playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Kitchen (Netflix) หนังไซไฟดิสโทเปียทุนต่ำที่เล่าเรื่องเรียบๆ ไปจนจบอย่างน่าเบื่อ

The Kitchen

Summary

หนังเรื่องแรกจาก Daniel Kaluuya (นักแสดงที่เป็นตัวเอกใน Get Out) ได้แค่งานทดลองกำกับและเขียนบทแบบดาดๆ เท่านั้น หนังมีปัญหาจากตั้งใจเล่นเรื่องสเกลโลกอนาคตดิสโทเปียโดยขาดทุนสร้างกับงานโปรดักชั่นที่ไปไม่ถึง และพยายามมาเล่าเรื่องชุมชนเล็กๆ กับความสัมพันธ์ตัวละครต่างวัยทั้งเรื่องเป็นดราม่าชีวิตทั้งหมด โดยไม่มีจุดพีคใดๆ ให้กับผู้ชม แนะนำว่าข้ามผ่านไปได้เลยดีกว่าครับ

Overall
5/10
5/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • หนังเรื่องแรกจาก Daniel Kaluuya (นักแสดงที่เป็นตัวเอกใน Get Out)
  • มีพากย์ไทย

Cons

– งานโปรดักชั่นไซไฟทุนต่ำไม่สอดคล้องส่งเสริมเรื่อง
– เล่าเรื่องดราม่ายาวทั้งเรื่องโดยขาดอารมณ์ร่วม
– ไม่มีรายละเอียดฝ่ายศัตรู

ADBRO

The Kitchen หนัง Original Netflix ของอังกฤษ เรื่องราวความสัมพันธ์ต่างวัยในชุมชนสุดท้ายของลอนดอนในอนาคตแบบดิสโทเปีย
The Kitchen (2023) on IMDb

รีวิว The Kitchen

หนังอังกฤษจาก Daniel Kaluuya นักแสดงที่เป็นตัวเอกในหนัง Get Out โดยเป็นผู้เขียนบทและกำกับ เล่าเรื่องราวในลอนดอนดิสโทเปีย ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนได้ขยายถึงขีดจํากัดแล้ว การเคหะเพื่อสังคมทุกรูปแบบถูกกำจัดให้หมดสิ้น เหลือแต่ The kitchen (ห้องครัว) ชุมชนที่ไม่ยอมย้ายออกจากที่ที่พวกเขาเรียกว่าบ้าน ที่นี่เราได้พบกับอิซี่ผู้โดดเดี่ยวที่อาศัยอยู่ที่นี่มานานและพยายามอย่างยิ่งที่จะหาทางออก เขาได้มาเจอกับเบนจิ เด็กชายอายุ 12 ปีที่สูญเสียแม่และกําลังตามหาพ่อที่คาดว่าอยู่ในชุมชนสุดท้ายนี้ 

หนังเป็นแนวไซไฟดิสโทเปียก็จริง แต่เนื้อเรื่องไม่ได้มีบอกปี แทบจะไม่มีความเป็นไซไฟอะไรให้เห็นเด่นชัด นอกจากฉากแรกที่เห็นทิวทัศน์เมืองกว้างๆ ที่เจริญไปไกลแล้ว ขนาดที่มีพาหนะบินได้บนท้องฟ้าในเมืองที่ดูล้ำหน่อยกับบริการจัดการศพที่ชื่อ Life After Life ที่เอาคนตายไปเป็นเปลี่ยนเป็นต้นไม้ให้ครอบครัวที่เหลือไว้เป็นที่ระลึกหรือมาเยี่ยมได้ในช่วงที่ยังเป็นต้นอ่อนอยู่ที่นี่ ซึ่งที่นี่คือที่ตัวเอกทำงานอยู่และได้พบกับเด็กชายที่สูญเสียแม่ไป จากนั้นเรื่องก็แทบไม่ได้นำเสนออะไรที่เป็นไซไฟเลยนอกจากกระจกที่ไว้อ่านข่าวตอนเช้าเท่านั้น โดยที่สิ่งที่เหลือจากนั้นแทบจะเป็นยุคปกติปัจจุบันนี้ทั้งหมด อย่างโดรนสอดแนมของตำรวจ ตำรวจในชุดจราจลเดิมๆ ทั้งตัว พาหนะขับเคลื่อนที่ยังใช้จักรยานกับมอเตอร์ไซค์ธรรมดา ซึ่งเข้าใจได้ว่าทุนสร้างคงจำกัดมาก งานโปรดักชั่นจึงทำโลกไซไฟแบบที่ควรจะเป็นจริงตามยุคไม่ได้ แม้จะอ้างว่าเป็นดิสโทเปียก็ตาม แต่ฝ่ายผู้คนด้านนอกก็ยังแทบไม่แตกต่างไปจากปัจจุบันเลย 

เนื้อเรื่องเน้นเล่าเรื่องของชุมชน The kitchen ที่เหมือนชุมชนแบบสลัมแนวตั้งอยู่บนตึก มีวิถีชีวิตแบบเดิมๆ ค้าขายทำมาหากิน มี DJ ที่เป็นผู้สูงอายุพูดเสียงตามสายคอยทำให้ชุมชนคึกคัก โดยเนื้อเรื่องเน้นเล่าชีวิตของอิซี่ที่เตรียมจะย้ายออกไปจากที่นี่ แต่เขาได้พบกับเด็กชายที่ชื่อเบนจิ และมีปริศนาว่าใครคือพ่อของเบนจิที่อยู่ที่นี่ ซึ่งเรื่องก็เป็นแนวสานสัมพันธ์เพื่อนต่างวัยแบบเล่าเรื่องเรียบๆ ไปเรื่อยๆ มีความช้าในการเดินเรื่องมากเกือบ 2 ชั่วโมง โดยที่สุดท้ายอิซี่ต้องออกจากที่นี่ไปเพราะซื้อที่พักด้านนอกได้แล้วและไม่แคร์กับที่นี่ แต่เด็กคนนี้คือห่วงใยสุดท้ายที่ทำให้เขาต้องคิดว่าควรจากไปหรือไม่ โดยที่แก๊งนักเลงในชุมชนนี้ก็พยายามสู้กับฝ่ายรัฐบาลหรือเผด็จการที่มาจับกุม ซึ่งไม่มีการอธิบายในเรื่องเลยให้ผู้ชมได้รู้เลยว่าเป็นมายังไง ทำให้ขาดรายละเอียดที่ควรไว้บิ้วอารมณ์ร่วมไปอย่างมาก แม้จะมีฉากตัวละครที่สูญเสียและเจ็บปวดหลายครั้ง แต่หนังไม่ได้ทำให้อินได้เลยสักนิด กลายเป็นหนังที่พยายามเล่าดราม่าเรียบๆ แล้วก็จบแบบปริศนาใบ้ไว้เล็กๆ ว่าใครคือพ่อของเบนจิเท่านั้นเองครับ 

 

สรุป หนังเรื่องแรกจาก Daniel Kaluuya  ได้แค่งานทดลองกำกับและเขียนบทแบบดาดๆ เท่านั้น หนังมีปัญหาจากตั้งใจเล่นเรื่องสเกลโลกอนาคตดิสโทเปียโดยขาดทุนสร้างกับงานโปรดักชั่นที่ไปไม่ถึง และพยายามมาเล่าเรื่องชุมชนเล็กๆ กับความสัมพันธ์ตัวละครต่างวัยทั้งเรื่องเป็นดราม่าชีวิตทั้งหมด โดยไม่มีจุดพีคใดๆ ให้กับผู้ชม แนะนำว่าข้ามผ่านไปได้เลยดีกว่าครับ

including other English reviews

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!