playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Union (Netflix) ฉากแอ็กชั่นมันส์สนุกอยู่ แต่ฉากรักไปไม่ถึงจุดทำให้อิน

The Union

Summary

หนังสายลับของ Mark Wahlberg ที่ตั้งใจทำเป็นแฟรนไชส์ภาคต่อด้วยการวางโครงเรื่องราวโลกสายลับใหม่หมด ไม่อิงกับที่มีอยู่เดิมๆ มีความพยายามทั้งฉากแอ็กชั่นที่ใส่มาเยอะค่อนข้างจัดเต็มกับส่วนผสมเรื่องราวความรักแบบถ่านไฟเก่า อดีตแฟนสาวมัธยมกลับมาชวนไปเป็นสายลับกู้โลก ซึ่งไอเดียดูดี แต่ว่าเรื่องทั้งสองด้านกลับไปไม่สุด แม้ฉากแอ็กชั่นจะดูเพลินๆ มีความสนุกแบบติดตลกนิดๆ ได้แล้ว แต่ส่วนของความรักกลับแห้งผาก เคมีนักแสดงกับ Halle Berry ไม่ได้ แล้วเธอก็ไม่ได้มีเสน่ห์มากพอนักกับแนวนี้ (แต่ฉากแอ็กชั่นสอบผ่านเลย) ซึ่งถ้าผู้ชมไม่คิดมากก็น่าจะไม่มีปัญหาเพราะอย่างน้อยดูฉากแอ็กชั่นก็ยังบันเทิงสอบผ่านเกรด B+ ได้อยู่ครับ

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • คนธรรมดาที่กลายมาเป็นสายลับมือใหม่
  • เซ็ตติ้งโลกสายลับใหม่จากชนชั้นแรงงาน
  • ฉากแอ็กชั่นเยอะ
  • มุกตลกความแตกต่างของอังกฤษกับอเมริกา
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • หนังไปไม่สุดทั้งแอ็กชั่นทั้งความรัก
  • นักแสดงไม่ได้มีเสน่ห์มากพอ

 

The Union เดอะ ยูเนี่ยน หนังแอ็กชั่นคอมเมดี้ Original Netflix เรื่องราวของหนุ่มวัยกลางคนในเมืองเล็กๆ ที่ต้องพบกับอดีตแฟนสาววัยเรียนมัธยมที่หวนกลับหาเขาเพื่อพาไปฝึกเป็นสายลับกู้โลก!

รีวิว The Union เดอะ ยูเนี่ยน (ไม่สปอยล์)

หนังแอ็กชั่นสายลับติดตลกจาก Mark Wahlberg ที่เป็นโปรดิวเซอร์และเล่นเป็นพระเอกเอง และก็ไม่ใช่หนังที่ทำผ่านๆ เผางบของ Netflix แต่อย่างใด เพราะว่ามีการออกแบบจัดวางโครงเรื่องไว้อย่างตั้งใจให้เป็นแฟรนไชส์ใหม่กะทำหลายภาคตั้งแต่ต้น แต่ทำได้หรือไม่ได้ก็อีกเรื่องเพราะคำวิจารณ์ต่างประเทศตอนนี้ค่อนข้างแย่มาก

นอกจาก Mark Wahlberg แล้วหนังได้นักแสดงสายบู๊อย่าง Halle Berry เพิ่มเข้ามาอีกคน เป็นเรื่องราวของสองสายลับคู่หูที่มีปูมหลังเป็นคู่รักวัยเรียนมัธยมในอดีต ซึ่งเธอได้ทิ้งเขาหายไป 25 ปีแล้วกลับมาพาเขาไปเข้าองค์กรสายลับที่เรียกตัวเองว่า The Union หรือสหภาพแรงงาน โดยนิยามองค์กรนี้ว่าเป็นทีมสายลับที่คอยเก็บงานที่ไม่มีใครทำ ไม่มีตัวตนชื่อเสียงออกหน้า สมาชิกในทีมล้วนแล้วแต่เป็นแรงงานในสายอาชีพนี้ที่ก้าวขึ้นมาเป็นสายลับ และเหตุผลที่พาเขาเข้ามาก็เพราะตอนนี้ข้อมูลสายลับทั้งหมดของโลกตะวันตกถูกขโมยไปขายในตลาดมืด ที่มีประเทศคู่อริตะวันตกรอซื้อกันทั่วโลก ซึ่งคนที่จะปฏิบัติภารกิจตามกลับมาได้ก็ต้องเป็นสายลับหน้าใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในลิสต์รายชื่อนั่นเอง

หนังปูเรื่องราวองค์กรสายลับใหม่ได้ค่อนข้างดี มีความแปลกและแตกต่างมาก เพราะเป็นการเซ็ตติ้งโลกสายลับใหม่ที่ไม่ใช่ทีมสายลับปกติที่เห็นกันอยู่ทั่วไป อย่าง CIA FBI MI6 และยังนำตัวละครข้ามจากอเมริกามาลอนดอนด้วย โดยเรื่องทั้งหมดเกิดในอังกฤษ ฐานใหญ่ของสหภาพอยู่ที่นี่ แล้วก็นำความแตกต่างของการใช้ชีวิตอังกฤษกับอเมริกันมาเล่นเป็นมุกตลกเล็กๆ กระจัดกระจายอยู่ตลอดเรื่องด้วย อย่างอาหารการกินที่แตกต่าง พวงมาลัยรถอยู่คนละด้าน เลนจราจรขับรถก็อยู่ตรงข้ามกัน ซึ่งทำให้พระเอกอย่างไมค์ต้องเรียนรู้ปรับตัวให้ไว โชว์สกิลความเป็นสายลับแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทั่วไป โดยใช้พื้นฐานของอาชีพแรงงานช่วยอยู่อีกที อย่างสกิลการเดินบนที่สูงของช่างก่อสร้างเป็นต้น โดยมี ฮอลล์ อดีตแฟนสาวที่เป็นสายลับตัวจริงคอยประกบช่วยเหลือ และเป็นนางเอกที่โชว์สกิลฉากแอ็กชั่นต่างๆ เยอะกว่ามาก ทั้งการขับรถไล่ล่า และการต่อสู้ประชิดตัวที่หนังก็โยนบทนี้ให้เธอเล่นเต็มๆ มากกว่าพระเอก เพื่อที่อย่างน้อยก็รู้สึกว่าเรื่องยังตั้งอยู่บนพื้นฐานความจริง เพราะพระเอกมีเวลาเตรียมตัวเป็นสายลับแค่ไม่ถึง 2 อาทิตย์จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ๆ เก่งได้เลยขนาดนั้น และฉากแอ็กชั่นเหล่านี้ก็ยังใส่มาเยอะค่อนข้างจัดเต็มเป็นหนังแอ็กชั่นจริงๆ มีส่วนที่โม้โอเวอร์ตลกๆ อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่ารบกวนอารมณ์ของฉากแอ็กชั่นระหว่างภารกิจมากนัก ทำให้ส่วนของแอ็กชั่นเรื่องนี้ถือว่าดูเอามันส์ก็สอบผ่านได้เกรดสัก B กับ B+ เลยครับ แต่ก็ไม่ถึงระดับ A เพราะยังไม่มีฉากใหญ่โตไว้โชว์แบบหนังฟอร์มยักษ์ในตอนนี้ 

ด้วยความที่เป็นหนังรักรียูเนียนตั้งแต่แรก ทำให้เรื่องพยายามหาจังหวะเวลาใส่ฉากสนทนากับบททดสอบความรักของทั้งคู่อยู่เรื่อยๆ โดยบทให้ไมค์ยังรักเธออยู่เสมอ แต่ฮอลล์คือสายลับที่หลอกพาเขาทำงานที่สัญญาว่าแค่ชั่วคราวโดยไม่รู้ว่าใจให้เขาจริงๆ แค่ไหน ดังนั้นนี่คือช่วงเวลาของถ่านไฟเก่าที่เรื่องพยายามจุดไฟให้ติดอยู่ตลอด ด้วยบทสนทนาอาชีพของเขากับเธอที่อยู่กันคนละโลก โดยฮอลล์มองว่าเขามีความสามารถแต่กักขังตัวเองไว้แค่ในเมืองเล็กๆ บ้านเกิดกับเพื่อนๆ ที่โตมาด้วยกัน ซึ่งในเรื่องเขาต้องกลับไปร่วมงานแต่งเพื่อนให้ทันด้วย ซึ่งหนังก็ดีตรงที่ชี้ให้เห็นว่าเขาพอใจในตัวตนที่เป็นอยู่ และมองว่าฮอลล์เองต่างหากที่พลาดไปเพราะชีวิตอยู่กับเรื่องอื่นที่มีแต่ความเสี่ยง ไม่ใช่ความสุขของตัวเองแบบที่เขาเป็น ซึ่งหนังก็พยายามหาคำตอบนี้ว่าชีวิตแบบไหนกันแน่ที่เหมาะสมกับคนทั้งคู่ 

ต้องยอมรับว่าไอเดียโครงสร้างโลกสายลับกับความรักในเรื่องนี้ค่อนข้างดีและน่าสนใจต่อยอดได้อีกมาก เพราะไมค์เองตอนจบก็ยังเป็นแค่สายลับมือใหม่ที่ยังต้องเรียนรู้กันต่อไป และตัวละครในเรื่องที่เป็นทีมก็พึ่งโผล่โชว์ฝีมือกันคนละนิดละหน่อย รวมถึงฝั่งตัวร้ายที่มีการทิ้งตัวละครสำคัญไว้ไม่จบแบบมิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล แต่ปัญหาคือตัวเรื่องเองก็ทำแอ็กชั่นได้ไม่สุดในยุคที่หนังสายลับมากมายทั้งโรงทั้งสตรีมมิ่งอัดโชว์ของกันเข้ามาแบบนี้ แล้วยังส่วนของความรักที่เคมีของตัวละครยังไม่เข้ากันมาก นักแสดงอย่าง Halle Berry นั้นสอบผ่านในฉากแอ็กชั่นไม่มีปัญหาเพราะเธอก็เล่นแนวนี้มาก่อนแล้วอย่าง จอห์นวิค 3 หรือคิงแมน แต่พอเป็นแนวโรแมนติกรูปลักษณ์และเสน่ห์เธอยังทำให้อินไม่ได้จริงๆ แล้ว Mark Wahlberg เองก็ไม่ได้มีเสน่ห์มากพอช่วยดึงไว้ได้แบบทอมครูส ซึ่งก็ทำให้เรื่องส่วนนี้ก็ไปได้ไม่สุดอีก

 

สรุป หนังสายลับของ Mark Wahlberg ที่ตั้งใจทำเป็นแฟรนไชส์ภาคต่อด้วยการวางโครงเรื่องราวโลกสายลับใหม่หมด ไม่อิงกับที่มีอยู่เดิมๆ มีความพยายามทั้งฉากแอ็กชั่นที่ใส่มาเยอะค่อนข้างจัดเต็มกับส่วนผสมเรื่องราวความรักแบบถ่านไฟเก่า อดีตแฟนสาวมัธยมกลับมาชวนไปเป็นสายลับกู้โลก ซึ่งไอเดียดูดี แต่ว่าเรื่องทั้งสองด้านกลับไปไม่สุด แม้ฉากแอ็กชั่นจะดูเพลินๆ มีความสนุกแบบติดตลกนิดๆ ได้แล้ว แต่ส่วนของความรักกลับแห้งผาก เคมีนักแสดงกับ Halle Berry ไม่ได้ แล้วเธอก็ไม่ได้มีเสน่ห์มากพอนักกับแนวนี้ (แต่ฉากแอ็กชั่นสอบผ่านเลย) ซึ่งถ้าผู้ชมไม่คิดมากก็น่าจะไม่มีปัญหาเพราะอย่างน้อยดูฉากแอ็กชั่นก็ยังบันเทิงสอบผ่านเกรด B+ ได้อยู่ครับ

 

รวมรีวิว Netflix คลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!