รีวิวซีรีส์ The Trauma Code (Netflix) หมอแผนกอุบัติเหตุฉุกเฉินที่เนื้อเรื่องเดิมๆ มากไปหน่อย

The Trauma Code ชั่วโมงโกงความตาย ซีรีส์เกาหลี Original Netflix 8 ตอนจบ แนวดราม่าติดตลก เรื่องราวของหมอหนุ่มที่มาปฏิวัติฟื้นฟูทีมอุบัติเหตุฉุกเฉินด้วยความสามารถขั้นเทพ แต่ก็ต้องต่อสู้กับการเมืองในโรงพยาบาลให้ได้เสียก่อน

รีวิว The Trauma Code

ซีรีส์จากเว็บตูนที่เล่าเรื่องราวหมอแพคคังฮยอก (รับบทโดย จูจีฮุน) หมอฝีมือฉกาจที่ผ่านงานภาคสงครามในแอฟริกาใต้มาก่อน เขากลับมาเกาหลีใต้ตามคำเชิญของรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการเพื่อมารับงานกอบกู้ชื่อเสียงของทีมอุบัติเหตุฉุกเฉินที่กำลังตกต่ำ โดยมีผู้ช่วยและพยาบาลที่เขาต้องทำการฝึกฝนขึ้นมาใหม่ และยังต้องเจอกับการเมืองภายในโรงพยาบาลที่กำลังหาทางขับไล่เขาออกไป

ซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้บทแทบจะไม่มีความแปลกใหม่จากแนวหมอเรื่องอื่นๆ เลย เหมือนเป็นซีรีส์ ER ของอเมริกาเวอร์ชั่นเบาๆ โดยเรื่องเล่าเป็นเคสฉุกเฉินแต่ละแบบเป็นตอนๆ ต่อเนื่องกัน ไม่ได้ตัดจบในตอนซะทีเดียว ซึ่งเรื่องราวก็เป็นแนวหมอแพคโชว์สกิลความสามารถขั้นเทพ อย่างการเปิดสมองบนฮอ บนรถพยาบาล ซึ่งโดยปกติไม่มีใครทำกัน หรือการขับฮอได้ เพราะอดีตเคยผ่านเป็นหมอในสงครามมาก่อน หรือการโชว์ความเร็วในการผ่าตัดที่เหนือกว่าหมอคนอื่น ซึ่งทุกตอนคือการโชว์เคสที่แตกต่างต่างจากอุบัติต่างๆ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นรถชนก่อน แล้วค่อยมาแยกย่อยว่าคนไข้โดนอะไรมา ซึ่งเหตุการณ์ในเรื่องทุกตอนแทบไม่ต่างกันคือหมอทำสำเร็จทั้งหมด โดยตัวหมอแพคมีบุคลิกเป็นคนโผงผางพุดตรงๆ ขวานผ่าซาก แต่ก็จริงใจกับสิ่งที่พูดออกไป ซึ่งเขาเห็นปัญหาหลายอย่าางในโรงพยาบาลนี้แล้วพยายามของบเพิ่มอย่าง ลานจอดฮอบนตึก ซึ่งตัวซีรีส์เน้นว่าฮอช่วยชีวิตสำคัญมาก แล้วก็นำมาเป็นประเด็นการงัดข้อกับ ผอ.รพ. ซึ่งทีมงาน ผอ. ก็จ้องเล่นหมอแพ็คอยู่แล้ว แต่ประเด็นการเมืองเหล่านี้ก็ยังนำเสนอเบาๆ ไม่ได้ซีรีส์จริงจัง เพราะตัวเรื่องนอกจากฉากในห้องผ่าตัดที่เคร่งเครียดหน่อย แต่ส่วนอื่นๆ นี่คือซีรีส์เน้นยิงมุกตลกมากกว่าจะเป็นแนวหมอจริงๆ ซึ่งมันก็ดูสนุกไม่น้อยเมื่อโทนมันออกมาชิลๆ แบบนี้

นอกจากตัวหมอแพคแล้วก็มีตัวละครอื่นๆ มาร่วมกันในแต่ละเคส โดยหลักๆ คือ หมอยางแจวอน (เล่นโดย ชูยองอู) หมอเรียนทางด้านทวารหนัก ซึ่งหมอแพคเรียกเขาว่าเจ้าตูด โดยให้มาเป็นหมอผู้ช่วย ซึ่งเขาก็เหมือนต้องมาเรียนภาคปฏิบัติใหม่หมดหลังตกลงมาร่วมทีมกับหมอแพค ซึ่งเขาก็เป็นตัวละครออกแนวซื่อๆ ทื่อๆ ต้องให้หมอแพคดุด่ากันอยู่ตลอดเวลาแม้แต่ในระหว่างเวลาผ่าตัดก็ตาม อีกคนคือพยาบาลชอนจังมี (เล่นโดย ฮายอง) พยาบาลสาวห้าวเหมือนนักเลงจนโดนหมอแพคเรียกว่าเจ้านักเลงตามไปด้วย นอกจากนั้นก็มีคู่ปรับหมอฮันยูริมที่คอยขัดแข้งขาเขากับ ผอ.รพ. แต่ตัวละครพวกนี้ก็ออกมาเป็นน้ำจิ้มน่ารักๆ ของเรื่องมากกว่าจะเป็นบทขัดแย้งกันจริง เพราะผ่านไปสักพักก็มีบทให้ดีกันง่ายๆ เลย

จุดด้อยของเรื่องนี้ก็คือบทที่เป็นเส้นตรงมากเกินไป ตัวเรื่องสามารถเดาได้หมดว่าต่อไปจะเป็นอะไรยังไงแบบง่ายๆ แล้วตัวละครหลายตัวก็ขาดแบ็คกราวด์สำคัญกับเรื่อง อย่างรัฐมนตรีหญิงที่พาหมอแพคมาทำงานก็ไม่มีการเล่าว่าทั้งคู่เกี่ยวข้องกันยังไงเลย ซึ่งในเรื่องจะมีประเด็นตอนหลังถูกกล่าวหาว่าใช้เส้นพาเข้ามา แต่เรื่องก็ไม่ได้เล่าอะไรเพิ่มเติมเลยว่าทำไมสองคนนี้ถึงสนิทเชื่อใจกันขนาดนี้ หรืออย่างหมอยางเจ้าตูดก็มีแค่โปรไฟล์สั้นๆ ว่าเป็นนักเรียนทุนที่บ้านเป็นหมอมาเท่านั้น ซึ่งตรงนี้น่าจะเพราะการมาทำลงเน็ตฟลิกซ์มีงบแค่ 8 ตอน ไม่ใช่ทำลงเป็นละครทีวี 16 ตอน ทำให้รายละเอียดลึกๆ ของตัวละครแม้แต่ของหมอแพคเองก็แทบไม่มีให้เห็นนอกจากฉากแรกที่ใส่มาตอนเป็นหมอในสงครามเท่านั้น แต่การได้ทำในเน็ตฟลิกซ์ก็มีข้อดีแลกกันคือพวกโปรดักชั่นต่างๆ ดูดีขึ้นครับ

สรุป ซีรีส์เหมาะสำหรับคนที่ชอบแนวหมอแต่ไม่ต้องการเรื่องราวหนักเกินไป มีความสนุก ชิลๆ ติดตลกผสมฉากในห้องผ่าตัดช่วยชีวิตโดยหมอขั้นเทพจบเป็นเคสต่อกันไปเรื่อยๆ มีเรื่องการเมืองในโรงพยาบาลแทรกอยู่เป็นอุปสรรคคั่นเบาๆ กับตัวละครสมทบน่ารัก ถึงเรื่องราวจะขาดความแปลกใหม่ บทเป็นเส้นตรงแบบเดาได้ง่ายๆ แต่ก็ยังดูเพลินได้จากการเล่าเรื่องที่กระชับสั้นๆ 8 ตอนจบครับ

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่