รีวิว The Longest Night ซีรีส์แอ็กชั่นในพื้นที่จำกัดพร้อมกับจำกัดเวลาแค่คืนเดียว (ไม่สปอยล์)
The Longest Night
Summary
ซีรีส์แนวแอ็กชั่นดราม่าในพื้นที่ปิดที่เป็นเรือนจำ จำกัดเวลาเหตุการณ์ในคืนๆ เดียว โดยแบ่งตัวละครออกเป็นฝ่ายๆ ต่อสู้แย่งชิงอำนาจการนำกัน ตัวละครเทาๆ เน้นเอาตัวรอดไม่ใช่คนดีทุกคน โดยมีปมปริศนาว่าตัวร้ายหลักฆาตกรต่อเนื่องกุมความลับอะไรไว้ทำให้เกิดเหตุการณ์แย่งชิงตัวขึ้นมา ซึ่งเรื่องทำออกมาได้กลางๆ ในทุกๆ ด้าน ค่อนข้างไปทางดีนิดๆ แต่ก็ไม่ถึงกับดีมาก ดูพอเอาสนุกได้สั้นๆ 6 ตอนจบซีซั่น มีต่อซีซั่น 2 มีพากย์ไทยครบครับ
Overall
6.5/10User Review
( vote)Pros
- เรื่องราวที่เรือนจำปิดมีเวลาจำกัดในคืนเดียว
- ปมแย่งชิงตัวร้ายที่กุมความลับสำคัญของเหตุการณ์ทั้งหมด
- ตัวละครแบบเทาๆ ไม่ใช่คนดีทุกคน
- ฉากแอ็กชั่นมีมาเรื่อยๆ
- มีพากย์ไทย
Cons
- ไม่มีบทตัวเอกที่ดูแล้วรู้สึกอยากเอาใจช่วย
- เหตุการณ์ต่างๆ ยังทำได้ไม่น่าตื่นเต้นหรือลุ้นระทึกมาก
- เรื่องจบแบบไม่เคลียร์ให้เข้าใจปมเท่าไหร่ ไปต่อซีซั่น 2
- บทตัวเอกพัสดีไม่ค่อยเมคเซนส์
The Longest Night (คืนนี้ ยาวนาน) ซีรีส์ Netflix ขนาด 6 ตอนจบจากสเปน เรื่องราวของคืนคริสมาสต์ในเรือนจำพิเศษที่รวมผู้ป่วยจิตเวชไว้กับนักโทษ “ซีโมน” ฆาตกรต่อเนื่องสุดอำมหิตถูกส่งตัวมาฝากขังชั่วคราว แต่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของปฏิบัติการณ์โหดชิงตัวเขาออกมา
รีวิว The Longest Night
ตัวเรื่องมองดูเผินๆ เหมือนมีความพยายามทำในแนวเดียวกับ Money Heist โดยพล็อตเรื่องเป็นคุก+โรงพยาบาลที่ถูกผู้ก่อการร้ายไม่ทราบฝ่ายมาล้อมไว้ แล้วเรียกร้องให้ส่งตัวนักโทษที่เป็นฆาตกรต่อเนื่องดังที่พึ่งถูกจับได้ออกมา โดยมีโทรศัพท์ลึกลับออกมาขู่ว่าจับลูกสาวของพัสดีตัวเอกไว้เป็นตัวประกัน โดยต้องให้ตัวฆาตกรอยู่ในเรือนจำจนถึงเช้าให้ได้ ไม่งั้นลูกสาวตาย ทำให้สถานที่ในเรื่องเป็นที่ปิดตาย และมีเวลานับถอยหลังจนถึงเช้าทำให้เกิดสถานการณ์ยืดเยื้อในคุกตามชื่อเรื่อง คืนนี้ยาวนาน ตรงตัวเป๊ะๆ
ในเรื่องนี้มีตัวเอกคือพัสดีก็จริง แต่ว่าเขาก็ไม่ใช่ตัวละครที่เป็นพระเอกในเรื่อง เพราะตัวเรื่องทำมาในแนวเขาเป็นตัวละครสีเทาๆ ที่ยอมให้ฝ่ายผู้ก่อการร้ายฆ่านักโทษและคนบริสุทธิ์ไปง่ายๆ โดยอ้างว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎของเรือนจำ ไม่ต่อรองเจรจากับโจร ภายนอกดูเป็นคนเข้มตามกฎ แต่จริงๆ คือยอมเอาชีวิตคนอื่นมาตายแทนลูกตัวเอง ปกปิดความจริงว่าโดนข่มขู่ไว้ไม่บอกใคร แม้แต่ฝ่ายผู้ก่อการร้ายเองก็ยังรู้สึกผิดปกติที่พัสดีเลือกเส้นทางให้ตัวประกันโดนฆ่าแบบนี้ เป็นตัวละครที่ทำให้เรื่องนี้แอบดูประหลาดแตกต่างไปจากเรื่องอื่นๆ เพราะผู้ชมจะมีความรู้สึกว่าหมอนี่ไม่ใช่คนดีแน่ๆ และเรื่องผ่านไปก็ยิ่งทำให้เห็นว่านี่ไม่ใช่พระเอกแน่ๆ เพราะการตัดสินใจแต่ละอย่างไม่เมคเซนส์ในมุมคนดูมาก แม้จะรู้ว่าทำไปเพื่อช่วยลูกก็ตาม
ตัวเอกของเรื่องจริงๆ เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ชื่อว่าซีโมนมากกว่า เขาเป็นตัวละครที่พยายามถอดแบบแนวฮันนิบาลเล็คเตอร์ เน้นฆ่าผู้หญิง แต่แค่ไม่กินคนเท่านั้น การแสดงต่างๆ ทำให้รู้เลยว่านักแสดงพยายามไปถอดแบบฮันนิบาลมา ซึ่งก็ไม่ได้ถึงกับเล่นได้ดีอะไรมาก แต่ว่าบทของเรื่องนี้น่าสนใจตรงที่ว่าเขาเป็นตัวละครที่กุมความลับทั้งหมดของเรื่องไว้ ว่าเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นได้ยังไง ทำไมมีคนพยายามแย่งชิงตัวเขากันนัก และตัวซีโมนเองก็พยายามพูดปั่นประสาทคนในคุกอื่นๆ ที่กำลังเครียดแตกแยกกันว่าจะทำตามข้อเรียกร้องดีหรือว่าจะต้องป้องกันคุกนี้คุ้มครองเขาให้ได้ ทั้งๆ ที่ก็รู้เขาเป็นคนเลวแค่ไหน ซึ่งเรื่องพยายามบอกมาเป็นระยะนิดๆ ว่าซีโมนกุมความลับอะไรอยู่ มีใครอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ ทำให้เรื่องดูน่าติดตามเพราะตัวละครนี้มากที่สุด แต่ว่าท้ายที่สุดแล้วเรื่องทำมาแค่ 6 ตอนก็ไม่จบ ยังแทบไม่เฉลยอะไรให้เราเข้าใจได้เลย
ตัวเรื่องยังแบ่งกลุ่มตัวละครเป็นอีก 2 ฝ่ายคือ ฝ่ายนักโทษที่แหกคุกมาตอนนี้เพื่อหวังใช้สถารณ์นี้ให้มีทางรอดออกไป แต่ก็กลายมาเป็นต้องร่วมมือกับผู้คุมเพื่อต่อต้านผู้ก่อการร้ายที่บุกเข้ามา โดยฝ่ายนี้มีตัวเอกคือนักโทษขาพิการสองข้างที่โหดเป็นขาใหญ่ที่นี่ แต่ก็มีความคิดการตัดสินใจฉลาด (ฉลาดที่สุดในเรื่องแล้วด้วยซ้ำ) อีกทั้งยังมีหลัการของอาชญากรดีๆ อยู่อย่างไม่ทำร้ายผู้หญิง โหดกับคนที่ทำไม่ดีกับพวกเขาเท่านั้น เรียกว่าเป็นฝ่ายที่มีมิติตัวละครเทาๆ แบบมนุษย์สมเหตุผลที่สุดในเรื่อง ทำให้เรื่องราวฝ่ายนักโทษดูสนุกที่สุดตามไปด้วย
อีกกลุ่มหนึ่งคือฝ่ายผู้ป่วยจิตเวชในโรงพยาบาลที่เชื่อมต่อกับเรือนจำ บทพยายามจะทำให้ฝ่ายนี้เป็นตัวละครที่เอาแน่นอนไม่ได้กับสถานการณ์ต่างๆ บทจะดีจะร้ายยังไงก็ได้ และก็เอาความป่วยของตัวละครมาสร้างดราม่าตัวละครในกลุ่มเพิ่มเติม อย่างคนที่ชอบเล่นกับไฟวางเพลิงก็กลายเป็นคนวางแผนช่วยผู้คุมจัดการพวกที่บุกเข้ามา หญิงที่ป่วยเป็นโรคหลายบุคลิกก็มีปมว่าถูกหมอในนั้นลวนลามทำอนาจาร แล้วไม่มีใครเชื่อเพราะเธอเป็นโรคหลายบุคลิก สาวผู้ชำนาญไอทีแต่เป็นโรคจิตเวชจนฆ่าพ่อแม่ตัวเอง ซึ่งบทได้ใช้ความป่วยของพวกนี้มาสร้างเรื่องราวประกอบเหตุการณ์บุกคุกครั้งนี้ให้มีเรื่องวุ่นๆ เล่าแทรกฉากแอ็กชั่นดราม่าของเรื่องไปได้เรื่อยๆ
ในส่วนของฉากแอ็กชั่นถือได้ว่ามีค่อนข้างเยอะเกือบตลอดเรื่อง แต่ก็ไม่มีฉากแอ็กชั่นใหญ่อะไรให้เห็น ส่วนใหญ่เป็นการยิงปะทะ หรือขับรถไล่ชนในที่แคบๆ รวมๆ ทำออกมากลางๆ พอให้ได้ลุ้นเป็นระยะๆ
ตัวเรื่องพยายามเล่นกับเวลาในคืนๆ เดียวก็จริง แต่ก็ไม่ได้กระชับ ยังดูแอบยืดๆ เพื่อให้เวลายาวนานไม่ตรงจริงเท่าไหร่ แล้วก็จบที่ตอนก่อนเช้ามืด โดยค้างเรื่องไว้ทำต่อในซีซั่น 2 และยังติดอยู่ในเรือนจำต่อไปอีก
สรุปเรื่องทำออกมาได้กลางๆ ค่อนข้างไปทางดีนิดๆ แต่ก็ไม่ถึงกับดีมาก ดูพอเอาสนุกได้สั้นๆ 6 ตอนจบมีพากย์ไทยครบครับ