รีวิว The Guardian ตุ๊กตาอารักษ์ หนังผีเวียดนามที่หลอนโดยใช้ไสยศาสตร์กับตุ๊กตาลูกเทพจากไทย (ไม่มีสปอยล์)
The Guardian ตุ๊กตาอารักษ์
สรุป
หนังจากเวียดนามที่มีดีพอตัวเหมือนกันกับฉากจบที่หักมุมแหวกแนวมาก แต่ตัวเรื่องก็ไม่ได้ถึงกับสนุกหรือแปลกใหม่อะไรเมื่อเทียบกับหนังผีไทย ออกจะยืดๆ เอื่อยๆ ในช่วงปูการเป็นนักร้องของตัวนางเอกที่ยาวมากเกินไปหน่อย แต่โดยรวมก็โอเคถือว่าเป็นการเสพงานหนังผีจากเอเชียที่หาดูได้ยากจากเน็ตฟลิกซ์เท่านั้น
Overall
6.5/10User Review
( votes)Pros
- พล็อตตุ๊กตาลูกเทพพ่วงด้วยไสยศาสตร์มนต์ดำจากพระไทย
- ผีหลอกไม่เหมือนหนังผีไทย แต่ไม่ค่อยน่ากลัวมาก
- ได้เห็นสังคมเวียดนามยุคใหม่ที่หรูหราฟุ้งเฟ้อมาก
- มีฉากจบที่แหวกแนว
Cons
- นักแสดงเล่นกันแข็งๆ ไม่เป็นธรรมชาติเท่าไหร่
- เนื้อเรื่องช่วงปูการเป็นนักร้องของนางเอกยาวมากไป
- บทสรุปของเรื่องเน้นแหวกแนวจนดูเว่อร์เกินจริงมาก
The Guardian ตุ๊กตาอารักษ์ หนังผี Netflix จากเวียดนาม เรื่องราวของตุ๊กตาลูกเทพที่เคยฮิตในบ้านเราพักหนึ่ง แต่คราวนี้ไปเกิดในเวียดนาม แล้วก็ตามมาด้วยเรื่องราวสยองขวัญตามมา
ตัวอย่าง The Guardian ตุ๊กตาอารักษ์
หนังโรงเวียดนามที่เน็ตฟลิกซ์ซื้อมาลงฉาย โดยมีเรื่องราวเชื่อมโยงกับไทยหลายอย่าง ซึ่งเวียดนามเองก็นิยมชมชอบหนังไทยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยเฉพาะหนังผีไทยที่เป็นแนวยอดฮิตทำออกมาบ่อยที่สุด ดังนั้นสไตล์ในหนังเรื่องนี้จึงมีอะไรคล้ายๆ กับการดูหนังไทยอยู่ไม่ใช่น้อย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเหมือนไปซะทีเดียว ต้องบอกว่าด้วยบทของหนังเรื่องนี้ถือว่าแอบเหนือกว่าหนังไทยโดยทั่วไปซะอีก
เรื่องราวเริ่มต้นด้วยการฆ่าตัวตายของนักร้องสาวที่กำลังโด่งดัง ในที่เกิดเหตุมีตุ๊กตาลูกเทพวางไว้อยู่พร้อมคำสาบแช่งหลงเหลือไว้ แต่เหตุสะเทือนขวัญนี้กลับทำให้ “ลีโคโค่” นักร้องแบ็คอัพของเธอได้มีโอกาสโด่งดังขึ้นมาแทนที่ โดยที่ลีเองก็ได้ตุ๊กตาแบบเดียวกันมาเป็นของขวัญ แล้วก็นำไปปลุกเสกจากพระไทยที่อยู่ในเวียดนาม จนหน้าที่การเงินสิ่งที่อยากได้ก็ได้มาตามที่ขอหมด แต่หลังจากนั้นเองที่เธอก็เริ่มเห็นผีหรือภาพหลอนของรุ่นพี่สาวนักร้องที่ฆ่าตัวตายกลับมาหา ซึ่งทำให้เธอเริ่มรู้สึกว่าสาเหตุอาจจะมาจากตุ๊กตาตัวที่เธอรักและบูชานั่นเอง
หนังเรื่องนี้ยาว 2 ชั่วโมงเศษ ซึ่งถือว่ายาวมากพอสมควรเลย โดยความยาวของเรื่องส่วนใหญ่เลยชั่วโมงกว่าเป็นการปูเรื่องราวการไต่เต้าสู่ฝันของตัวนางเอกลีโคโค่ ที่ฝันอยากเป็นนักน้องมาตลอดแต่โดนพ่อห้ามไว้ เธอจึงแอบทำงานเป็นนักร้องแบ็คอัพให้ตัวนักร้องสาวคนดังที่เปิดมาก็ฆ่าตัวตายไปทันทีตั้งแต่ฉากแรก โดยที่นางเอกมีปมบางอย่างกับเรื่องนี้โผล่มาแบบแวบๆ ให้คนสงสัย ก่อนจะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่เรื่องจะเฉลยในภายหลังดำเนินไปครึ่งเรื่องกว่า แต่จุดนี้เอาจริงๆ ก็ไม่ได้เดายากมาก แต่หนังพยายามใช้ส่วนนี้ควบคู่ไปกับการไต่เต้าสู่ฝันของเธอที่เหมือนตามรอยรุ่นพี่แบบชัดเจน ตั้งแต่การได้แฟนเก่าของรุ่นพี่มาเป็นโปวดิวเซอร์ โดยเธอก็แอบชอบเขามาก่อนอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องพยายามเล่าให้เห็นว่าตัวนางเอกเป็นคนเทาๆ มีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในความทะเยอทะยานนี้ด้วยก็เพื่อจะให้ผีที่ปรากฎออกมาหลังจากนี้ดูมีเหตุผล เหมือนเป็นผีที่อิจฉาริษยาตัวนางเอก ซึ่งกุมความลับการฆ่าตัวตายนั้นไว้ด้วย
หลังมีผีปรากฎออกมา ตัวหนังก็เปลี่ยนมาเป็นแนวหนังผีชัดเจน ด้วยฉากผีหลอกหลายครั้งทั้งกลางวันกลางคืน ซึ่งแนวผีหลอกของเวียดนามก็ถือว่าไม่ซ้ำกับไทย แต่ก็ไม่ได้แปลกใหม่หรือรู้สึกน่ากลัวอะไรมากนัก ซึ่งคนที่กลัวหนังผีก็คิดว่าพอดูได้ ไม่มีผีตุ้งแช่ แต่ออกแนวผีโผล่มาหลอกแบบแหวะๆ มากกว่า และความน่ากลัวนั้นก็แบ่งมายังตัวตุ๊กตาลูกเทพที่เป็นไฮไลท์ของเรื่องด้วย มองเผินๆ ก็เหมือนอารมณ์แนวชัคกี้ที่ไม่รู้ว่าตุ๊กตาจะมีชีวิตตอนไหน ซึ่งจุดนี้ยังเชื่อมโยงไปยังไสยศาสตร์ของไทย ด้วยการให้พระไทยมาปลุกเสกเขียนยันต์ใส่กุมารเข้าไปในตัวตุ๊กตาลูกเทพด้วย ซึ่งเซ็ตติ้งฉากทำพิธีกับพระไทยทำได้เหมือนมากอีกด้วย ถือว่าหนังทำการบ้านจุดนี้มาดีเลย (แต่ในเวียดนามเองก็มีความเชื่อเรื่องกุมารทองแบบไทยอยู่ด้วย)
แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้แหวกแนวกว่าการเป็นหนังผีทั่วไปก็คือ เรื่องราวของการสืบสวนคดีที่เกิดขึ้นตั้งแต่นักร้องสาวฆ่าตัวตาย โดยมีตำรวจตามสืบสวนอยู่อย่างลับๆ และต่อมาก็มีคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นตามมาภายหลังอีกหลายศพ ซึ่งเชื่อมโยงกับตุ๊กตาลูกเทพของนางเอก ตัวหนังเรียกว่าตั้งใจปูทุกอย่างมาที่จุดนี้โดยเฉพาะว่า ตกลงนี่คือหนังผีหรือหนังฆาตกรรมกันแน่ ก่อนที่เรื่องราวจะหักเหทิศทางไปยังแนวอื่นอีกชั้นแบบโอเว่อร์มาก แม้หนังพยายามใส่เหตุผลให้น่าเชื่อถือในระดับนึงก็ยังไม่วายรู้สึกว่าเกินจริงไปมาก แต่ถ้าไม่ติดใจอะไรตรงนี้ก็ถือว่าโอเคยอมรับได้กับตอนจบของหนังเรื่องนี้ครับ
นักแสดงในเรื่องด้วยความเป็นเวียดนามก็จะออกจีนๆ หน่อย แต่เรื่องก็ไม่ได้ออกแนวเรียบร้อย เรียกว่าค่อนข้างเปิดโลกเหมือนกันสำหรับคนที่ไม่เคยรู้เห็นสังคมเวียดนามในปัจจุบันที่วัยรุ่นถือว่าแรงใช้ได้ นางเอกแต่งตัวเซ็กซี่ล่อแหลมกับชุดนักร้องอยู่หลายครั้ง สังคมในเรื่องก็เป็นสมัยใหม่เต็มสูบ ทั้งการใช้ยูทูบ FB โซเชียล Live สด ปาร์ตี้มั่วยาอิสระเสรีกันเต็มที่ เรียกว่าแปลกใจเหมือนกันที่เวียดนามที่ปกครองด้วยพรรคคอมมิวนิสต์กลับมีเรื่องแบบนี้ใหเเห็นกันง่ายๆ แม้จะเป็นในหนังก็ตาม (ต่างกับจีนที่เข้มเรื่องพวกนี้มากทั้งการแสดงกับโลกจริง)
จุดอ่อนสุดของเรื่องก็คงเป็นนักแสดงที่ยังรู้สึกเล่นแข็งๆ กันอยู่บ้างทุกคน แต่ก็ไม่ถึงกับแข็งมากจนน่าเกลียด เรียกว่าพอดูผ่านๆ ไปได้
ถือเป็นหนังจากเวียดนามที่มีดีพอตัวเหมือนกันกับฉากจบที่หักมุมแหวกแนวมาก แต่ตัวเรื่องก็ไม่ได้ถึงกับสนุกหรือแปลกใหม่อะไรเมื่อเทียบกับหนังผีไทย ออกจะยืดๆ เอื่อยๆ ในช่วงปูการเป็นนักร้องของตัวนางเอกที่ยาวมากเกินไปหน่อย แต่โดยรวมก็โอเคถือว่าเป็นการเสพงานหนังผีจากเอเชียที่หาดูได้ยาก คงมีแค่เน็ตฟลิกซ์เท่านั้นที่ซื้อมาลงฉายให้คนไทยดูกันครับ