รีวิวซีรีส์ The Gardener (Netflix) เน้นความรักที่งอกงาม…ไม่ใช่ฆาตกรรมแบบที่หวังไว้นัก
The Gardener
Summary
The Gardener เป็นซีรีส์ที่เปิดมาด้วยพล็อตแนวฆาตกรรม แต่พัฒนาไปในทางโรแมนติกดราม่ามากกว่า โดยมีความน่าสนใจในแง่การเล่าเรื่องความรักของชายหนุ่มไร้อารมณ์ที่ได้รู้จักหัวใจตัวเองครั้งแรก แต่กลับละเลยความเป็น “ฆาตกรต่อเนื่อง” ที่น่าจะเป็นจุดแข็งของเรื่องไปพอสมควร ใครหวังจะดูแนวฆาตกรรมจ๋าอาจผิดหวัง แต่ถ้าเปิดใจดูความสัมพันธ์อันซับซ้อนของตัวละคร ก็อาจจะพบว่าเรื่องนี้มีเสน่ห์บางอย่างอยู่บ้างเหมือนกันครับ
Overall
6.5/10User Review
( vote)Pros
- เน้นแนวสำรวจความรักมากกว่าฆาตกรรม
- ฆาตกรที่ตัวละครไร้ความรู้สึก
- นักแสดง Álvaro Rico (โปโลจาก ELITE ซีซั่น 1–3)
- มีพากย์ไทย
Cons
- ซีรีส์ขายแนวฆาตกรรม แต่ไม่ค่อยมีฉากฆาตกรรมให้เห็น
- ปของนางเอกไม่ได้มีผลเท่าไหร่
- เส้นเรื่องตำรวจอ่อนและไม่สำคัญ
- ตอนจบไม่เคลียร์ และเหมือนปูทางเผื่อซีซั่นต่อ ทั้งที่เป็นลิมิเต็ดซีรีส์
ADBRO
The Gardener ลิมิเต็ดซีรีส์ Original จาก Netflix ความยาว 6 ตอน ผลงานจากสเปน ที่ผสมผสานแนวฆาตกรรมและโรแมนติกเข้าไว้ด้วยกัน ผ่านฆาตกรที่เป็นนักจัดสวนที่ไร้อารมณ์ แต่ไปตกหลุมรักเหยื่อสาวเข้าจนได้
รีวิว The Gardener (ไม่สปอยล์)
เรื่องราวเริ่มต้นจาก “เอลแมร์” หนุ่มไร้อารมณ์ที่สูญเสียความรู้สึกนึกคิดหลังอุบัติเหตุในอดีต เขาใช้ชีวิตอยู่กับแม่ที่ควบคุมทุกอย่าง และร่วมกันทำธุรกิจรับจ้างฆ่าเหยื่อแบบแนบเนียนภายใต้ฉากหน้าคืองานจัดสวน แต่แล้วชีวิตที่วางเป็นระบบก็สั่นคลอน เมื่อเป้าหมายใหม่ของเขาคือ “ครูสาว” ผู้ที่เขาดันตกหลุมรักเข้าเต็มเปา
ความสัมพันธ์ครั้งนี้บังคับให้เอลแมร์ต้องเผชิญกับอารมณ์ความรักที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน — ทั้งความหวั่นไหว อ่อนโยน และเจ็บปวด ท่ามกลางแรงกดดันจากแม่ที่ไม่ยอมให้ลูกชายหลุดจากกรอบเดิม และต้องการกำจัดผู้หญิงคนนี้ให้พ้นทาง
แม้จะวางพล็อตให้ดูคล้ายซีรีส์แนวฆาตกรอย่าง “YOU” ที่ตัวเอกตกหลุมรักเหยื่อ แต่ The Gardener กลับเลือกเล่าเรื่องความรักมากกว่าความรุนแรง ซีรีส์พาเราตามติดความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่แสนหวานไปจนถึงจุดแตกหัก โดยแทรกปมลึก ๆ ไว้เล็กน้อย เช่น ความลับของครูสาวว่าเธออาจมีอดีตที่ไม่ใสสะอาด ซึ่งแม้จะมีการเฉลย แต่ก็ไม่ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องเท่าไรนัก
สำหรับเส้นเรื่องฆาตกรรม แม้จะมีฉากฆ่าเปิดเรื่องที่ดูเข้มข้น และมีไอเดียเก๋ ๆ อย่างการใช้สารพิษจากต้นไม้ หรือเข็มฉีดยาเป็นอาวุธ แต่กลับไม่ได้นำไปใช้จริงจังในเรื่องอีกเลย ทำให้บรรดาผู้ชมที่คาดหวังซีรีส์แนวฆาตกรต่อเนื่องอาจรู้สึกผิดหวัง เพราะโทนเรื่องกลับเน้นดราม่ารักมากกว่าความระทึก
เส้นเรื่องรองเกี่ยวกับแม่ของเอลแมร์น่าสนใจ เธอพยายามผลักดันให้ลูกชายรักษาเนื้องอกในสมอง แม้จะรู้ว่าการรักษาจะทำลาย “ความรู้สึก” ที่ลูกชายเพิ่งได้กลับคืนมา ความสัมพันธ์ของแม่ลูกจึงตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นดราม่าหลักของเรื่อง
นอกจากนี้ยังมีเส้นเรื่องของตำรวจคู่หนึ่งที่ตามสืบคดีคนหายในเมือง ซึ่งแม้จะเปิดมาน่าสนใจ แต่กลับเล่าแบบเรียบ ๆ ไม่ได้มีฉากตามล่ากดดัน และไม่ส่งผลกับพล็อตหลักเท่าไร แถมยังแทรกปมดราม่าชู้สาวในที่ทำงานของทั้งคู่เข้ามาแบบไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรในเส้นเรื่องหลักนี้จนดูไร้ประโยชน์มาก
ในด้านการแสดง Álvaro Rico (โปโลจาก ELITE ซีซั่น 1–3) รับบทเอลแมร์ได้อย่างนุ่มลึก แม้บทบาทฆาตกรในเรื่องนี้จะเบาลง แต่เขาก็สื่อสารความเปลี่ยนแปลงของตัวละครที่เริ่มกลับมามีหัวใจได้ดี ส่วน Catalina Sopelana ในบทครูสาว แม้ไม่ใช่นางเอกที่สะดุดตา แต่ก็มีเสน่ห์เฉพาะตัว และแสดงความสับสนในตัวละครได้ดี
สิ่งที่น่าผิดหวังคือ ตอนจบที่พยายามปูทางเหมือนจะมีภาคต่อ ทั้งที่ซีรีส์ระบุชัดว่าเป็น ลิมิเต็ดซีรีส์ ฉากจบก็หาทางออกลงตัวให้กับตัวเอกอย่างง่ายๆ และแม้ในช่วง end credits จะมีเรื่องเล่าต่อจากฝั่งตำรวจเล็กน้อย แต่ก็เป็นการจบที่เหมือนถูกทิ้งกลางทางมากกว่าสิ่งที่ควรจะเป็นครับ
สรุป The Gardener เป็นซีรีส์ที่เปิดมาด้วยพล็อตแนวฆาตกรรม แต่พัฒนาไปในทางโรแมนติกดราม่ามากกว่า โดยมีความน่าสนใจในแง่การเล่าเรื่องความรักของชายหนุ่มไร้อารมณ์ที่ได้รู้จักหัวใจตัวเองครั้งแรก แต่กลับละเลยความเป็น “ฆาตกรต่อเนื่อง” ที่น่าจะเป็นจุดแข็งของเรื่องไปพอสมควร ใครหวังจะดูแนวฆาตกรรมจ๋าอาจผิดหวัง แต่ถ้าเปิดใจดูความสัมพันธ์อันซับซ้อนของตัวละคร ก็อาจจะพบว่าเรื่องนี้มีเสน่ห์บางอย่างอยู่บ้างเหมือนกันครับ