playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Lazarus Project SS2 (HBO) เล่นกับย้อนเวลาในลูปแสนซับซ้อนสุดๆ

The Lazarus Project SS2

Summary

ภาคต่อซีรีส์สายลับที่สุดของความซับซ้อน ด้วยการเล่นกับลูปเวลาไม่พอยังใส่ย้อนเวลาเข้ามาในลูปอีก ทำให้เรื่องกลายเป็นเหมือน Groundhog Day + The Terminator ซึ่งความซับซ้อนนี้ถูกเขียนบทมาอธิบายได้อย่างเจ๋ง บทเชื่อมต่อเคลียร์ภาคแรกได้สนิทเลย แต่ก็มีปัญหาคือเรื่องวนเวียนกับการแก้ปัญหาลูปที่พันกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนไม่มีเวลาใส่ฉากแอ็กชั่นโลดโผนระหว่างทางแบบภาคแรกเลย มีแค่ตอนจบสุดท้ายซึ่งมันไม่พอ แต่ทั้งนี้บทก็เขียนมาดีจนพอมองข้ามได้ และก็เคลียร์เรื่องราวทั้งหมดจบเลย ก่อนไปขึ้นใหม่ในซีซั่น 3 กันอีกรอบครับ (อัพเดท SS3 ถูกแคนเซิล แต่ก็ยังสามารถดูได้เพราะ ss2 จบในตัวครับ)

Overall
7.5/10
7.5/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • สายลับวนลูปเวลา+ย้อนเวลา
  • บทเขียนได้ซับซ้อนละเอียดมาก
  • แทรกความรักลงไปได้พอเหมาะ

Cons

  • ฉากแอ็กชั่นน้อยกว่าภาคแรกมาก
  • ระบบเสียง 5.1 หายไป
  • ไม่มีพากย์ไทย

ADBRO

The Lazarus Project ss2 ซีรีส์ HBO MAX 8 ตอนจบซีซั่น ภาคต่อซีรีส์สายลับที่บทซับซ้อนสุดๆ มันคือแนววนลูปเวลาแบบ Groundhog Day ที่ไม่งงเลย แต่ซับซ้อนมาก มาภาคนี้บวกแนวย้อนเวลาของคนเหล็ก The Terminator ลบอดีตเพื่อเปลี่ยนอนาคตเพิ่มเข้าไปอีก ซึ่งความซับซ้อนของเรื่องนี่บอกเลยว่าสุดๆ ยิ่งกว่าหลายเรื่องที่เคยดูมาในแนวเล่นกับเวลาแน่นอนครับ

 

รีวิว The Lazarus Project (HBO) ซีรีส์สายลับย้อนเวลากู้โลกแตกที่สนุกซับซ้อนไม่เหมือนใคร!

รีวิว The Lazarus Project SS2 (ไม่สปอยล์)

ตัวเรื่องเล่าต่อจากตอนจบที่เผยให้เห็นว่าองค์กรอื่นที่ย้อนเวลาแก้ไขอนาคตได้จริง ไม่ใช่แบบวนลูปเวลามีเช็คพ้อยท์ของลาซารัส เพียงแต่ว่าเจ้าเครื่องนี้ขององค์กรลับนี้มันไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดแบล็คโฮลดูดกลืนโลกในอีกเวลา 3 สัปดาห์ ซึ่งทีมลาซารัสไม่สามารถหยุดมันได้แล้ว จึงต้องการหาทีมผู้สร้างเครื่องย้อนเวลานี้มาสร้างเครื่องย้อนเวลาให้ไปถึงต้นทางจุดกำนิดคนสร้างเครื่องนี้เพื่อทำลายต้นตอให้สิ้นซาก แต่สิ่งที่ทีมตามหาก็ไม่ใช่อย่างที่คิด เมื่อความลับเรื่องการย้อนเวลานี้หันกลับมาพัวพันกับลาซารัสเองในภายหลัง

ซีรีส์เล่าเรื่องด้วยรูปแบบเดิมในช่วงแรก ก็คือฉากการตายลูปวนเวียนซ้ำกับเช็คพ้อยท์เพื่อหาทางช่วยนักวิทยาศาสตร์องค์กรลับให้รอด ซึ่งทั้งเรื่องนี้ก็จะมีจุดเช็คพ้อยท์เป็นลูปเดียวกับที่ชีฟโดนจอร์จยิงวนไปวนมาซ้ำๆ จนกลายเป็นปมความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ของสองคนนี้เพิ่มไปอีก จุดนี้ก็ทำให้เนื้อเรื่องของชีฟภาคนี้แทบไม่มีบทเลยเพราะต้องพักฟื้นจากการโดนยิงอยู่ตลอดเวลา แล้วก็มีบทในตอนหลังช่วงหนึ่งสั้นๆ ในขณะที่จอร์จก็ยังเป็นตัวเอกหลักที่บทก็ยังเขียนให้เขาเป็นตัวแปรของเหตุการณ์ โดยมีนิสัยจอมเสือกแบบเดิมเข้ามาป่วนกาลเวลาเพิ่มขึ้นไปอีก แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือภาคนี้เขาไม่ได้ตั้งใจวางแผนการอะไร นอกจากการขอกลับไปอยู่ในทีมลาซารัสให้ได้และฟื้นคืนความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคนเท่านั้น ซึ่งซีรีส์ก็ให้เวลาตัวจอร์จได้คลี่คลายปมปัญหาจากภาคที่แล้วในตอนแรกแบบไม่ยากเท่าไหร่ ซึ่งผู้ชมก็คงโอเคเก็ทเชื่อได้ล่ะว่าคนในทีมนี้มองเรื่องร้ายแรงระดับโลกเป็นเรื่องสำคัญกว่าปัญหาส่วนตัว ปมหนักหนาสาหัสในภาคก่อนจึงเคลียร์ไปได้ง่ายๆ เรื่องเล่นกับเช็คพ้อยท์แบบเดิม 2 ตอนก่อนเข้าสู่ช่วงย้อนเวลาเต็มตัว ซึ่งช่วงนี้ก็จะมีตัวละครใหม่ปรากฏตัว 2 คนคือ ลูกสาวของเจเน็ตที่ถูกส่งไปอดีตพร้อมกับบอดี้การ์ดที่คอยปกป้องเธอ เรื่องก็เริ่มซับซ้อนเมื่อมีกฏของการย้อนเวลาไปแก้ไขอดีตเปลี่ยนอนาคตแทรกเข้ามาในลูปทั้งหมด ซึ่งเรื่องย้อนไปถึงจุดสำคัญในอดีตต่างๆ ก่อนจอร์จจะเข้ามาในทีมนี้เสียอีก ทำให้เห็นว่าการมีอยู่ของลาซารัสเองนั่นแหละคือปัญหาตั้งแต่แรก และก็เป็นเผด็จการที่ใช้อำนาจนี้หยุดยั้งโลกแตกอย่างไม่สนใจใคร แต่สุดท้ายแล้วมันถูกต้องหรือไม่? ซึ่งผู้ชมก็ต้องรู้สึกมาตลอดว่าทีมนี้มันฆ่าใครง่ายๆ จนชาชินจนเกินไปรึเปล่า ภาคนี้จึงเป็นการตอกย้ำเรื่องนี้ให้กลายเป็นปมหลัก เมื่อเป้าหมายนั้นคือพวกเดียวกันเอง และลาซารัสก็ไม่ใช่ตัวร้ายไปหมดเพราะมีความสำคัญกับโลกอยู่ ซึ่งบทก็เป็นการถกเถียงเรื่องนี้ก่อนจะเป็นการตัดสินใจของแต่ละฝ่าย ที่ถ่วงน้ำหนักเหตุผลได้ดีเลย จนเชื่อว่าตอนจบของเรื่องนี้ผู้ชมก็ยังคงต้องกังขาว่าอะไรคือความถูกต้องกันแน่ครับ

นอกจากแนวเวลาวนลูปซับซ้อนแล้ว ซีรีส์ก็ยังเน้นหนักในเรื่องปมความรักความสัมพันธ์ต่างๆ ของตัวละครมากอยู่เหมือนเดิม โดยตัวเรื่องไล่ทวนซ้ำความสัมพันธ์ของแต่ละคู่ให้เคลียร์ลงในภาคนี้ทั้งหมด อาชี่อยากแก้ตัวกับชายคนที่เธอเคยรักในลูปภาคแรก โดยมีคนรักใหม่คือสายลับจีนในตอนท้ายภาคแรก ซึ่งจุดนี้ดูแปลกๆ หน่อยไม่อินเพราะกลายเป็นอาชีเป็นไบเซ็กชวลตามกระแสนิยม ดู Woke ไปหน่อยทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้จำเป็นกับบทเท่าไหร่ แต่คู่หลักคือจอร์จกับซาร่า ทั้งคู่ยังเป็นความสัมพันธ์ที่อธิบายได้ยาก คาดเดาไม่ได้ว่าซาร่ายังรักจอร์จหรือไม่ โดยเรื่องหันมาไล่สำรวจความรู้สึกนี้อย่างจริงจัง แล้วก็เฉลยปมความรักของทั้งคู่ได้อย่างกิ๋บเก๋น่ารักมาก โดยใช้การย้อนเวลากลับไปเจอตัวเองและพยายามแก้ไขกับทดสอบตัวเองในเวลานั้น ทำให้เห็นว่าบทในภาคถูกเขียนขึ้นมาพร้อมกับภาคแรก เพราะหลายๆ อย่างที่เห็นในภาคแรกแล้วไม่มีอธิบายทั้งเรื่องของจอร์จกับซาร่าและคนอื่นๆ ก็จะถูกเฉลยจนเคลียร์ทั้งหมด นับว่าทำได้ดีมาก แต่ถ้าใครจำฉากพวกนี้ไม่ได้ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะมันเป็นแค่จิ๊กซอว์ส่วนประกอบเล็กๆ ของเรื่องเท่านั้นครับ (แต่ก็ทำให้เห็นเลยคนเขียนบทเรื่องนี้เจ๋งจริงๆ)

แต่สิ่งที่ภาคนี้แย่ลงไปแบบเห็นได้ชัดคือฉากแอ็กชั่น ภาคก่อนฉากพวกนี้เป็นจุดขายสำคัญของเรื่องเลยทำให้เหมือนกำลังดูหนังสายลับแบบซีรีส์ที่ลงทุนสูงหน่อย แต่ภาคนี้คือฉากแอ็กชั่นใหญ่ๆ หายไปหมดมีแค่ตอนสุดท้ายตอนเดียว ซึ่งไม่น่าจะเกิดจากงบเพราะเรื่องนี้ได้รับความนิยมสูงอยู่ แต่น่าจะเกิดจากตัวบทเน้นการแก้ปัญหาลูปเวลาทับซ้อนกันมากจนเกินไป (ช่วงหลังนี่มีงงกันแน่ๆ) จนแทบไม่เปิดโอกาสให้มีฉากแอ็กชั่นโลดโผนแบบภาคก่อนเลย อย่างพวกฉากขับรถไล่ล่าระเบิดตูมตามหายไปหมดเลยครับ

สุดท้ายซีรีส์จบแบบเคลียร์เรื่องราวทั้งหมดได้ค่อนข้างโอเคเลย อาจจะมีตะหงิดกับพวกลูปงงๆ ตอนท้ายบ้างแต่ก็ไม่ได้กระทบอะไรมาก ก่อนที่เรื่องจะมีเซอร์ไพรส์ปิดท้ายใหญ่ ซึ่งคาดเดาไม่ได้เลยว่าเรื่องจะไปทางไหนแน่ แต่ก็น่าติดตามมากถ้าบทยังคงดีแบบนี้อยู่ครับ

สรุป ภาคต่อซีรีส์สายลับที่สุดของความซับซ้อน ด้วยการเล่นกับลูปเวลาไม่พอยังใส่ย้อนเวลาเข้ามาในลูปอีก ทำให้เรื่องกลายเป็นเหมือน Groundhog Day + The Terminator ซึ่งความซับซ้อนนี้ถูกเขียนบทมาอธิบายได้อย่างเจ๋ง บทเชื่อมต่อเคลียร์ภาคแรกได้สนิทเลย แต่ก็มีปัญหาคือเรื่องวนเวียนกับการแก้ปัญหาลูปที่พันกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนไม่มีเวลาใส่ฉากแอ็กชั่นโลดโผนระหว่างทางแบบภาคแรกเลย มีแค่ตอนจบสุดท้ายซึ่งมันไม่พอ แต่ทั้งนี้บทก็เขียนมาดีจนพอมองข้ามได้ และก็เคลียร์เรื่องราวทั้งหมดจบเลย ก่อนไปขึ้นใหม่ในซีซั่น 3 กันอีกรอบครับ (อัพเดท SS3 ถูกแคนเซิล แต่ก็ยังสามารถดูได้เพราะ ss2 จบในตัวครับ)

รีวิว Black Doves พิราบเงา (Netflix) ซีรีส์สายลับที่ตัวละครมีเสน่ห์ซับซ้อนคมคายสุดๆ