รีวิว The Lincoln Lawyer ทนายลินคอล์น ซีรีส์ทนายเทพรถหรูที่มีเสน่ห์เอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร (ไม่มีสปอยล์)

The Lincoln Lawyer ซีรีส์ Netflix 10 ตอนจบ  ที่ทำจากนิยายชุดของนักเขียนชื่อดัง ไมเคิล คอนเนลลี ( มีแปลไทยของสำนักพิมพ์แพรว เล่มนี้ดัดแปลงจากเล่ม กระสุนพิพากษา) โดยก่อนหน้านี้เคยถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี 2011 เล่นโดย แมทธิว แม็คคอนาเฮย์ ซึ่งก็ได้รับคำวิจารณ์ดีมาก แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จทางรายได้ เรียกว่าเท่าทุนจนทางผู้สร้างไม่ได้ทำภาคต่อออกมา ซึ่งเน็ตฟลิกซ์ก็รับช่วงมาทำต่อโดยผู้สร้างชื่อดัง David E. Kelley ที่มีผลงานเจ๋งๆ อย่างซีรีส์ Big Little Lies ของ HBO แล้วก็พึ่งมีผลงานล่าสุด Anatomy of a Scandal ฉาวซ่อนเงื่อน ของเน็ตฟลิกซ์เอง ซึ่งก็เป็นซีรีส์ที่เน้นเรื่องราวการว่าความต่อสู้คดีล้วนๆ และก็ทำออกมาดีมากด้วย พอมาเรื่องนี้ตัวเอกเป็นทนายโดยตรงจึงเหมือนเป็นอะไรที่เข้ามือเขามาก

ตัวอย่าง The Lincoln Lawyer

ตัวเอกเรื่องนี้คือ ทนายจำเลย มิคกี้ ฮอลเลอร์ ที่มีฉายาเรียกขานกันว่า ทนายลินคอล์น มาจากนิสัยที่เขานิยมชมชอบสะสมรถลินคอล์นที่เป็นของฟอร์ด  รถที่โออ่าหรูหราแบบให้ประธานาธิบดีนั่ง แล้วก็มักทำงานในรถวิ่งรอกเรื่องคดีทั้งวัน ซึ่งก็กลายมาเป็นเอกลักษณ์ของเรื่องนี้ด้วย โดยแทบจะทั้งเรื่องตัวเอกของเรานอกจากอยู่ในศาลก็จะอยู่ที่รถนี่แหละ แล้วก็มีคนขับพาไปไหนมาไหน มีฉากอธิบายกระบวนการคิดพิจารณาคดีว่าความผ่านการเล่าเรื่องให้คนขับรถของเขาฟัง ซึ่งก็เป็นไอเดียการย่อยเรื่องยากๆ ในศาลให้ผู้ชมได้เข้าใจง่ายๆ ซึ่งเรื่องนี้แทบจะเป็นการปูพื้นเล่ากระบวนการทำงานต่อสู้คดีจากคนที่ไม่มีพื้นฐานความรู้ในศาลให้เข้าใจได้เลย แม้แต่คนที่เคยดูหนังแนวนี้มาแล้วเยอะๆ ก็อาจจะไม่ได้รู้ถึงรายละเอียดขั้นตอนบางอย่าง ยกตัวอย่างการคัดเลือกลูกขุนของอเมริกา ซึ่งไม่ใช่แค่การสุ่มมา แต่มีกระบวนการที่ทนายกับอัยการต้องแย่งชิงตัวลูกขุนที่โน้มเอียงมาฝ่ายตัวเองแต่แรก ซึ่งซีรีส์นี้จะบอกเล่ากระบวนการทุกอย่างผ่านการเล่าเรื่องของมิคกี้ให้คนขับรถฟัง และผู้ชมก็จะได้เข้าใจกระบวนการศาลในอเมริกาไปพร้อมๆ กัน ทำให้เรื่องนี้เป็นแนวว่าความในศาลที่ย่อยง่ายมากๆ

เรื่องในศาลย่อยง่ายก็จริง แต่คดีในเรื่องนี้ถือว่าซับซ้อนมากๆ โดยมีคดีหลักเปิดเรื่องมาคือพระเอกได้คดีต่อจากทนายคนรู้จักเก่าที่ถูกมือปืนยิงตายปริศนา แล้วก็รับคดีทั้งหมดต่อจากเขา ซึ่งคดีทั้งหมดจะถูกนำมาแตกย่อยในเรื่องมากมายๆ เป็นเหมือนคดีที่ช่วยพาเรื่องราวให้เราได้ค่อยๆ รู้จักนิสัยใจคอการทำงานของเขาไปในตัว เพราะเรื่องเปิดมาแบบไม่มีการปูตัวละครอะไรเลย เหมือนทำมาให้คนที่เคยดูหนังหรืออ่านนิยายมาได้เข้าใจ ซึ่งนี่เป็นจุดบอดใหญ่สุดของเรื่อง แต่ตัวซีรีส์ก็ได้พยายามใช้คดีย่อยๆ พวกนี้ค่อยๆ เล่าแบ็คกราวด์ต่างๆ ให้คนที่ไม่เคยดูมาก่อนได้เข้าใจพอสมควร เอาว่าไม่ถึงกับเป็นปัญหาในการรับชม แต่แค่อาจจะติดใจกับจุดเล็กจุดน้อยที่ไม่ได้ปูพื้นมาให้รู้ก่อนเท่านั้นครับ และในอีกทางหนึ่งเรื่องก็ใช้คดีย่อยที่แทรกมาให้ดูความเทพของพระเอกที่สู้คดีโดยใช้มุมมองใหม่ๆ มาสู้ โดยยังอิงกับหลักการกฎหมายตามปกติ ทำให้อีกฝ่ายจนมุมยอมรับความพ่ายแพ้โดยไม่ต้องถึงขั้นตอนการตัดสินคดีจริงด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นเสน่ห์จุดขายของตัวเอกของเรื่องนี้เลย

ตัวเรื่องจริงมีคดีหลัก 2 เรื่องคือ ไขปริศนาการตายของทนายที่โอนคดีให้เขา กับคดีดังที่เป็นหนุ่มเจ้าของบริษัทเกมที่ถูกตั้งข้อหายิงชู้กับเมียตายคาบ้านพักตากอากาศ ซึ่งทั้งสองคดีนี้จะผูกพันกันไปเรื่อยๆ แต่คดีหลังจะเป็นเมนหลักที่ให้เวลามากกว่า โดยคดีนี้เป็นคดีใหญ่ที่สังคมจับตา แล้วหลักฐานก็เอาผิดลูกความเขาเต็มๆ แบบยากที่จะแก้ได้ ซึ่งเรื่องจะค่อยๆ ให้เราได้เห็นว่าพระเอกต้องมารับช่วงต่ออย่างยากลำบากโดยมีเวลาแค่อาทิตย์กว่าก่อนคดีเริ่มขึ้น ซึ่งการที่เขาเป็นทนายมือสะอาดทำให้เขาต้องสืบสวนตัวลูกความของตัวเองเพื่อหาความจริงว่ากำลังว่าความให้ฆาตกรหรือไม่ และหลักฐานเด็ดที่ทนายคนก่อนทิ้งไว้ว่าจะทำให้พลิกชนะคดีนี้คืออะไร และสิ่งนี้หรือเปล่าที่ทำให้เขาถูกฆ่าตาย ซึ่งเรื่องจะเล่าคู่ขนานกันไปให้คนดูสงสัยว่ามันเกี่ยวพันกันได้อย่างไร โดยมีความซับซ้อนของเรื่องราวสูงมากแบบที่คนดูเดาตอนจบของเรื่องนี้ไม่ได้เลยแน่ๆ ในทั้งสองคดี และก็เฉลยออกมาแบบสมเหตุผล ทำเอาเหวอได้เลยเหมือนกัน

นอกจากการเล่นเรื่องของมิกกี้แล้ว ในเรื่องยังใส่ตัวละครสมทบย่อยๆ ไว้หลายตัวมาก โดยมีภรรยาเก่าของพระเอก 2 คน คนนึงค่อยช่วยทำงานในออฟฟิสปัจจุบัน อีกคนคืออัยการที่กำลังทำคดีใหญ่อีกคดีหนึ่ง แต่ไม่เกี่ยวกับคดีหลักของพระเอก แล้วก็มีนักสืบผู้ช่วยที่เป็นแก๊งฮาร์เล่ย์ มีคนขับรถให้พระเอกที่เป็นตัวละครใหม่ประจำเรื่อง เป็นสาวติดยา ซึ่งตัวเรื่องให้น้ำหนักบทบาทกับตัวละครเหล่านี้มากพอ เพื่อเป็นเส้นเรื่องรองเล็กๆ ส่งเสริมให้กระบวนการทำงานของพระเอกดูน่าเชื่อถือว่าเขาเก่งขนาดนี้ได้ยังไง และยังช่วยเล่าแบ็คกราวด์ชีวิตส่วนตัวของเขาที่มีปัญหาหย่าร้างมาถึง 2 ครั้ง แต่ภรรยาทั้งสองคนก็ยังคงรักและช่วยเหลือเขาอยู่ ซึ่งบทจะปูให้นางเอกหลักคือภรรยาคนแรก แม็กกี้ ที่เล่นโดย เนฟ แคมป์เบล นางเอกจากหนัง Scream ที่คงคุ้นหน้ากันดี แล้วก็มีปมเรื่องถ่านไฟเก่าเริ่มคุแทรกมานิดๆ ตลอดเรื่อง ซึ่งทุกตัวละครสมทบนี้ช่วยทำให้เนื้อเรื่องมีรายละเอียดลงลึกน่าติดตามว่าแต่ละคนจะไปต่ออย่างไร เป็นพัฒนาการที่ตัวเรื่องวางไว้ในซีซั่นต่อๆ ไปให้คนดูรู้สึกผูกพัน ซึ่งก็ถือว่าใช้ได้เลยเพราะตัวละครเหล่านี้ก็มีบทเด่นและไม่ถูกทิ้งหายไป แม้ว่าเรื่องจะโฟกัสที่พระเอกมากที่สุดก็ตามครับ

ซีรีส์จบแบบเคลียร์คดีในเรื่องได้หมด แต่ก็ทิ้งบางอย่างไว้ให้ไปต่อในซีซั่นต่อไป แต่ไม่มีต่อก็ไม่ค้างอะไร ถือว่าเป็นซีรีส์ที่น่าจับตาเลยว่าจะไปต่อได้แค่ไหน เพราะมีนิยายชุดดังรองรับไว้อยู่แล้ว เรียกว่าเน็ตฟลิกซ์ได้ของดีมาอยู่ในมือเพิ่มอีกเรื่องแล้วครับ

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่