รีวิว The Knight Before Christmas เมื่ออัศวินยุคกลางข้ามเวลามาติด Netflix งอมแงม
The Knight Before Christmas
Summary
หนังจะดูสนุก เพลินๆ ชิลๆ มีตลกน่ารักกำลังดี แต่สิ่งที่หนังพลาดไปคือการเล่าเรื่องที่ยืดเยื้อ และก็เป็นไปตามสูตรตั้งแต่ช่วงกลางเรื่องไปจนจบแบบไม่มีเซอร์ไพรส์อะไรเลย
Overall
6/10User Review
( votes)Pros
- พระเอกหล่อน่ารักจริง
- มุกพระเอกเล่นกับของใช้ไฮเทคฮาจริง
Cons
- หนังราบเรียบจนจบไม่ต้องลุ้น
- หนังตั้งแต่กลางเรื่องเนือยๆ ไปจนจบ
The Knight Before Christmas หนัง Original Netflix เรื่องราวของหนังอัศวินจากยุคกลางข้ามเวลามาโลกปัจจุบัน แล้วโดนครูสอนวิทยาศาสตร์มัธยมปลายขับรถชน จนคนอื่นคิดว่าเขาสมองเสื่อม แต่แท้จริงเขาต้องมาทำภารกิจเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นอัศวินเต็มตัวก่อนเที่ยงคืนวันคริสต์อีฟที่กำลังจะมาถึง
ตัวอย่างหนัง The Knight Before Christmas Netflix
อีกหนึ่งหนังรักวันคริสต์มาสของ Netflix ที่เข้ามาเยอะเหลือเกิน หนังว่าด้วยพล็อตเชยๆ ข้ามเวลามาพบรัก ซึ่งเมื่อดูแล้วก็พบว่าหนังเดินตามสูตรตรงแหน่ว ออกแนวหนังน้ำเน่าละครหลังข่าวบ้านเราแบบนั้นเลย แต่ว่าบางทีอะไรที่มันง่ายๆ เน่าๆ เบาๆ แบบนี้ก็ดูได้เพลินๆ เหมาะแก่การเปิดรับชมกับครอบครัว หรือคู้รักเปิดดูด้วยกันก็เหมาะดีเหมือนกัน
แม้ว่าพล็อตหนังจะน้ำเน่ามาก แต่เนื้อในหนังก็ไม่ได้เลวร้ายหรือแย่เกินทนอะไร หนังเดินเรื่องราบเรียบเดาได้หมดจนจบ แต่ในความราบเรียบก็ดูไปยิ้มไปกับความเปิ่นของเรื่องนี้ได้เหมือนกัน ซึ่งแน่นอนว่าความเปิ่นนั่นมาจากการที่พระเอกเป็นอัศวินยุคกลางที่ข้ามเวลามาจากเวทย์มนต์ของหญิงชราในป่าลึกลับ ซึ่งบอกใบ้เขาว่าต้องทำภารกิจให้สำเร็จให้ทันก่อนเที่ยงคืนวันคริสต์อีฟ โดยไม่บอกว่าคืออะไร? เมื่อมาเจอกับโลกยุคปัจจุบันก็ยังติดใช้ศัพท์เชยๆ จากยุคกลาง จนทำให้คนคิดว่าเขาสติไม่ดี แม้แต่นางเอกก็ด้วย แต่เธอก็เล่นตามน้ำสมมุติเออออกับพระเอกไปตามเรื่องราวเพื่อชดเชยความผิดที่ขับรถชนเขา ซึ่งความสนุกของเรื่องคือการที่พระเอกได้มาเจออุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ ในยุคนี้ ซึ่งเรื่องอื่นแนวนี้อาจจะยังเป็นของทั่วไป แต่กับเรื่องนี้หนังหยิบจับอะไรที่ไฮเทคจริงๆ อย่างที่บ้านเรายังไม่ค่อยได้ใช้กันเลยอย่าง Amazon Alexa ลำโพงอัจฉริยะที่สั่งการด้วยเสียงใช้้เปิดเพลงในบ้าน หรือ “มุกกล่องวิเศษ” ซึ่งก็คือสมาร์ททีวีที่ดู Netflix ได้ หนังเอาความจริงของคนดูเน็ตฟลิกซ์มาล้อได้อย่างขำขันน่ารัก เมื่ออัศวินยุคกลางติดเน็ตฟลิกซ์งอมแงมโต้รุ่งกับนางเอก แบบไหนว่าตอนเดียวไง:) ซึ่งหนังใส่มาเต็มๆ หลากฉากเอาซะฮา แต่นอกเหนือจากพวกมุกใช้อุปกรณ์ไฮเทคผิดที่ผิดทางแล้ว มุกตลกทั่วไปก็ไม่เท่าไหร่ อาจจะเพราะมีหนังแนวนี้ออกมาเยอะแล้วก็เลยเฉยๆ แต่ก็อย่างที่บอกไปหนังดูง่ายๆ เบาๆ พระเอกหล่อเปิ่นน่ารัก มีฉากโชว์ซิกแพ็ค ถ้าสาวๆ ดูก็คงถูกใจกว่าผู้ชายอย่างผมดูแน่นอนครับ
หนังได้ Vanessa Hudgens นางเอกหนังโรงมาเล่น ซึ่งก็ดูเข้ากับบทครูสาวใจบุญนิสัยดี ส่วนพระเอกก็ได้ดาราที่ยังโนเนม Josh Whitehouse แต่ก็เล่นได้ดีดูเปิ่นน่ารักหล่อครบสูตร ซึ่งเห็นมีแฟนคลับที่ต่างประเทศอยู่เหมือนกัน ไม่แน่ว่าสาวๆ ดูหนังเรื่องนี้แล้วอาจจะไปสมัครเป็นแฟนคลับเขาเพิ่มได้ก็ได้ เพราะหล่อจริงและยังเล่นได้ดีสมบทบาทด้วย
หนังเล่นประเด็นเรื่องนางเอกผิดหวังกับความรัก จนไม่เชื่อว่ารักแท้มีจริง ซึ่งพ่วงกับการที่ไม่เชื่อว่าพระเอกมาจากยุคกลางจริงๆ เพราะการเดินทางข้ามเวลาไม่มีจริงในความคิดของนางเอก ก่อนที่จะโดนสอนว่าคุณเชื่อเฉพาะสิ่งที่คุณรู้เท่านั้นหรือ? ซึ่งก็กลายเป็นกระตุกให้นางเอกคิดได้ว่า รักแท้ก็เหมือนไทม์ทราเวล แค่ยังพิสูจน์ไม่ได้ไม่ใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง ซึ่งหนังก็หาทางให้เรื่องราวแฮปปี้เอนดิ้งได้ตามสูตร แม้จะดูง่ายไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้เสียหายอะไรครับ
ถึงหนังจะดูสนุก เพลินๆ ชิลๆ มีตลกน่ารักกำลังดี แต่สิ่งที่หนังพลาดไปคือการเล่าเรื่องที่ยืดเยื้อตั้งแต่ช่วงกลางเรื่องไปเหมือนหนังไม่ยอมเดินหน้าไปไหน ทั้งๆ ที่รู้ว่ามีเวลาจำกัดแค่ไม่กี่วันในเรื่อง แต่หนังใช้เวลาจำกัดในเรื่องได้ไม่คุ้มเท่าไหร่ ดูเนือยๆ จนตอนแรกที่สนุกๆ ทำเอาหาวตอนหลังได้เลยครับ
- ความเห็นของเรา: SKIP IT ข้ามผ่านไปได้ ไม่ดูก็ไม่รู้สึกว่าพลาดอะไรไปครับ