบบแค่เห็นหน้าเฉยๆ ก็รู้แล้วว่าร้าย และในเรื่องยังร้ายแบบโรคจิตไม่มีเหตุผลในทุกการกระทำเข้าไปอีก
ตัวเรื่องยังพยายามเล่าเรื่องด้วยการค่อยๆ ไขปริศนาตัวละครนี้โดยให้ตัวเอก เอเลนกับเครก สองคู่หูในบริษัทลงมือสืบปูมหลังของบอสด้วยตัวเอง โดยเรื่องจะค่อยๆ เผยรายละเอียดมาทีละนิดๆ จากอดีตที่เขาเคยไปคุมบริษัทอื่น แล้วผลลัพธ์ที่มาก็คล้ายๆ ที่ต้องมี CEO ตายก่อนเสมอ ซึ่งตัวเรื่องหยอดความสงสัยให้ผู้ชมได้ติดตามไปตลอดเรื่องทุกตอน แต่ยิ่งได้ข้อมูลมาแทนที่ปริศนาจะกระจ่าง กลับกลายเป็นงงกับข้อมูลใหม่ที่ได้รับมา เรียกว่ายิ่งสืบยิ่งงงมากว่า รีจัส พาทอฟฟ์ คือใคร แถมยังคล้ายๆ กับเรื่องเหนือธรรมชาติมาเกี่ยวข้องด้วยอีก แต่ก็ยังอยู่ในกรอบความเป็นไปได้ไม่เว่อร์มาก ซึ่งจุดนี้ก็แอบคล้ายๆ บทสาวพี่เลี้ยงเด็กใน Servant เป๊ะๆ เรียกว่าดูจนจบซีซั่น 1 2 3 ก็ยังงงๆ กับตัวละครนี้อยู่ดี แม้จะมีข้อมูลเพิ่มมากขึ้นก็ตาม แต่กับเรื่องนี้คือจะพอเดาได้มากกว่าในตอนจบซีซั่น ที่จบเรื่องราวของบริษัทคอมพ์แวร์เลย แต่ค้างปริศนาของตัวละครนี้ไว้เยอะทิ้งท้ายไว้ไปต่อบริษัทต่อไป (แต่ก็คาดว่าคงจะมีงงๆ ต่อไปแบบเดียวกันนั่นแหละครับ)
ประเด็นในเรื่องพยายามเล่าถึงความทุ่มเทในการทำงานของลูกจ้างไม่พอ โดยเผยให้เห็นว่าบริษัทที่ รีจัส พาทอฟฟ์ เข้าไปมักมีปัญหาตรงนี้เสมอ ซึ่งโดยปกติตำแหน่งนี้ทั่วไปก็คือการจ้างมาเพื่อเข้าไปปรับโครงสร้างแทนเจ้าของเดิม จ้างออก ปิดแผนก แต่สำหรับเรื่องนี้กลับเล่นโหดมากกว่านั้นหลายเท่า อย่างการเปิดโอกาสให้พนักงานยื้อแย่งตำแหน่งเปิดศึกลงมือทำร้ายกันในบริษัทเลย หรือการให้ออกไอเดียบางอย่างที่สุดโต่งแล้วบังคับให้ทำ ซึ่งตัวละครในเรื่องคือพนักงานที่มีปมบางอย่างส่วนตัวอยู่แล้ว แต่เมื่อเจอวิธีการบริหารแบบโหดเข้าไปก็กลายเป็นบีบให้ศักยภาพที่มีอยู่แสดงออกมา แต่ผ่านวิธีการที่เรียกว่าเลวร้ายแบบที่ต้องเผยตัวตนด้านมืดแสดงความเลวร้ายออกมา ซึ่งผลลัพธ์สุดท้ายของตัวละครแต่ละคนก็จะแตกต่างกันในตอนจบ
ถือเป็นซีรีส์ที่แหวกแตกต่างไม่เหมือนใครจริงๆ เรื่องนี้ แต่ตัวเรื่องอาจจะไม่สุดเพราะตั้งใจสร้างปริศนาคาไว้มากมายและไม่ได้เฉลยอะไรมากในซีซั่นนี้ ซึ่งถ้าใครไม่ชอบแนวที่ดูแล้วงงหาตำเฉลยไม่มีก็อาจจะผ่านไปเลยก็ได้ แต่ถ้าต้องการซีรีส์ที่มีเรื่องแหวกแนวแบบบีบคั้นจิตใจโหดๆ ทุกตอน ก็ตอบโจทย์เลยครับ