playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Victims’ Game SS2 พยายามคงโครงสร้างเดิม แต่เทียบภาคแรกไม่ได้เลย

The Victims' Game SS2

Summary

สำหรับแฟนที่ชอบซีซั่นแรกมากน่าจะผิดหวังเพราะมาตรฐานที่ทำไว้สูงมากถูกดรอปลงแบบวูบทุกด้าน คดีมีช่องโหว่เยอะ บทเชื่อมกับซีซั่นแรกก็ไม่ค่อยดีพอ โครงสร้างเรื่องก็วนใช้รูปแบบเดิมแต่ทำได้แย่กว่า การเดินเรื่องอืดมาก แต่ถ้าดูเพื่อติดตามชีวิตตัวละครว่าไปต่อยังไงก็ยังพอดูได้อยู่ครับ 

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • ซีรีส์สืบสวนฆาตกรรมจากไต้หวันที่เนื้อเรื่องลึก
  • พัฒนาการของลูกสาวพระเอกค่อนข้างดี

Cons

  • บทฆาตกรอ่อน ไม่ทำให้น่าเชื่อ
  • การเดินเรื่องอืดมาก
  • ไทม์สคิปเวลาจากซีซั่นแรกมากไป
  • ลดบทตัวละครหลักภาคก่อนไปเยอะ

The Victims’ Game SS2 ซีรีส์สืบสวนไต้หวัน 8 ตอนจบ เรื่องราวของอดีตนิติเวชที่เป็นแอสเพอร์เกอร์  แต่เขาต้องกลับมาทำหน้าที่ไขคดีช่วยตำรวจอีกครั้ง โดยเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับอาจารย์ที่เขาเคารพรักมากที่สุด ในขณะที่ตัวเองก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นคนร้ายไปด้วย

รีวิวซีซั่น 1 https://www.playinone.com/folkplay/the-victims-game-review-netflix/

รีวิว The Victims’ Game SS2 (ไม่สปอยล์)

ซีรีส์ไต้หวันปี 2020 ที่เคยได้เข้าชิงรางวัลใหญ่ Golden Bell Awards 8 รางวัล (ชนะ 1 จากสาขาดาราดาวรุ่งยอดเยี่ยมสาขาซีรีส์โทรทัศน์ มุน ลี) ซึ่งผู้เขียนเองก็ชื่นชอบมากในซีซั่นแรก และตอนจบมีทิ้งท้ายไว้ว่าจะทำต่อแน่ๆ แต่กระนั้นเวลาก็ผ่านมาถึงเกือบ 4 ปี ถึงมีซีซั่น 2 ออกมาฉาย โดยระหว่างทางการถ่ายทำก็แทบไม่มีข่าวให้ได้เห็นกันเลย แต่เหมือนว่าเวลาที่เนิ่นน่านนี้ไม่ได้ช่วยทำให้เรื่องนี้กลับมาดี ในเนื้อหาที่ละเอียดละเมียดละไมได้แบบซีซั่นแรกเลย ซึ่งน่าผิดหวังเป็นอย่างมาก

ปัญหาของซีซั่น 2 คือเหมือนผู้สร้างไม่ได้คิดบทรองรับไว้ดีพอ ทำให้มีปัญหาตั้งแต่รอยต่อของเรื่องกับซีซั่นแรกก็ไม่ชัดเจนว่าห่างกันกี่ปี เนื้อเรื่องไม่ได้ลงรายละเอียดช่วงเวลาที่หายไปให้ผู้ชมได้รับรู้เลย อย่างปัจจุบัน ฟางอี้เริ่นกับลูกสาวก็มีความสัมพันธ์ไม่ดีกันแล้ว ทั้งๆ ที่ตอนจบซีซั่น 1 คือปลดล็อกปม แอสเพอร์เกอร์  ไปแล้วว่าเขาต้องใส่ใจแสดงอารมณ์กับลูกสาวเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีก แต่เรื่องกลับวนมาจุดที่ลูกแยกทางไม่อยู่กับพ่อเลยตั้งแต่แรก และนักข่าวชูไห่ยินก็เข้ามาคบเป็นแฟนกับเขา แต่ก็มีปัญหาเดียวกัน และคิดแยกทางออกไป ซึ่งจริงๆ ปมนี้ควรหลุดพ้นไปได้แล้ว เพราะซีซั่นแรกกว่าเธอจะเข้าใจคนเป็นแอสเพอร์เกอร์ก็ใช้เวลานานพอดู แต่เรื่องความสัมพันธ์พวกนี้กลับเอามาเล่นเป็นปมเดิมซ้ำ โดยที่เนื้อหาการแก้ไขปมของเรื่องนี้ก็ไม่ได้รู้สึกคลิ๊กคลายปมได้ดีเท่าซีซั่นแรกเลยด้วยซ้ำครับ นอกจากนี้ตัวละครนักข่าวก็ถูกเปลี่ยนอาชีพให้เธอมาทำงานองค์กรการกุศลช่วยเด็กมีปัญหา เพื่อจะให้เธอเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้น แล้วก็ลดบทบาทการสืบสวนแบบนักข่าวในซีซั่นแรกไปเกือบหมด จนความสำคัญน้อยลงมาก และเป็นแค่ตัวละครสมทบมากกว่าตัวเอกหลัก 1 ใน 3 คนแบบซีซั่นแรก ซึ่งไม่โอเคเลยครับ 

ตอนจบซีซั่นแรกพระเอกไม่ได้เป็นตำรวจนิติเวชแล้ว แต่เรื่องยังพยายามทำให้เขาเข้ามาทำงานนี้ โดยการสร้างคดีใหม่ให้อาจารย์นิติเวชที่เขาเคารพตายไปกลายเป็นผู้ต้องสงสัย แล้วให้เขาไขคดีนี้โดยที่ตัวเองตกเป็นผู้ต้องสงสัยไปด้วย (เพราะเซ็นเอกสารชันสูตรรับรองคดี) โดยที่ช่วง 2 ตอนแรกพยายามทำให้เขากลายผู้ต้องสงสัยที่โดนหมายจับ ต่อจากนั้นคือการสืบคดีเองกับตำรวจคนเก่าที่ไล่จับเขาในซีซั่นแรกกับตัวละครนิติเวชหญิงประจำทีมคนใหม่ โดยมีอัยการที่เป็นตัวละครใหม่คอยจ้องเล่นงานเขาตั้งแต่แรกเริ่มแบบปริศนา เรื่องมันค่อนข้างตะกุกตะกักเหมือนบทที่คิดไม่สุด การเดินเรื่องค่อนข้างอืดยืดมาก และเป็นการพยายามย้อนรอยโครงเรื่องซีซั่นแรกที่เขาก็โดนตำรวจสงสัยว่าเป็นผู้ร้ายแบบเดียกวัน โดยซีซั่นนี้ถึงแม้จะมีฉากไล่จับเขาอยู่บ้าง แต่ก็ใส่มาแบบผิวๆ ไม่เหมือนซีซั่นแรกที่เขาต้องสืบไปและหลบการทำงานของตำรวจในทีมไปตลอดจนจบ และก็มีบทสรุปว่าเขามีความผิดถูกออกจากราชการไป ทำให้เรื่องดูเมคเซนส์ลงตัวแล้ว ต่างกับซีซั่นนี้ที่พระเอกวนอยู่กับความคิดว่าอาจารย์ไม่ผิดจนเหมือนติดหล่ม กลายเป็นตัวละครที่ไม่ฉลาดไปเลย

ตัวคดีเองก็มีปัญหาช่องโหว่ค่อนข้างมาก อย่างการเข้าไปฆ่าคนในผับแสดงดนตรีกลับไม่มีกล้องวงจรปิด หรือใครพบเห็นคนร้ายเลย และเป็นแบบนี้อีกหลายครั้งโดยอ้างว่ากล้องเสีย กล้องไม่มีบ้าง ซึ่งต่างจากซีซั่นแรกที่พอเฉลยว่าเป็นการฆ่าตัวตายเองทุกเคส ทำให้เรื่องภาคนี้มีปัญหาหลายอย่าง แม้ฆาตกรจะมีโปรไฟล์ว่าฉลาดจากวิธีการฆ่าโดยเล่นเกมมีปริศนากับตำรวจ แต่บทกลับไม่ได้เขียนรายละเอียดการฆ่าแต่ละครั้งให้น่าเชื่อถือมากพอ แต่ยังดีที่แรงจูงใจของคดีตอนเฉลยมีน้ำหนักและความซับซ้อนเชื่อมโยงมาถึงพระเอกได้ดีอยู่ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับหักมุมมากเพราะเรื่องแทบจะใบ้ไว้แต่แรกแล้วว่าคนที่ทำแบบนี้ได้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น  

นอกจากนี้ซีรีส์ยังไม่มีเบื้องหลังแนวคิดในแต่ละตอน ซึ่งในซีซั่นแรกใส่ไว้ละเอียดมากในหลังเอนด์เครดิตให้เห็นงานสร้างที่ละเอียดลึกซึ้งถึงทั้งศพและแรงจูงใจ แต่เรื่องนี้ไม่มี ทำให้เห็นว่าแต่ละตอนแทบไม่มีความลึกอะไรในเรื่องเลย เป็นบทแบบซีรีส์สืบสวนทั่วไปมากครับ

สิ่งที่เรื่องยังพอทำได้ดีคือเป็นซีรีส์ที่ยังเน้นหนักถึงปัญหาสังคมแบบเดิม โดยลูกสาวพระเอกถูกสังคมแอนตี้จากคดีในภาคแรกซึ่งโด่งดังทั่วประเทศทำให้คนจำเธอได้ เรื่องสานต่อปัญหาของเธอทำให้ตัวละครนี้ได้ค้นหาตัวเองว่ายังมีคุณค่าอะไรในโลกนี้ และเธอจะอยู่เพื่ออะไรต่อไป ซึ่งเรื่องก็พาให้เธอมาพบกับอาชีพเก็บกวาดที่อยู่คนตาย งานที่ไม่มีใครอยากทำ และทำให้เธอได้ค้นพบความลึกซึ้งของงานนี้ที่ไม่ใช่แค่เก็บกวาด ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยเยียวยาจิตใจเธอและสังคมได้ โดยที่งานนี้ทำให้เธอสามารถเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้นได้ด้วย (น่าจะผูกปมไว้ใช้เล่นต่อในซีซั่นต่อๆ ไปด้วย)

ซีรีส์จบแบบทิ้งท้ายว่ามีต่อใหญ่โต เป็น 7 คดีในตำนานของท้องที่นี้ที่ยังปิดไม่ลง แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเรื่องจะได้ไปต่อไหม เพราะผลตอบรับฟีดแบ็คไม่น่าดีมาก

 

สรุป สำหรับแฟนที่ชอบซีซั่นแรกมากน่าจะผิดหวังเพราะมาตรฐานที่ทำไว้สูงมากถูกดรอปลงแบบวูบทุกด้าน คดีมีช่องโหว่เยอะ บทเชื่อมกับซีซั่นแรกก็ไม่ค่อยดีพอ โครงสร้างเรื่องก็วนใช้รูปแบบเดิมแต่ทำได้แย่กว่า การเดินเรื่องอืดมาก แต่ถ้าดูเพื่อติดตามชีวิตตัวละครว่าไปต่อยังไงก็ยังพอดูได้อยู่ครับ 


รวมรีวิว Netflix คลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!