playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The In Between หนังรักวัยรุ่นหวานหยดย้อยเจือปนแฟนตาซีเข้ามานิดๆ (ไม่สปอยล์)

สรุป

หนังรักหวานๆ พระเอกนางเอกเจาะกลุ่มสาววัยรุ่นตรงๆ ให้ชวนเคลิบเคลิ้มไปกับเรื่องราวแฟนตาซีนิดๆ ติดน้ำเน่ากับฉากรักเยอะ หนังสนุกถ้าคุณเป็นกลุ่มผู้ชมที่ชื่นชอบแนวนี้ แต่ถ้าไม่ใช่ลองเปิดดูก่อนก็ได้ หนังไม่ได้แย่ แต่อาจจะไม่คลิกกับคุณเท่านั้นครับ

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
5 (2 votes)

Pros

  • หนังรักวัยรุ่นผสมแฟนตาซี
  • พระเอกหล่อมีเสน่ห์ออร่าจับ
  • เล่าเรื่องแบบแฟลชแบ็คกลับไปช่วงเวลาความรักหวานๆ ทั้งเรื่อง
  • ภาพสวยดูเป็นงานศิลป์
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • เน้นฉากย้อนเล่าเรื่องราวความรักเยอะกว่าเหตุการณ์ปัจจุบันมากไป จนเหมือนเรื่องไม่ค่อยคืบหน้าไปเท่าไหร่
  • หนังยาวเกือบ 2 ชั่วโมงโดยหมดไปกับฉากรักเยอะ
  • บทนางเอกในเรื่องนิสัยงี่เง่าตามสูตรเดิมๆ โดยนักแสดงขาประจำกับบทเดิมๆ

 

ADBRO

The In Between หนังรักวัยรุ่นกึ่งแฟนตาซี ด้วยเรื่องราวความรักและการสูญเสียคนที่รักไปจากอุบัติเหตุ  แต่กลับพบว่ามีสัญญาณว่าเขากลับหาเธอในรูปแบบของวิญญาณ ที่เธอเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะจิตใจจมทุกข์ไม่ปล่อยวางความรักนี้หรือไม่

 The In Between (2022) on IMDb

ตัวอย่าง The In Between

หนังของนางเอก Joey King จาก The Kissing Booth 3 ภาคของเน็ตฟลิกซ์ แต่เรื่องนี้ที่จริงไม่ใช่งานสร้างของเน็ตฟลิกซ์ เป็นงานสร้างจาก Paramount+.สตรีมมิ่งน้องใหม่ค่ายพาราเมาท์ และก็ฉายไปตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2022 แต่ด้วยความที่พาราเมาท์พลัสเองยังใหม่มาก ไม่ได้เปิดตัวทั่วโลก เน็ตฟลิกซ์ก็เลยไปช้อนซื้อมาฉายนอกอเมริกาแยกต่างหาก ซึ่งเสียงรีวิวก่อนนี้ก็อยู่ในเกณฑ์มิกซ์คละกันมีทั้งดีสุดๆ กับแย่ไปเลยจากผู้ชม ก็ต้องบอกว่าด้วยพล็อตกับแนวหนังเรื่องนี้ค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นหนังขายกลุ่มวัยรุ่นหญิงที่เน้นนักแสดงกับฉากหวานๆ ไปในแนวน้ำเน่าโดยเฉพาะ ซึ่งถ้าใครไม่ชอบแนวเรื่องแบบนี้ก็ผ่านไปได้เลยครับ

หนังมีพล็อตเรื่องที่ค่อนข้างหนังคลาสสิคเก่าอย่าง Ghost (1990) วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก ค่อนข้างมาก พล็อตว่าด้วยเรื่องราวของหญิงสาววัยรุ่นที่ประสบอุบัติเหตุพร้อมกับแฟนหนุ่ม เธอรอดมาได้แต่เขาเสียชีวิต ด้วยความโหยหาคนรักที่ตายไป ทำให้เธอเริ่มซึมเศร้าอมทุกข์ ก่อนที่จะมีสัญญาณบางอย่างแสดงให้เห็นว่าแฟนของเธออาจจะกลับมาในรูปแบบของวิญญาณ ที่พยายามบอกอะไรเธอบางอย่าง แต่เธอก็ไม่แน่ใจว่าเป็นจิตปรุงแต่งจากอาการซึมเศร้าของเธอหรือไม่

ซึ่งพล็อตเรื่องแบบนี้ของ Ghost จะเป็นแนวรักแบบแฟนตาซีเต็มตัว มีผีพี่เลี้ยงมาสอนแฟนให้ใช้พลังของผีกลับมาหาคนรักได้ เรื่องราวในโกสจะเป็นมุมมองของคนที่ตายไปพยายามกลับมามากกว่ามุมมองจากคนที่รอดอยู่ ซึ่งเรื่องนี้ก็เหมือนกลับกัน บทจะโฟกัสที่ตัวนางเอกที่รอดมากกว่า ว่าสิ่งที่เธอเชื่อว่าวิญญาณของแฟนติดต่อมาเป็นเรื่องจริงหรือไม่ โดยมีผู้ช่วยทางวิญญาณเป็นคนไข้ที่เคยโคม่ามาชี้นำเธอแทน ซึ่งเรื่องจะดำเนินไปแบบทำให้คนดูเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่าเรื่องดูแฟนตาซีก็จริง แต่ก็อาจจะหักมุมในตอนจบแบบเศร้าๆ เลยก็ได้ เพราะตัวเรื่องเองทั้งพระเอกนางเอกก็เป็นคนชอบดูหนังรัก นางเอกเชื่อว่าเรื่องราวความรักมักจะจบลงด้วยความเศร้าเสมอ โดยจุดนี้มีการอิงกับปมชีวิตที่ผ่านมาของนางเอกตั้งแต่เด็ก ซึ่งเรื่องราวจะมีแฟลชแบ็คกลับไปมาตลอดเวลา โดยเป็นการเล่าแบบนับถอยหลังตั้งแต่วันที่ทั้งคู่เจอกันไล่มาจนถึงวันที่ประสบอุบัติเหตุ โดยมีปมเล็กๆ ที่สำคัญว่านางเอกสูญเสียความทรงจำจากเหตุการณ์นั้น ทำให้เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ในตอนนั้น ซึ่งหนังจะใช้จุดนี้เป็นแฟลชแบ็คไคลแม็กซ์คลายปมเรื่องราวที่ซ่อนอยู่

ด้วยความที่หนังเน้นย้อนเรื่องราวการคบกันของทั้งคู่ เพื่อบอกเล่าที่มาของทั้งสองให้เข้าใจ ตัวเรื่องจึงไม่ได้เป็นแนวแฟนตาซีอะไรมาก สิ่งที่นางเอกเห็นเป็นสัญญาณก็มาในรูปแบบสิ่งของเคลื่อนไหวเอง มีภาพฟิล์มที่นางเอกไม่ได้ถ่ายโผล่ขึ้นมา ซึ่งใครที่ต้องการดูแนวเรื่องแบบแฟนตาซีมากๆ แบบ Ghost ก็คงต้องผิดหวัง แล้วหนังก็ยังเน้นย้อนเรื่องราวมากกว่าเหตุการณ์ในปัจจุบันที่แต่ละฉากสั้นกว่ามาก จนดูเหมือนเป็นหนังรักวัยรุ่นตามปกติดีๆ เน้นฉากรักหวานเยอะๆ  ซึ่งถ้าใครไม่ชอบไม่คลิ๊กกับแนวแบบนี้ก็จะกลายเป็นหนังน่าเบื่อสุดๆ ทันที แต่ถ้าใครคลิ๊กกับแนวรักหวานๆ ชอบดารานำทั้งคู่ก็น่าจะชอบหนังเรื่องนี้มากแน่นอน

ตัวนางเอก Joey King อาจจะไม่มีเสน่ห์มาก แต่ก็มักจะได้รับบทแนวนี้ประจำติดต่อกัน ซึ่งบทของเธอก็แอบคล้ายคิสซิ่งบูธไปอีก คือเป็นสาววัยรุ่นเก่งๆ แต่ขาดความมั่นใจ แล้วก็มีนิสัยแย่ๆ เอาแต่ใจติดตัว มักผลักคนรอบข้างที่หวังดีเสมอ ตั้งแต่พ่อแม่บุญธรรมที่พยายามจะสนิทกับเธอ จนเธอมาเจอกับสกายล่า พระเอกหนุ่มรูปหล่อพูดได้หลายภาษา ชอบดูหนัง เป็นนักกีฬาพายเรือหุ่นล่ำ เขาก็ปิ๊งเธอแต่แรก ความสัมพันธ์หวานๆ จึงเกิดขึ้น แต่แล้วปมเดิมๆ ก็กลับมาทำให้ทั้งคู่มีปัญหากัน ซึ่งบทแบบนี้ของเธอเองค่อนข้างงี่เง่ามากๆ ตั้งแต่เรื่องก่อนแล้ว แต่ก็เหมือนเป็นสูตรสำเร็จที่สาววัยรุ่นชอบ เพราะมันเหมือนแทนตัวเองที่ฝันอยากเจอแฟนแบบนี้ แล้วถึงทำตัวแย่แค่ไหนเขาก็ยังรักเราสุดๆ ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จหนังรักวัยรุ่นอเมริกันช่วงหลังแทบทุกเรื่อง

ตัวพระเอกสกายล่า รับบทโดย Kyle Allen หลายคนอาจจะไม่คุ้นหน้ามาก เพราะเขาก็ยังเป็นนักแสดงนำได้ไม่นาน โดยก่อนหน้านี้คือหนังวัยรุ่นแฟนตาซีเช่นกันจากเรื่อง The Map of Tiny Perfect Things  ของ Amazon  prime พล็อตเป็นหนังรักวัยรุ่นวนลูปเวลา ซึ่งทำออกมาได้เก๋มากๆ (อ่านรีวิวกับดูตัวอย่างคลิกที่นี่) ซึ่งในเรื่องนี้บทก็จะแตกต่างไปเลย เป็นบทแนวผู้ชายเปอร์เฟ็กต์ต่างกับเรื่องก่อนที่เป็นผู้ชายแหยๆ ไม่เอาไหน แม้บทอาจจะไม่ได้มีความลึกอะไรมาก แต่เสน่ห์ของนักแสดงมีสูงมาก เชื่อเลยว่าถ้ามีโอกาสได้เลือกบทดีๆ เขาน่าจะมีอนาคตเป็นดารานำชื่อดังได้แน่ๆ

ตัวหนังมีงานโปรดักชั่นสวย ด้วยความที่นางเอกเป็นนักถ่ายภาพโดยใช้กล้องฟิล์มด้วย ทำให้หลายฉากออกมาเป็นแนวอาร์ทๆ ดูดี  มีฉากแฟนตาซีสวยๆ ออกมาในช่วงหลัง แต่กลับไม่มีเพลงประกอบเพราะๆ ติดหูเลย ซึ่งน่าเสียดายมาก

สรุป The In Between สนุกและดีไหม

หนังรักหวานๆ เจาะกลุ่มสาววัยรุ่นตรงๆ ให้ชวนเคลิบเคลิ้มไปกับเรื่องราวแฟนตาซีนิดๆ หนังสนุกถ้าคุณเป็นกลุ่มผู้ชมที่ชื่นชอบแนวนี้ แต่ถ้าไม่ใช่ลองเปิดดูก่อนก็ได้ หนังไม่ได้แย่ แต่อาจจะไม่คลิกกับคุณเท่านั้นครับ

 

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!