รีวิว The Snow Girl ซีรีส์สืบสวนที่ตัวเอกเป็นนักข่าวป่วยจิตเวชไขคดีปริศนา (ไม่มีสปอยล์)
The Snow Girl
Summary
ซีรีส์สืบสวนจากนิยายชุดชื่อดังของสเปน เดินเรื่องด้วยตัวเอกนักศึกษาวารศาสตร์ที่หมกหมุ่นกับคดีเด็กหายปิดไม่ลงยาวนานกว่า 10 ปี โดยตัวละครนี้ยังมีอาการทางจิต PTSD หวาดระแวงจากการตกเป็นเหยื่อโดนรุมข่มขืนมาก่อน และก็เป็นคดีที่ปิดไม่เช่นกัน ซีรีส์อาจจะเนือยๆ งงๆ มากในช่วงตอน 1-2 กับวิธีการเล่าเรื่อง 3 ช่วงเวลาสลับไปตลอด 10 ปีที่เด็กหาย แต่พอเริ่มจุดติด ตัวเรื่องมีความน่าติดตามแบบชวนลุ้นระทึกหลายอย่างว่าใครคือคนร้าย และลงมือเอาเด็กไปทำไม พร้อมปมรองของเรื่องที่ว่าใครคือแก๊งข่มขืนเธอก็จะถูกสานต่อเนื่องด้วย แต่ทั้งนี้ตัวเรื่องก็อาจจะไม่ถึงกับเนี๊ยบสมบูรณ์แบบสมเหตุผลนัก ยังมีจุดที่ดูแล้วก็รู้สึกค้านๆ อยู่บ้าง แต่ถ้าดูจนจบก็น่าจะชอบตัวละครนี้และอยากดูคดีต่อไปของเธอแน่นอนครับ
Overall
7/10User Review
( votes)Pros
- สร้างจากนิยายชุดชื่อดังของสเปน
- ตัวเอกมีความผิดปกติทางจิต
- เรื่องราวซับซ้อน มีหลายอย่างเกินคาด
- เรื่องสั้น 6 ตอนจบ
Cons
- เล่าเรื่องสลับ 3 ช่วงเวลาไปมาทั้งเรี่องจนทำให้งงๆ ได้
- ช่วงครึ่งแรกของเรื่องค่อนข้างเนือยๆ
- มีจุดไม่สมเหตุผลอยู่บ้าง
รีวิว The Snow Girl (ไม่มีสปอยล์)
The Snow Girl เป็นซีรีส์แนวสืบสวนระทึกขวัญภาษาสเปนที่สร้างจากนวนิยายชุดของ Javier Castillo โดยมีการดัดแปลงเรื่องจากนิยายต้นฉบับจริงๆ ที่เป็นสเปน แต่เซ็ตเรื่องราวไว้ในอเมริกา ให้กลับมาเป็นสเปนทั้งหมดอีกครั้ง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเล่มแรกที่สร้างชื่อเสียงให้ผู้แต่งจนขายดีเป็นล้านเล่ม และก็เป็นจุดเริ่มต้นของตัวละคร มิเรน โรโฮ (ในนิยายเดิมชื่อ มิเรน ทริกก์ Miren Triggs) นักศึกษาวารสารศาสตร์ที่เกาะติดคดีเด็กหายตัวไปที่ปิดไม่ลงมายาวนานจนกลายเป็นนักข่าวสืบสวนชื่อดังที่สามารถไขคดีนี้ได้ในที่สุด และก็ทำให้ตัวละครนี้ต้องเจอกับเรื่องราวอาชญากรรมปริศนาตามมาหลังจากนั้นอีก ทำให้เรื่องนี้เป็นซีรีส์ขนาดสั้น 6 ตอนที่ถ้าไม่ผิดพลาดอะไร Netflix คงสร้างตามมาต่อเนื่องเรื่อยๆ แบบนิยายของฮาลานโคเบนเช่นกัน
จุดเด่นของเรื่องนี้ที่แตกต่างจากแนวสืบสวนอาชญากรรมเรื่องอื่นๆ คือตัวเอกมิเรนเป็นแค่นักศึกษาที่มีความหมกหมุ่นกับคดีเด็กหายเคสนี้ เพราะตัวเองเคยตกเป็นเหยื่อโดนรุมโทรมข่มขืน ซึ่งเป็นคดีที่ปิดไม่ลงและเธอไม่รู้เลยว่าใครเป็นผู้ข่มขืนเธอ จึงกลายเป็นตัวละครที่มีอาการทางจิต PTSD หวาดระแวงหรือไม่ไว้ใจใคร เป็นตัวเอกที่ออกแนวจิตไม่ปกติ หน้าตาโทรมๆ และอาการพวกนี้ก็แสดงให้เห็นอยู่ตลอดเรื่องด้วย นอกจากนี้ตัวเรื่องยังใช้ความไม่ปกติทางจิตของเธอเข้ามาเป็นปมสำคัญเดินเรื่องซ้อนทับกับคดีเด็กหายที่เป็นเมนหลักของเรื่องด้วย ซึ่งเมื่อทุกอย่างคลายปมลง ผู้ชมจะได้รับรู้ว่าตัวละคร มิเรน โรโฮ มีความแปลกแตกต่างจากเรื่องอื่นมาก แล้วก็น่าติดตามคดีต่อไปของเธอมากจริงๆ ซึ่งนี่คือสิ่งที่เรื่องนี้ทำได้สำเร็จในตอนท้าย และถ้าได้ทำต่อไปก็น่าจะเป็นซีรีส์ชุดที่ดีมากเรื่องหนึ่งของเน็ตฟลิกซ์
ตัวเรื่องยังมีการเล่าเรื่องที่แปลกด้วยการตัดสลับช่วงเวลาของมิเรน โรโฮ ตอนที่เป็นนักศึกษาฝึกงานกับตอนที่เป็นนักข่าวเต็มตัวแล้วอีก 6 กับ 9 ปีต่อมา ตัวเรื่องจะสลับเล่ากลับไปกลับมาหลายครั้ง รวมถึงพาร์ทของตำรวจที่พยายามสืบสวนคดีนี้อย่างเต็มที่คู่กันไปด้วย ซึ่งตัวเรื่องจะตัดสลับไปมาว่าทั้งมิเรนกับตำรวจทำงานสืบสวนต่างกัน ให้ผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกัน และบางครั้งก็ร่วมมือกัน เหมือนเป็นคู่แข่งกัน โดยตัวมิเรนเองเป็นแค่นักข่าวท้องถิ่นเล็กๆ แต่เธอกระหายชื่อเสียงจนยอมทำทุกอย่างให้ได้มาซึ่งข่าว ซึ่งการตัดสลับนี้ค่อนข้างชวนงงมากในตอนแรกๆ แต่ทุกครั้งก็จะมีตัวเลขปีระบุว่านี่คือช่วงเวลาหลังจากเด็กหายกี่ปี ซึ่งเหตุการณ์ในเรื่องกินเวลายาวนานถึง 10 ปี ซึ่งตัวเรื่องก็นำระยะเวลานี้มาใช้ขยายเรื่องราวให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เพื่อแจ้งเกิดตัวละครมิเรน โรโฮ ในตอนจบของเรื่องนั่นเอง
ซีรีส์อาจจะเนือยๆ งงๆ มากในช่วงตอน 1-2 แต่พอเริ่มจุดติด ตัวเรื่องมีความน่าติดตามแบบชวนลุ้นระทึกหลายอย่างว่าใครคือคนร้าย และลงมือเอาเด็กไปทำไม การผูกเรื่องหลายปมเข้ามาหากัน พร้อมดราม่าสะเทือนใจ และยังมีปมรองของเรื่องที่ว่าใครคือแก๊งข่มขืนเธอก็จะถูกสานต่อเนื่องไปด้วย แต่ทั้งนี้ตัวเรื่องก็อาจจะไม่ถึงกับเนี๊ยบสมบูรณ์แบบสมเหตุผลนัก ยังมีจุดที่ดูแล้วก็รู้สึกค้านๆ อยู่บ้าง แต่นี่คือซีรีส์สืบสวนที่แนะนำเลยว่าใครที่ชอบแนวนี้ควรลองดู อาจจะไม่ถูกใจทั้งหมด แต่ก็เป็นซีรีส์ที่ดีและมีความแปลกแตกต่างเรื่องนึงเลยครับ