รีวิว The Speed Cubers รูบิค เกมพลิกคน หนังสารคดีชั้นเยี่ยม ที่เปี่ยมล้นด้วยมิตรภาพ
The Speed Cuber
สรุป
สารคดีที่เยี่ยมทั้งเรื่องราวและการถ่ายทอดความรู้สึกมากมายหลายอย่างออกมาในเกมรูบิค ที่มีอะไรลึกซึ้งมากกว่าที่เห็นเป็นแค่ของเล่น แนะนำห้ามพลาด สั้นๆ 40 นาทีดูจบอาจจะมีปาดน้ำตาได้เลยครับ
Overall
9/10User Review
( vote)Pros
- มิตรภาพของทั้งคู่ที่เป็นอะไรมากกว่าคู่แข่งขัน
- เล่าเรื่องสนุก สั้นกระชับ สนุกเหมือนหนังมากกว่าสารคดีซะด้วยซ้ำ
- เบื้องลึกพัฒนาการเด็กออทิสติกส์ที่มีรายละเอียดลึกซึ้ง
- เรื่องราววงการแข่งรูบิคที่น่าทึ่ง
Cons
- สั้นมาก อยากได้ยาวกว่านี้
The Speed Cubers รูบิค เกมพลิกคน หนังสารคดีสั้นความยาว 40 นาทีที่เจาะลึกถึงการแข่งขันรูบิคชิงแชมป์โลก ผ่าน 2 คู่แข่งระดับโลก ที่คนหนึ่งเป็นแชมป์โลก 2 สมัย กับหนุ่มออทิสติกส์ที่ก้าวขึ้นมาท้าชิงกับเขา จนเกิดเป็นมิตรภาพลึกซึ้งมากกว่าการเป็นคู่แข่งขันกัน
ตัวอย่าง The Speed Cubers รูบิค เกมพลิกคน
สารคดีชั้นเยี่ยมที่สั้นๆ แต่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่สนุก ชวนลุ้น น่าทึ่งไปกับของเล่นชิ้นเล็กๆ ที่ใครก็คงเคยได้ทดลองเล่นจนปวดหัวตึ๊บๆ แต่ในสารคดีนี้จะเป็นอะไรที่สบายๆ กว่านั้นมาก ด้วยเรื่องราวของการแข่งขันชิงแชมป์โลกของทุกประเทศในโลกมาเจอกัน (คัดแชมป์มาจากแต่ละประเทศ) ซึ่งเรื่องราวจะโฟกัสที่คน 2 คน คนหนึ่งคือ Feliks Zemdegs หนุ่มออสเตรเลีย เจ้าของแชมป์โลก 2 สมัย และกำลังจะชิงแชมป์สมัยที่ 3 จากงานแข่งในปี 2019 ที่เกิดขึ้นในสารคดีนี้ อีกคนคือ Max Park หนุ่มอเมริกันวัย 19 ที่เป็นออทิสติกส์ และเป็นเจ้าของแชมป์รูบิค 5 ประเภท ยกเว้นประเภทเดียวที่ไม่ได้เป็นคือแบบ 3×3 มาตรฐานที่ Feliks Zemdegs ครองตำแหน่งนี้อยู่รวมถึงสถิติโลกด้วย
สารคดีเริ่มต้นด้วยการแนะนำจุดเริ่มต้นของความหลงไหลในรูบิคของทั้งคู่ตั้งแต่เด็ก ซึ่ง Feliks นั้นเรียกว่าเสพติด และฉายแววเก่งมาตั้งแต่แรก จนพ่อแม่แทบไม่อยากเชื่อว่าลูกตนเองกลายเป็นคนดังออกสื่อ Feliks มีอายุมากกว่า Max 5 ปี เขาจึงเป็นรุ่นพี่และแรงบันดาลใจให้ Max ตั้งแต่ตอนเด็ก ซึ่งพ่อแม่ของ Max เองกำลังปวดใจกับการที่ลูกชายถูกวินิจฉัยว่าเป็นออทิสติกส์ ซึ่งอาหารของเขาคือ โลกปิด ไม่ตอบสนองใคร พัฒนาการตามวัยช้า ตอนอายุ 19 ในสารคดีเขาเทียบเท่าเด็กอายุ 8-9 ขวบ แม้แต่หยิบจับของด้วยมือก็ไม่ได้ พ่อแม่จึงพยายามหาทางกระตุ้นให้ลูกใช้มือเพื่อเป็นพัฒนาการไปสู่อย่างอื่น ซึ่งก็มาลงเอยที่รูบิค โดยแม่เปิดยูทูบและสอนการเล่นกับหลักการให้ แต่กลายเป็นว่า Max กลับติดหนึบหลงไหลมากกว่าแค่ของเล่นเพื่อพัฒนาการมืออย่างที่แม่ตั้งใจ และนำไปสู่การได้รู้จักกับ Feliks ในฐานะไอดอลผ่านอินเตอร์เน็ต และกลายเป็นจุดเริ่มเข้าสู่การแข่งขันของ Max ที่มอง Feliks เป็นต้นแบบให้เขา และ Feliks เองก็กลายมาเป็นมากกว่าคู่แข่งขัน หรือรุ่นพี่ของ Max ด้วยความที่อวุโสกว่า และนิสัยดีมากมาย จึงทำให้เขาเหมือนเป็นคนสอนพัฒนาการทางอารมณ์ให้ Max ไปในตัว
ตัวเรื่องราวเต็มไปด้วยความรู้สึกเปี่ยมล้นด้วยความฝัน มิตรภาพ อยู่ตลอดเวลา ถ้าดูจากโครงเรื่องอาจจะคิดว่าเป็นการเอาคนเป็นออทิสติกส์มาขาย แต่ตัวเรื่องจริงๆ คือทั้งคู่มอบความรู้สึกดีๆ ให้กัน คนหนึ่งเป็นแชมป์ที่พยายามทำฝัน 3 สมัยให้สำเร็จ ในขณะที่อายุเริ่มเข้าวัยทำงาน เป็นช่วงขาลงของนักแข่งรูบิคที่ต้องแบ่งเวลาไปทำอย่างอื่นมากกว่าตอนเด็ก ทำให้ตัว Feliks เองมีเรื่องราวที่เหมือนจะน่าเห็นใจกว่า Max ที่ยังคงเป็นเด็กในร่างหนุ่มวัย 19 และพ่อแม่ก็ยังสนับสนุนให้เล่นรูบิคไปได้เรื่อยๆ เพราะการที่คนเป็นออทิสติกส์ได้มาเรียนรู้การเข้าสังคม การแข่งขัน การพบเจอเพื่อนใหม่ๆ การแข่งขันที่แม้ตัวเขาเองจะเก่งมาก แต่ก็ไม่ได้เก่งที่สุด อย่าง Feliks ก็ยังเก่งกว่าในแบบ 3×3 ที่คนนิยมมากที่สุด ทำให้ Max เองได้มีโอกาสเรียนรู้ความรู้สึกพ่ายแพ้ ซึ่งเป็นสิ่งที่พ่อแม่กังวลว่าลูกจะรับความเจ็บปวดได้ไหม เมื่อเขาตั้งใจทำอะไรมากขนาดนี้แต่กลับไม่สำเร็จ จะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งจุดดีของเรื่องนี้คือการที่ Feliks เป็นทั้งแรงบันดาลใจ คู่แข่ง คนสอนอะไรหลายอย่างให้กับ Max โดยที่เขาเองก็คงไม่รู้ตัว แม้แต่การพ่ายแพ้ที่ Feliks ก็มีแพ้มาก่อน และคนที่ชนะเขาในสถิติโลกก็คือ Max ที่ผลัดกันทำเวลาเร็วขึ้นเรื่อยๆ มานับ 10 ปี มีแค่ 2 คนนี้ที่ล้มกันเองตลอด ตัวเรื่องจึงมีแต่ความรู้สึกดีๆ จากมิตรภาพทั้งในและนอกการแข่งขัน รวมถึงครอบครัวของ Max ก็นับถือ Feliks มากที่สอนอะไรให้กับ Max ได้มากกว่าพวกเขาซะอีก
นอกจากเรื่องมิตรภาพของทั้งคู่แล้ว ตัวเรื่องยังทำให้ผู้ชมได้ลุ้นไปกับการแข่งขันความเร็วในการหมุนแก้ปัญหารูบิคแต่ละประเภท ซึ่งมีกระทั่งการแข่งหมุนมือเดียว สารคดีจะบอกวิธีการเล่นรูบิคแบบโปรให้คร่าวๆ ว่าเป็นการจดจำรูปแบบ 300 กว่าแบบ แล้วหมุนตามรูปแบบที่จดจำให้ถูกถึงจะทำเวลาได้เร็วจริงๆ (คือมองให้ออกแต่แรกแล้วหมุนตามสูตรที่มี 300 กว่าแบบ) ซึ่งเรียกว่าน่าทึ่งมากๆ ขนาดที่รู้สึกว่าทำเป็นหนังจริงๆ ยังได้เลย เพราะตัวเรื่องช่วงท้ายเป็นการแข่งขันที่ลุ้นมากๆ ว่าใครจะเป็นแชมป์ แม้เราจะรู้ว่าสองคนนี้เป็นตัวเต็งมาตลอด แต่อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ ซึ่งตัวเรื่องจริงจบได้ประทับใจมาก และยังคงมีอะไรลึกๆ ให้เราได้รู้สึกว่า รูบิค ไม่ใช่แค่ของเล่น แต่เป็นเกมพลิกชีวิตคนได้จริงๆ ครับ
ถ้าดูจบแล้วอยากดูต่อ ติดตามดูการเล่นของ Feliks ผ่านช่องยูทูบได้ที่นี่ ส่วน Max Park ดูผ่านยูทูบคลิกที่นี่ครับ