playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Watcher ซีรีส์หลอนระทึกจากเรื่องจริงของบ้านในฝันที่กลายเป็นนรกบนดิน

The Watcher

Summary

ซีรีส์ที่ได้แรงบันดาลใจจากเค้าโครงเรื่องจริงของบ้านหลอนที่ไม่ใช่แนวผี แต่เป็นสตอล์คเกอร์ลึกลับที่เฝ้าดูส่งจดหมายมากดดันผู้คนที่ครอบครอบบ้านหลังนี้ในแบบจิตวิทยาชวนระทึกหลอนๆ ที่สร้างแรงกดดันให้ตัวละครในเรื่องสติหลุดแทบระเบิดกลายเป็นคนบ้า โดยดำเนินเรื่องเน้นการสืบสวนไขปมปริศนาลึกลับ ที่ยิ่งสืบไปก็ยิ่งเจอเรื่องลับๆ กับทฤษฎีผู้ต้องสงสัยกับแรงจูงใจมากมายหลายคนที่อาจจะเป็นผู้ร้ายได้หมด ซึ่งเรื่องทำได้น่าติดตามชวนให้อยากรู้เฉลย แต่กลายเป็นว่าตอนจบกลับทิ้งค้างปริศนาต่างๆ ไว้เฉยๆ แล้วก็ยังมีจุดที่รู้สึกว่าไม่สมเหตุผลที่เรื่องทิ้งค้างไว้แบบงงๆ จนรู้สึกเฟล (กับคนที่ไม่รู้ว่าเรื่องจริงก็ยังเป็นปริศนาค้างคาอยู่เหมือนกัน) ซึ่งก็อาจจะเป็นธีมเจตนาของผู้สร้างให้เหมือนตัวละครในเรื่องที่ติดใจกับปริศนาว่าใครคือผู้เฝ้าดูที่ก่อกวนชีวิตครอบครัวพวกเขาจนเกือบล้มละลาย ซึ่งผู้ชมที่ดูจบก็คงรู้สึกติดค้างในหัวไว้แบบเดียวกันครับ

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
3 (1 vote)

Pros

  • สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริง+แต่งเติมเพิ่มของบ้านหลอนในนิวเจอร์ซีย์
  • จากผู้สร้าง American Horror Story
  • เรื่องชวนหลอนระทึกขึ้นเรื่อยๆ
  • ปริศนาน่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • ทิ้งปริศนาหลายอย่างคาไว้แบบไม่เคลียร์
  • บางอย่างในเรื่องก็ไม่สมเหตุผลในความเป็นจริง
  • พยายามทำให้ทุกตัวละครดูน่าสงสัยจนเกินจริงไปหน่อย

 

ADBRO

The Watcher: ผู้เฝ้าดู ซีรีส์ Netflix  7 ตอนจบจาก Ryan Murphy ผู้สร้าง American Horror Story กับ Ian Brennan ผู้สร้างลิมิเต็ดซีรีส์ Dahmer – Monster: The Jeffrey Dahmer Story มาร่วมกันสร้างเรื่องนี้ ที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงของบ้านชื่อกระฉ่อนในนิวเจอร์ซีย์ ที่มีเรื่องราวแปลกประหลาด หลังจากย้ายเข้ามาอยู่บ้านชานเมืองในฝันได้ไม่นาน ครอบครัวแบรนน็อคก็ต้องพบกับนรกบนดิน มีจดหมายมาดร้ายส่งมาจากคนที่เรียกตัวเองว่า “ผู้เฝ้าดู” และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเปิดโปงความลับน่าสะพรึงกลัวของย่านนี้ 

 The Watcher (2022) on IMDb

รีวิว The Watcher: ผู้เฝ้าดู

จดหมายที่ไม่ชอบมาพากล เพื่อนบ้านแปลกๆ ภัยคุกคามสุดอันตราย ครอบครัวหนึ่งย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านในฝันแถบชานเมือง แต่กลับค้นพบว่าแท้จริงแล้วมันคือฝันร้าย นี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ ซีรีส์ที่ออกแนวหลอนจากเรื่องจริงสุดแปลกประหลาดไม่เหมือนใคร แต่ต้องบอกกันก่อนว่าเรื่องนี้ไม่ได้สร้างตามจริงหมด แต่นำเค้าโครงเรื่องจริงมาแต่งเติมเสริมบทให้มีรายละเอียดสุดแปลกประหลาดเชื่อมโยงกันอย่างน่าพิศวงงงงวยขึ้นไปอีก

ตัวเรื่องอาจจะดูเหมือนแนวบ้านผี แต่เรื่องจริงกลับให้อารมณ์หลอนแบบพวก สตอล์คเกอร์คุกคามมากกว่าผี เพราะหลักๆ แล้วก็คือการส่งจดหมายมาทักทายเชิงข่มขู่แบบเล่นจิตวิทยาปั่นหัวผู้ที่อยู่อาศัยในบ้านหรูหลังนี้ ซึ่งไม่ใช่แค่ตัวเอกในเรื่องที่โดน แต่ครอบครัวที่มาอยู่นี่ต่างโดนกันมาเป็นทอดๆ นานแล้วแค่ไม่มีใครปริปากบอกเล่าให้ฟังกัน ซึ่งความหลอนก็มาจากตัวเนื้อหาข้อความในจดหมายที่เหมือนกับว่ามีใครสักคนที่จับตาดูทุกคนในบ้านอยู่ แล้วไม่ใช่แค่จับตาธรรมดา แต่รู้ลึกถึงรายละเอียดชีวิตต่างๆ ทั้งเรื่องประจำวัน เรื่องลับๆ ซึ่งมันผิดปกติมากที่คนๆ นี้สามารถรู้ถึงขั้นปัญหาที่ทำงานของคนในบ้านได้ แล้วตัวจดหมายก็เป็นตัวพิมพ์ดีด ไม่ใช่ลายมือ DNA ที่ติดอยู่ก็ไม่พบในระบบหรือตรงกับใครเลย ซึ่งความหลอนตรงนี้เองคือจุดเริ่มต้นที่พาให้ตัวละครในเรื่องไปพบกับความหลอนต่อเนื่องภายในบ้านต่อไปอีก

เรื่องหลอนต่อเนื่องในบ้านก็คือการที่ในบ้านมักมีอะไรบางอย่างแปลกๆ เกิดขึ้น อย่างสัตว์เลี้ยงตายไม่ทราบสาเหตุ มีเสียงเพลงลอยมาจากชั้นใต้ดิน เงาคนลึกลับปรากฎตัวขึ้น และอื่นๆ ที่แทบจะเรียกว่าเป็นบ้านผีสิงเลยก็ได้ แต่ตัวเรื่องไม่ได้ชี้ชวนไปในทางผีเลย เพราะตัวละครทั้งหมดในเรื่องก็ไม่เชื่อในเรื่องผี ทั้งยังมีนักสืบเอกชนที่มาช่วยสืบความลับต่างๆ ซึ่งการดำเนินเรื่องในแต่ละตอนจะเป็นการค่อยๆ คลายปมปริศนาต่างๆ ทั้งจดหมาย และก็เรื่องแปลกๆ ที่เกิดขึ้นในบ้าน ซึ่งมีทั้งที่คลายปมได้กับคลายไม่ได้ปนเปกัน แต่ไม่มีอารมณ์แนวผีมาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด (แม้บางอย่างจะชวนให้คิดว่าผีรึเปล่าก็ตามที)

ความหลอนกดดันในเรื่องส่งผลให้ตัวละครในเรื่องได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า ทุกคนเปลี่ยนไปหมด จากพ่อที่รักลูกกลายเป็นเริ่มระแวงและทะเลาะกับลูกในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ภรรยาก็รู้สึกว่าสามีมีอะไรบางอย่างปกปิดเธอไว้จนเริ่มอยากหย่าร้าง รวมถึงตัวละครเพื่อนบ้านในละแวกนั้นที่มักทำตัวแปลกๆ ออกแนวจิตๆ ทำให้คนในบ้านยิ่งรู้สึกว่าบ้านนี้มีอะไรไม่ชอบมาพากลจนต้องพยายามขุดคุ้ยหาความจริงที่ยิ่งแปลกพิสดารกับเรื่องลับๆ ที่โผล่ขึ้นมาเรื่อยๆ

ด้วยความที่เรื่องราวเป็นการหลอนผู้ที่เข้ามาอยู่อาศัยด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ทราบ มีหลายทฤษฎีที่พยายามอธิบายไว้ในเรื่องผสมกันทั้งลัทธิบูชาปีศาจ นายหน้าอสังหาปั่นราคาที่ดิน คนโรคจิตในระแวกนั้น คดีฆาตกรรมในอดีต ฯลฯ ทำให้เรื่องดำเนินไปแนวสืบสวนแบบเหมือนต่อจิ๊กซอว์ที่ไม่เข้าชุดกันไปเรื่อย สืบจากปมหนึ่งไปเจอปมใหม่ สืบจากปมใหม่ไปเจอทางตันวนมาปมเก่า ตัวเรื่องพยายามเดินเรื่องแบบชวนให้ทุกคนน่าสงสัยไปหมด แม้แต่ตัวคนในครอบครัวก็ด้วย กลายเป็นว่าใครก็มีสิทธิ์เป็นผู้เฝ้าดูนี่ได้หมด ซึ่งเรื่องก็หลอกล่อให้ผู้ชมเขวตามไปมาได้ตลอดเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ 

แม้เรื่องจะหลอกล่อผู้ชมให้ติดตามดูได้ตั้งแต่ต้นจนจบแบบแทบไม่มีช่วงน่าเบื่อ เพราะมีแต่ปริศนาให้คิดตลอดเรื่อง แต่กลายเป็นว่าพอถึงบทสรุปท้ายเรื่องกลับทิ้งค้างปริศนาต่างๆ ไว้หลายอย่างคาไว้แบบนั้น สำหรับคนที่รู้อยู่แล้วว่าเรื่องจริงก็เป็นแบบนี้อาจจะไม่รู้สึกอะไรมาก แต่กับผู้ชมที่ดูเพราะนึกว่าจะมีเฉลยหรือไขปริศนาได้คงรู้สึกเฟลกับตอนจบที่ทิ้งค้างแทบทุกอย่างไว้เฉยๆ ซึ่งก็อาจจะเป็นธีมเจตนาของผู้สร้างให้เหมือนตัวละครในเรื่องที่ติดใจกับปริศนาว่าใครคือผู้เฝ้าดูที่ก่อกวนชีวิตครอบครัวพวกเขาจนเกือบล้มละลาย ซึ่งผู้ชมที่ดูจบก็คงรู้สึกติดค้างในหัวไว้แบบเดียวกันครับ

 

 

อ่านรีวิวหนัง Netflix ในเว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!