รีวิว The King’s Affection ราชันผู้งดงาม ซีรีส์แนวพีเรียดโรแมนติกกับการเมืองเข้มข้น (อัพเดทจบ 20 ตอน)

The King’s Affection ราชันผู้งดงาม ซีรีส์เกาหลี Netflix แนวพีเรียด 20 ตอนจบ เมื่อองค์ชายถูกลอบสังหาร องค์หญิงฝาแฝดจึงต้องสวมรอยสืบบัลลังก์ ขณะเดียวกันก็ต้องพยายามปกปิดตัวตนและความรักที่มีต่อชายคนหนึ่งไม่ให้ใครล่วงรู้

ตัวอย่าง The King’s Affection ราชันผู้งดงาม

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อพระชายาให้กำเนิดฝาแฝดชายและหญิง แต่ในสมัยโชซอนฝาแฝดถือเป็นสัญญาณของลางร้าย ทำให้ลูกสาวฝาแฝดจึงควรถูกฆ่าเพื่อทำลายลางร้ายนั้นทิ้งไป แต่พระชายากลับพยายามปกป้องลูกสาวโดยการแอบส่งเธอออกไปจากวังหลวง เวลาผ่านไป 10 ปี ลูกสาวฝาแฝดกลับมาเป็นนางใน พี่น้องทั้งคู่พบกันอีกครั้งโดยที่ต่างคนต่างไม่รู้ แล้วก็เกิดเหตุพลิกผันทำให้แฝดน้องต้องกลายมาเป็นองค์รัชทายาทไป โดยที่ต้องซ่อนความลับนี้ตลอดไปไม่ให้ใครล่วงรู้

ว่ากันตามตรงคือแว่บแรกที่ดูพล็อตเหมือนน้ำเน่าแนวฝาแฝดหรือคนหน้าเหมือนสลับตัวกัน ยิ่ง Netflix โฆษณาว่าเป็นแนวรักโรแมนติกในวังยิ่งทำให้เรื่องดูจำเจเข้าไปใหญ่ แต่ต้องบอกเลยว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแค่ฉาบหน้า เพราะเรื่องราวจริงของเรื่องเต็มไปด้วยความเข้มข้นเข้าขั้นดาร์คมากตั้งแต่แรกๆ ชวนให้คิดถึงแนวพีเรียดเข้มๆ แบบ Moon Lovers: Scarlet Heart Ryeo นั่นเลย

ความเข้มของเรื่องมีมาให้เห็นตั้งแต่แรกกับฉากไล่ฆ่าปิดปากลูกสาวฝาแฝดของพระชายา ที่เกิดมาเป็นแฝดหญิงชายหน้าตาเหมือนกัน แต่กลับต้องถูกสั่งฆ่าจากองค์ราชา รวมถึงพ่อกับตาก็ยังไม่ละเว้นเลือดเนื้อเชื้อไขตัวเอง นั่นทำให้ตัวเรื่องเปิดมาแบบค่อนข้างบีบหัวใจแต่แรกกับฉากไล่ฆ่าคนทั้งตำหนักเพื่อตามล่าทารกแรกเกิดเพียงคนเดียว โดยพระชายาตัดสินใจวางยาลูกตัวเองเพื่อให้เหมือนตายชั่วขณะตบตา ก่อนจะให้ทหารพาหนีออกจากวังไปในที่สุด ซึ่งเรื่องตั้งใจให้คนอึ้งเลยว่านี่ไม่ใช่แนวรักโรแมนติกใสๆ ดูสบายๆ แน่นอน เพราะปมที่วางไว้ตั้งแต่เปิดเลือกเข้มข้น ตัวร้ายคือคนในครอบครัวของตัวเองแทบทั้งหมดที่จงใจฆ่าเธออย่างไม่คิดปราณี

ตัวเรื่องไม่เสียเวลาในการเล่าดีเทลตัวนางเอกช่วงเด็กอะไรเลย เรียกว่าสคิปข้ามมา 10 ปีมาอยู่ในวังเป็นนางในเด็กข้ารับใช้ทั่วไปแล้ว ซึ่งช่วงนี้ตัวเรื่องอาจจะดูเหมือนกลับมาสูตรสำเร็จเกาหลีที่ใช้บ่อยๆ อย่างพล็อตสลับตัวกันของฝาแฝดที่ไม่รู้จักกัน หรือการที่นางเอกมาเจอรักแรกในวัยเด็กก็ดูเป็นสูตรน้ำเน่าเดิมๆ ของเกาหลี แต่ตัวเรื่องก็เหมือนตั้งใจวางยาคนดู โดยใช้ฉากโรแมนติกหรือพล็อตสลับตัวไปให้ผลอีกทางภายหลัง ซึ่งทั้งสองสูตรนี้กลายเป็นปมเรื่องราวที่ดราม่าซับซ้อนกับดาร์คสะเทือนใจมาก จนทำให้เรื่องหนักอึ้งกว่าตอนแรกเข้าไปอีก ซึ่งผู้เขียนจะไม่สปอยล์ไว้ตรงนี้ แต่ถ้าใครอยากอ่านก็กดสปอยล์ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้โดดเด่นมากยิ่งขึ้นไปอีกคืองานโปรดักชั่นทุกด้านเนี๊ยบสมจริงมาก ฉากบ้านเมือง พระราชวัง ใหญ่โต เสื้อผ้าหน้าผม เครื่องแต่งกาย ทุกอย่างเนี๊ยบเก็บรายละเอียดได้ดีหมดจรด ฉากแอ็กชั่นฆ่าฟันต่างๆ ในเรื่องที่ดูมีรายละเอียดใส่ใจ อย่างการยิงธนูที่ต้องบิดปลายดอกทุกครั้ง การฟันแทงที่ไม่ดูหลอกๆ เลือดสาดไปทั่วเต็มเรื่อง แม้อาจจะไม่ใช่ขนาดสมจริงตรงๆ แบบพวกหนังโหด แต่ก็สมจริงในระดับที่รู้สึกได้ว่าตัวเรื่องต้องการขายภาพความน่ากลัวของเหตุการณ์ฆ่าฟันในเรื่องออกมาให้คนดูรู้สึกได้จริงๆ

และที่ต้องชื่นชมมากใน 2 ตอนแรกมาคือน้องนักแสดงดาราเด็ก Choi Myung Bin เด็กน้อยลูกคนขายผักส่งร้านพระเอกจากซีรีส์อีเทวอนคลาส ในเรื่องนี้เธอมารับบทฝาแฝดเล่นคนเดียวสองบทสลับไปมาได้อย่างน่าทึ่ง แม้หน้าตาจะเหมือนกัน แค่สลับเสื้อผ้า แต่เธอเล่นแยกอารมณ์ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ จนคนดูออกว่าตอนนี้ใครคือใคร แล้วบทในตอนเด็กนี่ก็หนักมาก มีให้เล่นครบทุกอารมณ์ โดยเฉพาะฉากดราม่าหนักๆ สะเทือนใจเธอเอาอยู่หมด คือเล่นดีซะจนเราอยากดูช่วงเวลานี้ยาวออกไปอีก แต่ก็เข้าใจว่าบทต้องโอนไปให้ตอนโต ซึ่งสองตอนที่เธอแสดงนี้คือการปูเรื่องให้คนเชื่อว่าบุคลิกทุกอย่างในตอนเด็กของเธอคือของจริงที่เป็นธรรมชาติใสบริสุทธิ์ ไม่มีความรู้สึกต้องให้ใครเกรงกลัวจากตำแหน่งรัชทายาท ก่อนจะพลิกเปลี่ยนกลายเป็นองค์รัชทายาทอีกบทบาทที่เย็นชา นิสัยเปลี่ยนไปเป็นคนละคน แต่เพราะเธอเก็บกดตัวตนที่แท้จริงตอนเด็กไว้ต่างหาก

เรื่องราวในตอนโตก็สคิปข้ามช่วงเวลาไปในทีเดียวเลยเหมือนกัน โดยตัวองค์รัชทายาท อีฮวี เปลี่ยนนักแสดงมาเป็น พัคอึนบิน ที่เล่นมาตั้งแต่เด็กแล้วดังสุดๆ กับซีรีส์เรื่อง Hot Stove League ซึ่งบทของเธอในเรื่องนี้หน้าตาทรงผมเธอแว่บแรกแอบคล้ายไอยูผสมมู่หลานนิดๆ มีเสน่ห์มากตั้งแต่ฉากแรกที่เปิดตัวเลย ซึ่งแนวหญิงเล่นเป็นชายโดยทั่วไปอาจจะไม่เนียนเพราะแม้ในเรื่องจะเซ็ตว่าหลอกคนอื่นได้ แต่ก็ไม่ได้จะเนียนเป็นผู้ชายแบบหลอกคนดูได้ ซึ่งเป็นข้อจำกัดของเรื่องแนวนี้ แต่เรื่องนี้ต่างออกไป เพราะบทคือรัชทายาทโฉมงามที่หน้าตาเหมือนผู้หญิงมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว กล่าวคือไม่ต้องจงใจทำให้เนียนอะไร เพราะความงามของตัวเอกคือจุดขายของเรื่องนี้อยู่แล้ว

ส่วนตัวพระเอก จองจีอุน ที่รับบทโดย โรอุน เปิดมาท้ายๆ เรื่องตอน 2 ในบทหมอสมุนไพรที่ต้องกลายมาเป็นอาจารย์ของตัวนางเอกในเวลาต่อมา โดยมีปมว่าเขาแตกหักกับพ่อและครอบครัวเพราะเหตุการณ์ในอดีตที่เกี่ยวพันกันฝาแฝดของนางเอก แต่ต้องเข้าวังมาเป็นอาจารย์ ซึ่งปมในอดีตที่ทั้งสองคนรู้จักไว้ก็ค่อยๆ คลายออกมา โดยที่ตัวจองจีอุนไม่รู้ว่าองค์รัชทายาทคือรักแรกของเขา ส่วนอีฮวีรู้แต่พยายามตัดใจไม่ให้เกี่ยวข้องกับเขา ก็เลยกลายฉากโรแมนติกชวนจิ้นเยอะมากในเรื่อง ซึ่งอาจจะดูจงใจยัดใส่มามากเกินไปด้วย แต่จากปมความหลังที่วางไว้ทำให้ตัวเรื่องไม่ง่ายที่จะทำให้สองคนนี้รักโรแมนติกได้ตามสูตรเดิมๆ ในเรื่องต้องฝ่าฝันอุปสรรคเยอะมาก แต่บทจองจีอุนนี้ก็ไม่ได้มีแต่เรื่องโรแมนติก กลับเป็นแนวติดตลกช่วยผ่อนคลายเรื่องซะเยอะด้วยครับ

ในเรื่องมีพระรองคือ “อีฮยอน” (รับบทโดย Nam Yoon-Soo) เป็นลูกพี่ลูกน้องกับอีฮวี ซึ่งเขาแอบชอบและช่วยปกป้องมาตลอด เพราะเขาแอบรู้ความลับของเธอในตอนเด็ก ซึ่งก็ทำให้ฉากโรแมนติกของพระรองกับนางเอกดูน่าลุ้นมากๆ แม้จะรู้ว่าเขาคงไม่สมหวังก็ตามที นอกจากนี้เขายังเป็นตัวเดินเรื่องสำคัญในทุกช่วงเหตุการณ์สำคัญของเรื่องด้วย
ตัวเอกชายอีกคนคือ “คิมกาอน” (รับบทโดย Choi Byung-Chan) องครักษ์หนุ่มหน้าหล่อใสที่แต่งตั้งจากพระพันปีมาช่วยปกป้องอีฮวี โดยเขามีจุดหมายแบบลับๆ เกี่ยวกับตัวอีฮวี เป็นบทที่เน้นแอ็กชั่นเท่ๆ ตลอดเวลา ดูเป็นบทที่ชวนให้สาวๆ กรี๊ดสุดของเรื่องแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้มีบทแสดงออกด้านอารมณ์อไะรมาก นอกจากทำหน้านิ่งๆ ตามแนวองค์รักษ์พิทักษ์ราชาโดยปกตินั่นเอง

หัวหน้าองค์รักษ์ จางซอกโจ (รับบทโดย Bae Soo-Bin) เรียกว่าเป็นตัวร้ายสำคัญของเรื่องเลย เพราะเป็นคนปลิดชีพพี่ชายนางเอก และยังเป็นพ่อของพระเอก รวมถึงเป็นมือไม้ให้กับเสนาบดีซังออนที่เป็นตัวร้ายใหย่สุดของเรื่อง ซึ่งบทก็วางให้เขาเป็นคนโหดเหี้ยมอำมหิตมากกับฉากฆ่าเด็กและคนบริสุทธิ์หลายครั้ง แต่เรื่องก็วางบทนี้ไว้เป็นเทาๆ มากกว่าด้านมืดล้วนๆ เพราะการที่เขาทำลงไปก็เพื่อต้องการปกป้องครอบครัวกับลูกชายด้วยความรัก ก็ทำให้ตัวละครนี้มีมิติซับซ้อนน่าติดตามมาก เดาทางไม่ถูก การออกมาแต่ละครั้งทำให้เรื่องสามารถพลิกไปพลิกมาจากการตัดสินใจของเขาได้ทุกครั้ง

Shin So-Eun กับ No Ha-Kyung สองตัวละครหญิงที่เรียกว่าเป็นไม้ประดับของเรื่องมากกว่า และก็ไม่ใช่บทนางรองด้วย เพราะบทของทั้งคู่ไม่ได้มีความสำคัญมาก เป็นแค่ตัวเสริมเหตุการณ์ของเรื่อง โดย hin So-Eun รับบทเป็นราชินีหลังนางเอกขึ้นเป็นราชา ซึ่งบทก็รวบรัดตัดมาให้เธอมีบทนี้เลย โดยมีเกริ่นนำก่อนนี้ไม่มาก ส่วน No Ha-Kyung เป็นบทผู้หญิงที่หลงรักพระเอกข้างเดียว เป็นบทดึงซีนให้เรื่องมีอะไรเล่นในช่วงท้ายจากการโดนบังคับแต่งงานกับพระเอกเท่านั้น แต่ทั้งคู่ก็ไม่ใช่ตัวสำคัญกับเรื่องมากเท่าที่ควร

ซีรีส์ฉายทุกวันจันทร์ อังคาร เวลาสามทุ่มครึ่งไปหลังจบที่เกาหลี มีทั้งหมด 20 ตอนจบ ซึ่งถือว่ายาวมาก แต่ตัวบทมาจากการ์ตูนดังตีพิมพ์ขายที่จบไปแล้ว (ลายเส้นงดงามมากไม่ใช่แบบเว็บตูน) ก็ไม่มีปัญหาการถ่ายไปเขียนแก้บทไป เนื้อเรื่องที่วางไว้ 20 ตอนมีรายละเอียดลึกมากมายมาขาย ไม่ใช่มีแต่ฉากโรแมนติก

รีวิวสรุปหลังดูจบครบ 20 ตอน (มีสปอยล์บางส่วน)

เป็นซีรีส์แนวพีเรียดที่ค่อนข้างแตกต่างจากทั่วไปเลย กับการที่ให้นางเอกเป็นราชาตัวเอกตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบ เนื้อเรื่องครึ่งแรกใช้เวลาไปกับฉากโรแมนติกค่อนข้างมากกับการที่พระเอกได้มาเป็นอาจารย์สอนนางเอกในวัง แล้วก็มีเรื่องกุ๊กกิ๊กเกิดขึ้นโดยที่พระเอกไม่ได้ระแคะระคายว่านางเป็นหญิง ซึ่งเนื้อเรื่องก็ไม่ได้เข้มข้นมากเท่ากับ 2 ตอนแรกที่เปิดตัวช่วงวัยเด็ก แต่ก็ยังดีที่มีเนื้อเรื่องบททดสอบการขึ้นเป็นราชามาเป็นระยะๆ ซึ่งนางเอกในคราบองค์รัชทายาทก็ต้องพิสูจน์ฝีมือด้านการเมืองให้สำเร็จ โดยมีพระเอก พระรอง และคนอื่นๆ เป็นซัพพอร์ทช่วยอีกที

ส่วนครึ่งหลังเนื้อเรื่องค่อนข้างเครียดแล้ว เพราะคือช่วงที่นางเอกต้องพบกับปัญหาหลายอย่างจากการเข้ารับตำแหน่งราชาองค์ต่อไป ซึ่งก็เริ่มตั้งแต่การที่ต้องมีพระชายาก่อนขึ้นครองราชย์ ซึ่งบทก็พยายามให้นางเอกมีทางออกในเรื่องนี้แบบผลัดเวลาไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะขึ้นเป็นราชาแบบจำเป็น ตัวเรื่องวางบทไว้เข้มข้นมากกว่าจะฝ่าด่านทดสอบมาได้ และก็ยังค่อยๆ พยายามหาทางลงให้นางเอกพร้อมกันไปด้วย โดยครึ่งหลังช่วงแรกความลับของนางเอกที่เป็นหญิงแทบจะเปิดเผยหมดกับทุกคนติดๆ กันเลย โดยฉากเปิดเผยความลับกับพระเอกก็มาในแนวใหม่ไม่เหมือนใครดีกับการเปิดเสื้อให้ดูเลย ผู้ชมอาจจะขำๆ หน่อยว่าเล่นกันแบบนี้เลย นอกจากนี้ก็เป็นช่วงที่เพิ่มความโรแมนติกกับบทจูบของพระเอกนางเอกที่เผลอเป็นไม่ได้จูบกันตลอด เหมือนเก็บกดจากที่ช่วงแรกเป็นแนว ชาย ชาย ทำให้มีบทจูบไม่ได้ซึ่งการที่เรื่องเปิดเผยความลับนี้ก็เพื่อผลักทิศทางของเรื่องให้ทุกคนที่รายล้อมนางเอกได้ซีนเฉลยความหลังย้อนไปว่า ทุกคนรู้ แต่พยายามปกปิดเรื่องนี้ไว้เอง เป็นแนวซึ้งๆ กินใจที่ถือว่าเรื่องทำได้ดีเลย โดยเฉพาะซีนของฝ่าบาทกับตัวนางเอกที่กินใจเป็นความในใจของพ่อกับลูกที่ไม่เคยเปิดใจให้กัน ตรงจุดนี้ทำออกมาได้ดีมากจริงๆ เรียกว่าเป็นจุดพีคสำคัญของเรื่องเลย

ช่วงท้ายเป็นการชิงอำนาจกันระหว่างฝ่ายอำมาตย์ในวังที่ต้องการโค่นบัลลังค์นางเอกลง จากความลับที่ถูกเปิดเผยออกมา แต่ตัวเรื่องก็ให้นางเอกสู้กลับด้วยการย้อนเกล็ดว่าฝ่ายอำมาตย์คิดคดเป็นกบฎต่อราชบัลลังค์ ซึ่งเรื่องช่วงท้ายขมวดตึงเครียดมาก มีการชิงไหวพริบกันในเรื่องต่างๆ เพื่อจะเล่นงานอีกฝ่ายให้ได้ ก่อนจะมีฉากสู้รบใหญ่ในตอนท้ายที่นองเลือดมาก แต่เรื่องก็ไม่ได้จบด้วยการใช้กำลัง แต่เป็นการใช้ไหวพริบของตัวนางเอก ซึ่งบทวางได้ดีเลย เป็นทางออกที่คาดไม่ถึงว่าจะเล่นแบบนี้เหมือนกัน (แต่ก็มีติดใจว่าทำไมนางเอกถึงรอดมาได้ ตรงนี้เรื่องไม่ได้มีเฉลยเพิ่ม จะเรียกว่าเป็นพล็อตโฮลก็ได้) ก่อนที่เรื่องจะแฮปปี้เอนดิ้งแบบสวยงามเคลียร์ทุกอย่างลงตัวหมด

อ่านรีวิวซีรีส์เกาหลี Original Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่