รีวิวซีรีส์ The Days บันทึกเรื่องราวหายนะนิวเคลียร์ฟุกุชิมะที่ทรงคุณค่ามาก
The Days
Summary
ซีรีส์จากเรื่องจริง 100% โดยไม่แต่งเติมเรื่องราวเร้าอารมณ์ใดๆ เพิ่มเลย เพราะเรื่องนำเสนอเหตุการณ์จริงแบบนาทีต่อนาทีกับปัญหาที่ถาโถมมาต่อเนื่อง ร่วมกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่คาดเดาไม่ได้ เรื่องจึงเต็มไปด้วยอารมณ์ระทึก ตื่นเต้น กดดัน ตั้งแต่ต้นจนจบ พร้อมทั้งได้เห็นข้อผิดพลาดของฝ่ายต่างๆ ที่นำมาซึ่งหายนะครั้งนี้ แต่ตัวเรื่องก็ไม่ได้ต้องการกล่าวโทษใคร และเผยให้เห็นทีมฮีโร่ผู้พลีชีพในเหตุการณ์นี้ทั้งหมด นี่จึงเป็นซีรีส์ที่ทรงคุณค่ามาก ไม่ใช่แค่กับคนที่สนใจอยากรู้เรื่องราวโดยละเอียด แต่ยังเป็นบันทึกเหตุการณ์หายนะที่ถอดบทเรียนให้ทั้งโลกได้รับรู้ความจริงของภัยจากพลังงานนิวเคลียร์ ที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมมันได้ แม้จะอ้างว่าปลอดภัยแค่ไหนก็ตาม
Overall
8.5/10User Review
( votes)Pros
- เก็บรายละเอียดเหตุการณ์ได้ครบถ้วนมาก
- บรรยากาศตรึงเครียดตลอดเวลาไม่มีหยุดพัก
- เผยให้เห็นความเลวร้ายของนิวเคลียร์
- มีพากย์ไทย
Cons
- ฉากในโรงไฟฟ้าช่วงแรกมืดมากจนแทบไม่เห็นอะไร
- CG ช่วงต้นเรื่องดูไม่ดีมาก
The Days วันวิบัติ ซีรีส์ญี่ปุ่น Original Netflix 8 ตอนนี้จะตีแผ่เรื่องราวเหตุการณ์ภัยพิบัติโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะอย่างละเอียดทุกแง่มุม โดยมุ่งเน้นไปที่เหตุการณ์จริงในช่วง 7 วันที่แสนตึงเครียด ทั้งจากมุมของรัฐบาล และพนักงานโรงไฟฟ้าโตเกียวอิเล็กทริกพาวเวอร์ (Tokyo Electric Power–Tepco) ที่เป็นทีมผู้พลีชีพปฏิบัติงานในตอนนั้น
ตัวอย่าง The Days วันวิบัติ
รีวิวซีรีส์ญี่ปุ่น The Days วันวิบัติ
ย้อนกลับไปวันที่ 11 มีนาคม 2011 เวลา 14.46 น. เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 9.0 แมกนิจูด ความรุนแรงสูงสุดระดับ 7 (ตามที่บันทึกไว้ที่เมืองคุริฮาระ จังหวัดมิยากิ) ซึ่งห่างจากชายฝั่งซันริกุราว 130 กิโลเมตร หนึ่งชั่วโมงให้หลัง ก็เกิดคลื่นสึนามิสูง 15 เมตรซัดถล่มโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ซึ่งเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของฝันร้ายทั้งหมด เมื่อระบบหล่อเย็นไม่ทำงาน โรงไฟฟ้าทั้งโรงก็ตกอยู่ในจุดอันตรายที่ควบคุมไม่ได้
ซีรีส์เล่าเรื่องตามลำดับอย่างละเอียด เริ่มจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและต่อด้วยสึนามิ ซึ่งจำลองฉากออกมาได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ไม่ถึงกับทุ่มทุนสร้างมาก (ยังเห็นว่าเป็นการจำลองฉากแบบปลอมๆ) ซึ่งทำให้ช่วงเปิดเรื่องตอนแรกไม่ถึงกับน่าประทับใจนัก
แต่สิ่งที่ซีรีส์ทำได้ยอดเยี่ยมคือ เรื่องราวหลังจากนั้นที่ลงลึกในรายละเอียดของเหตุการณ์กันแบบนาทีต่อต่อนาทีว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างตามลำดับ โดยมีตัวละครมากมายจากพนักงานทุกระดับไปจนถึงฝ่ายรัฐบาล ซึ่งทุกอย่างคือเรื่องจริงทั้งหมด ทุกคนมีตัวตนจริง ทุกเหตุการณ์ยืนยันได้ว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ไม่ได้มีการแต่งเติมเพิ่มเรื่องราวให้เป็นละครเมโลดราม่าแม้แต่น้อย ดังนั้นสิ่งที่เราได้เห็นนี่คือบันทึกเหตุการณ์ที่ละเอียดมาก ขนาดที่ไม่มีข่าวที่ไหนเคยนำเสนอออกมาได้ครบถ้วนแบบนี้ แม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็เชื่อว่าพึ่งเคยได้ยินหรือรับรู้ข้อมูลละเอียดลึกขนาดนี้ รวมถึงสิ่งที่ไม่เคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อน และยังเป็นบันทึกเหตุการณ์ที่มุ่งเน้นหาความจริงของความผิดพลาดที่เกิดขึ้นว่ามาจากตรงไหน ความสะเพร่าของรัฐบาลหรือทางบริษัท Tepco ซึ่งภายหลังมีคำตัดสินในเรื่องนี้ออกมาว่าเป็นความผิดของ Tepco ที่ไม่มีมาตรการป้องกันภัยที่ดีพอ ซึ่งในเรื่องก็เผยให้เห็นข้อผิดพลาดนี้ออกมาตรงๆ ไม่มีการปกปิดหรือบิดเบือนใดๆ รวมถึงคนในฝ่ายรัฐบาลเองก็ไม่มีความสามารถเพียงพอต่อเหตุการณ์ใหญ่ระดับนี้ แม้จะเป็นทีมรับมือภัยพิบัติของญี่ปุ่นเองก็ตาม
แม้ซีรีส์จะนำเสนอปัญหาข้อผิดพลาดต่างๆ แต่สิ่งที่ดีคือซีรีส์ไม่ได้ตั้งเป้าโจมตีใครโดยตรง แต่นำเสนอเรื่องราวไปตามจริงโดยไม่เร่งเร้ากล่าวโทษใคร เพราะสถานการณ์ในตอนนั้นคือนาทีชี้เป็นชี้ตายของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทุกคนพยายามกู้วิกฤตอย่างเต็มความสามารถ เรื่องราวจึงนำเสนอการปฏิบัติงานของเหล่าฮีโร่ในเหตุการณ์ที่พวกเขาเองก็ไม่มีความรู้ในการรับมือมันเลย ทุกอย่างคือการลองผิดลองถูก แม้ผู้ชมจะรู้อยู่แล้วว่าเหตุการณ์นี้จบลงโดยไม่ลุกลามขนาดโรงไฟฟ้าระเบิด แต่สิ่งที่เรื่องนี้นำเสนอออกมาก็ยังเต็มไปอารมณ์ระทึก กดดัน ตื่นเต้น กล้าหาญ และคาดเดาไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรต่อไป ทั้งเรื่องเต็มไปด้วยตัวละครฮีโร่ผู้พร้อมพลีชีพ ซึ่งส่วนมากคือพนักงานผู้สูงอายุที่ยอมทำหน้าที่นี้แทนคนอายุน้อย ที่ขอตายอย่างมีเกียรติเพื่อทำงานให้สำเร็จ โดยที่ไม่มีการการันตีว่าจะสำเร็จ 100% ด้วย เพราะเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแบบที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน
ซีรีส์ยังทำให้เห็นต้นเหตุจนถึงปลายเหตุของเรื่องราวนี้อย่างชัดแจ้ง ตั้งแต่ที่มาของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มาจากไหนในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมที่ต้องการพลังงานจำนวนมาก คนญี่ปุ่นเชื่อมาตลอดว่านี่คือพลังงานแห่งอนาคต แต่จนตอนนี้ก็ได้รับรู้แล้วว่าไม่ใช่ เหตุการณ์ในเรื่องนี้ทำให้เห็นทุกแง่มุมชัดเจนว่านี่เป็นพลังงานที่นำมาซึ่งอันตรายเกินกว่ามนุษย์จะควบคุมได้ แม้เหตุการณ์ผ่านมานับสิบปีแล้วการจัดการกับโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะก็ยังไม่จบสิ้น พื้นที่ในตำบลที่ตั้งโรงไฟฟ้าไร้ผู้คนอาศัยอยู่ คนอพยพออกไปนับแสนคน เป็นพื้นที่ร้างไม่ต่างจากเชอร์โนบิลเลย ซึ่งถ้าเหตุการณ์ควบคุมไม่ได้ญี่ปุ่นจะถูกรังสีกินพื้นที่ไปถึงครึ่งประเทศ จนทำให้ญี่ปุ่นล้มละลายลงแน่นอน ดังนั้นนี่จึงไม่ใช่พลังงานแห่งอนาคตแบบที่วาดฝันไว้แน่นอน
สิ่งที่เรื่องนี้ทำได้ดีมากอีกอย่างก็คือการทำให้ผู้ชมได้รับรู้เข้าใจเรื่องของนิวเคลียร์ได้อย่างชัดแจ้งขึ้น ซึ่งในเรื่องมีศัพท์เฉพาะมากมาย แต่ก็ถูกเล่าออกมาให้เข้าใจง่าย มีการเปรียบเทียบให้เห็นสิ่งต่างๆ รวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นไว้อย่างชัดเจน
นี่คือซีรีส์ที่ทรงคุณค่ามาก ไม่ใช่แค่กับคนที่สนใจอยากรู้เรื่องราวโดยละเอียด แต่ยังเป็นบันทึกเหตุการณ์หายนะที่ถอดบทเรียนให้ทั้งโลกได้รับรู้ความจริงของภัยจากพลังงานนิวเคลียร์ ที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมมันได้ แม้จะอ้างว่าปลอดภัยแค่ไหนก็ตาม