playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิวซีรีส์ The Nurse ฆาตกรต่อเนื่องที่เป็นพยาบาลโรคจิตหิวแสง ต่างไปจากหนัง The Good Nurse

The Nurse

Summary

โดยรวมก็เป็นซีรีส์ที่ทำเรื่องราวจากคดีสะเทือนขวัญออกมาได้ดี แต่เสียเวลากับการปูพื้นเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ ชีวิตการทำงานของตัวละครมากไปในช่วงแรก มาสนุกเอาช่วงครึ่งหลัง แต่ถ้าเทียบกัน  The Good Nure ทำได้ดีกว่า แต่ทั้งสองเรื่องนี้ก็เป็นคนละคดีกัน มีความต่างกันในรายละเอียดของการฆ่าและแรงจูงใจ แม้โดยรวมจะมีความคล้ายกันมาก ซึ่งถ้าใครชอบแนวฆาตกรต่อเนื่องก็น่าจะลองรับชมดูทั้งคู่ครับ 

Overall
6.5/10
6.5/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • สร้างจากเรื่องจริง
  • ฆาตกรเป็นโรคจิตชอบเรียกร้องความสนใจ
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • เสียเวลาปูเรื่องราวมากในช่วง 2 ตอนแรก
  • ตอนจบเรียบๆ ไม่มีการขุดคุ้ยคดีที่เกิดขึ้นย้อนหลัง

ADBRO

The Nurse พยาบาลมัจจุราช ซีรีส์ Original Netflix 4 ตอนจบสร้างจากเรื่องจริงของคดีฆาตกรรมต่อเนื่องสูงสุดในประเทศเดนมาร์ก เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในช่วงเช้าต้นเดือนมีนาคมปี 2015 ตำรวจเดนมาร์กได้รับโทรศัพท์จากพยาบาลที่โรงพยาบาล Nykøbing Falster โดยเธอสงสัยว่าเพื่อนร่วมงานของเธอได้ฆ่าผู้ป่วย 3 ราย โดยมีแนวโน้วว่าได้ลงมือฆาตกรรมต่อเนื่องมาก่อนแล้วหลายราย…
The Nurse (2023) on IMDb

The Nurse รีวิว

ซีรีส์เรื่องนี้ทำมาจากเรื่องจริงเหมือนหนัง The Good Nurse (2022)  ของ Netflix ที่เกิดขึ้นในอเมริกา ซึ่งหลายคนอาจจะสับสนคิดว่าทางเดนมาร์คสร้างมาจากคดีเดียวกัน เพราะโครงเรื่องเหมือนกันมาก แต่เป็นคนละคดีกัน โดยเกิดขึ้นที่เดนมาร์ค ฆาตกรเป็นหญิงพยาบาล Christina Aistrup Hansen ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าฆ่าผู้ป่วย 3 คนและพยายามฆ่าชีวิตผู้ป่วยอีกหลายคนในโรงพยาบาล Nykøbing Falster Hospital โดยใช้ยามอร์ฟีนและยาดิอาซีแพมในปริมาณมากแก่ผู้ป่วยจนทำให้เสียชีวิต 

Christina Aistrup Hansen real
Christina Aistrup Hansen

ความต่างในรายละเอียดของ 2 คดีนี้คือ The Good Nurese ฆาตกรฉีดอินซูลินเข้าไปในน้ำเกลือจนทำให้ตายแบบปริศนา โดยอ้างว่าต้องการการุณฆาตผู้ป่วยที่ทรมาน แต่คดีในเรื่องนี้คือการใช้ยามอร์ฟีนและยาดิอาซีแพมในปริมาณมาก เพื่อให้เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น แล้วตัวฆาตกรก็ลงมือปั๊มหัวใจช่วยเหลือเหยื่อ โดยมีแรงจูงใจจากอาการของโรคฮิสทริโอนิก ต้องการเรียกร้องความสนใจ ต้องการเป็นดาวเด่นในโรงพยาบาล รวมถึงเชื่อว่าเธอมีพฤติกรรมสำเร็จความใคร่ในตอนปั๊มหัวใจช่วยเหยื่อด้วย ทำให้เรื่องนี้นำเสนอแนวดราม่าชีวิตมากกว่า โดยเริ่มต้นจากตัวละคร เพอร์นีลเล เพื่อนของคริสติน่าที่เป็นฆาตกรเข้ามารับงานในฐานะพยาบาลหน้าใหม่ แล้วก็เริ่มเรียนรู้ชีวิตพยาบาลกับคริสติน่า ทั้งคู่กลายเป็นคู่หูดาวเด่นที่ช่วยชีวิตคนไข้จากหัวใจหยุดเต้นบ่อยครั้ง แต่ก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำเธอสงสัยว่าเพื่อนของเธอจงใจวางยาทำให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้น 

ตัวเรื่องพยายามชี้ให้เห็นปัญหาของคดีนี้ที่ทุกคนตั้งคำถามว่า ทำไมถึงไม่มีใครสงสัยการตายปริศนาหลายครั้งก่อนหน้านี้? ซึ่งก็มีความคล้ายเรื่อง The Good Nure ในบางมุมนั่นคือ หมอและพยาบาลมักไม่กล้าสงสัยหรือตั้งคำถามต่อความผิดปกติของเพื่อนร่วมงาน มีความพยายามปกป้องพวกพ้องในวิชาชีพเดียวกัน หลายอย่างที่เห็นผิดสังเกตุก็ถูกปัดตกจากการสืบสวน แม้จะมีคดีการตายปริศนามาก่อนหลายครั้ง แต่ตำรวจก็ได้รับข้อมูลเพียงแค่ว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แสดงให้เห็นถึงความหละหลวมของระบบตรวจสอบในวงการแพทย์ ซึ่งก็คล้ายกับเรื่องราวคดีฆาตกรต่อเนื่องแอมไซยาไนด์ของไทยตอนนี้ ในจุดที่เป็นปัญหานี้เองตัวเรื่องจึงนำเสนอความยากลำบากในการหาหลักฐานเอาผิด ซึ่งตัวเอกเพอร์นีลเล นั้นต้องเสี่ยงต่อการตกงาน ถูกสังคมเพื่อนพยาบาลด้วยกันรังเกียจ แม้หลังคดีถูกเปิดเผยออกมาและตัดสินแล้ว เธอก็ยังตกอยู่ในสภาพแบบนั้นต่อไป

ด้วยความที่เรื่องนี้เป็นซีรีส์ความยาวทั้งหมด 4 ตอน 3 ชั่วโมงกว่า จึงมีการเล่าเรื่องที่ลงรายละเอียดชีวิตของตัวละครมาก ไม่กระชับเท่าหนัง The Good Nures ที่มีความยาว 2 ชั่วโมง การดำเนินเรื่องช่วงตอนที่ 1-2 จึงค่อนข้างอืดมากแบบดูชีวิตพยาบาลปกติไปเรื่อยๆ มีส่วนผสมของฉากระทึกไม่มาก จนถึงตอน 3 ช่วงที่ตัวเอกเพอร์นีลเล ตัดสินใจตามสืบสวนเรื่องนี้ด้วยตัวเองถึงจะมีความตื่นเต้นน่าสนใจมากขึ้น และด้วยความที่เป็นเรื่องราวมุมมองจากเธอ จึงทำให้เรื่องนี้ไม่ได้มีรายละเอียดลึกๆ ของฆาตกรมากเท่า The Good Nures ตอนจบของเรื่องก็จบแบบเรียบๆ ผลของคดีที่ตัดสินก็มาจากคืนสุดท้ายของเหตุการณ์เท่านั้น ไม่มีการขุดคุ้ยกลับไปยังเหยื่อในอดีตมากมาย ซึ่งถ้ารวมๆ แล้วเหยื่อของคริสติน่าก็เยอะมากหลายสิบคนจากการเป็นพยาบาลในช่วง 3 ปีของเธอที่นี่

 

โดยรวมก็เป็นซีรีส์ที่ทำเรื่องราวจากคดีสะเทือนขวัญออกมาได้ดี แต่เสียเวลากับการปูพื้นเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ ชีวิตการทำงานของตัวละครมากไปในช่วงแรก มาสนุกเอาช่วงครึ่งหลัง แต่ถ้าเทียบกัน  The Good Nure ทำได้ดีกว่า แต่ทั้งสองเรื่องนี้ก็เป็นคนละคดีกัน มีความต่างกันในรายละเอียดของการฆ่าและแรงจูงใจ แม้โดยรวมจะมีความคล้ายกันมาก ซึ่งถ้าใครชอบแนวฆาตกรต่อเนื่องก็น่าจะลองรับชมดูทั้งคู่ครับ 

 

Including other English reviews

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!