playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Them ss2 (Prime) คงธีมสยองขวัญเหยียดผิวได้ดีและยังมีเซอร์ไพรส์ในตอนจบ

Summary

ซีรีส์ยังคงธีมคนดำที่ตกไปอยู่ในสังคมคนขาวเหยียดผิวได้ดีอยู่ แม้เรื่องจะเบาลงไปเพราะยุคสมัยในเรื่องเปลี่ยนต่างกับซีซั่นแรก 40 ปี ตัวเอกเป็นตำรวจหญิงผิวดำในสังคมตำรวจผิวขาวที่ต้องเจอความน่าสะพรึงกลัวไปอีกแบบ โดยมีการสืบคดีฆาตกรรมปริศนาที่ดูเหนือธรรมชาติ มีความโหดรุนแรงสูง แต่ก็ยังเน้นสืบสวนหาฆาตกรต่อเนื่องกันตามปกติ แล้วก็เล่าอีกตัวละครหนุ่มผิวดำปริศนากับความน่ากลัวแบบจิตใกล้แตกทั้งๆ ที่เขาเป็นคนที่พยายามทำดีมาตลอด ซึ่งเรื่องสะท้อนภาพปัญหาคนดำกับความรุนแรงถึงเหตุผลที่มาได้เป็นอย่างดีและน่าสงสารมาก โดยซีรีส์มีจุดเฉลยตัวละครหนุ่มผิวดำให้ไปเชื่อมกับส่วนของนางเอกได้อย่างน่าทึ่ง แล้วก็ยังมีเซอร์ไพรส์ตอนท้ายที่ว้าวแน่นอนครับ    

Overall
7.5/10
7.5/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • ธีมเหยียดสีผิวเชื้อชาติแบบรุนแรง
  • วงการตำรวจผิวขาวที่เหยียดสีผิว
  • ความโหดรุนแรงสูง
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • ผู้ชมอาจจะงงๆ บางครั้งเพราะซีรีส์เล่าเรื่องด้วยฉากแปลกๆ ให้คิดเอง
  • ฉากเหยียดสีผิวน้อยลงกว่าซีซั่น 1

ADBRO

Them ss2 The Scare (ชื่อไทย คนนอก: หวาดผวา) ซีรีส์แนวสืบสวนสยองขวัญ Amazon Prime 8 ตอนจบ มีพากย์ไทย พบกับเรื่องราวสยองขวัญที่แปลกประหลาดในสังคมอเมริกาที่เต็มไปด้วยเรื่องเหยียดเชื้อชาติ ซีซั่น 2 พาผู้ชมไปอยู่ในวงการตำรวจที่น่ากลัวด้วยอำนาจในมือของผู้รักษากฏหมายแต่เหยียดผิวแล้วถูกกดทับไว้อย่างรุนแรง

อ่านรีวิว Them ss1 คลิกที่นี่

รีวิว Them ss2 The Scare (ไม่สปอยล์)

ซีรีส์ที่พลิกเรื่องจากคนดำทย้ายไปอยู่ในสังคมคนขาวเหยียดผิวแล้วเจอสารพัดเรื่องโหดร้ายกับครอบครัว กลายมาเป็นแนวสืบสวนคนดำที่มาทำงานเป็นตำรวจนักสืบในสังคมตำรวจคนขาว ซึ่งเป็นการฉีกเรื่องที่แปลกไปเลย ด้วยยุคสมัยของเรื่องก็ต่างกัน 40 ปี (ซีซั่นแรกปี 1950 ซีซั่นสองปี 1991) เรื่องเริ่มต้นใหม่ด้วยตัวละครชุดใหม่ทั้งหมด ดอว์น รีฟ (แสดงโดย Deborah Ayorinde) สายสืบคดีฆาตกรรมที่ต้องมาทำคดีฆาตกรรรมปริศนา เหยื่อถูกหักกระดูกทั่วทั้งตัวแล้วยัดไว้ในช่องเก็บของอ่างล้างหน้า ดูเป็นคดีฆาตกรรรมที่เป็นไปไม่ได้ตามธรรมชาติตั้งแต่แรก ซึ่งผู้ชมซีซั่นแรกมาแล้วก็คงเข้าใจดีกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แนวสืบสวนตามปกติแน่นอน แต่ซีรีส์ก็พยายามเล่าการสืบสวนค้นหาฆาตกรแบบจริงจังเหมือนแนวนักสืบปกติ โดยมีเรื่องสังคมตำรวจผิวขาวที่ลึกๆ แล้วไม่ต้อนรับนางเอกผิวดำ จนเกิดเป็นความขัดแย้งในการทำงาน แล้วก็ลามไปถึงการข่มขู่คุกคามในวงการตำรวจกันเอง ซึ่งซีรีส์เล่นเรื่องความรุนแรงของการเหยียดผิวเบาลงเพราะยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ไม่มีการลามไปถึงครอบครัวแบบซีซั่นแรก แต่ความน่ากลัวในจุดนี้ก็ยังคงมีอยู่ไม่เปลี่ยน โดยเปลี่ยนมาเป็นสังคมตำรวจผิวขาวที่รวมตัวกันใช้อำนาจหน้าที่ปกป้องกันเองและซ่อนอาชญากรรมที่ก่อกับคนผิวดำไว้ ซึ่งเรื่องในภาคนี้มีตัวละครเชื้อชาติอื่นอย่างคนเอเชียที่ย้ายมาอเมริกาและถูกกระทำด้วยเช่นกัน แต่โผล่มาสั้นๆ เพื่อบ่งบอกให้เห็นว่าปัญหานี้ไม่ใช่คนผิวดำเท่านั้นที่เจอ 

เรื่องของนางเอกยังมีประเด็นพ่วงถึงตัวละครครอบครัวที่ถูกผลกระทบจากการสืบคดีนี้ไปด้วย แต่มาในแบบเรื่องเหนือธรรมชาติที่บั่นทอนจิตไปเรื่อยๆ โดยที่มีความลับทางครอบครัวที่ซ่อนอยู่ ผสมไปกับการสืบสวนคดีที่เกิดขึ้น ซึ่งซีรีส์ผูกโยงปมเข้าไว้ด้วยกันแบบเหนือธรรมชาติเหมือนซีซั่น 1 แต่มีคำอธิบายที่ชัดเจนกว่าซีซั่นแรกที่ครอบครัวนั้นโดนผีปีศาจกระทำแบบงงๆ

ตัวเรื่องชูโรงตำรวจสายสืบหญิงนำเป็นตัวเอกหลัก แต่ก็เล่าอีกหนึ่งตัวละครผิวดำไปพร้อมกัน เอ็ดมันด์ (แสดงโดย Luke James) หนุ่มผู้ฝันอยากเป็นนักแสดง แต่ไม่เคยออดิชั่นผ่าน เขาพยามอย่างหนักเพื่อจะได้เป็นนักแสดงจริงๆ สักครั้ง แต่ก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จ จนค่อยๆ กลายเป็นคนจิตใจไม่ปกติขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งเนื้อเรื่องส่วนนี้ถูกเล่าสลับกับการสืบสวนคดีฆาตกรรมของนางเอกตลอด โดยเป็นเรื่องที่ดูไม่น่าจะบรรจบกันได้เลย ไม่มีตัวละครที่เกี่ยวพันเชื่อมโยงหากัน และเรื่องก็แสดงให้เห็นว่าเอ็ดมันด์เป็นตัวละครปริศนามีที่มาที่ไปลึกลับหลายอย่าง ซึ่งซีรีส์ฉลาดมากที่วางเรื่องเอ็ดมันด์ไว้ให้น่างุนงงว่าเขาคือใคร และใส่น่ากลัวแบบ “เกือบจะวิปริต” ลงไปหลายครั้ง เพราะเขาพยายามซ้อมเล่นบทเป็นฆาตกรต่อเนื่องโรคจิตในชีวิตจริง ซึ่งบทฆาตกรผิวดำก็ไม่เคยมีมาก่อนในวงการภาพยนตร์ที่ให้บทนี้กับคนขาวเท่านั้น ซึ่งการทุ่มเทอินไปกับบททำให้ชีวิตปกติของเขาต้องตกต่ำลงเรื่อยๆ แต่ความน่ากลัวที่เขาแสดงออกมากับผู้คนที่เขาพบเจอกลับทำให้เขารู้สึกไปเองว่าใกล้ความสำเร็จกับบทนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งความย้อนแย้งนี้ทำให้ตัวละคนนี้น่าสงสารมากเพราะตัวจริงเขาคือคนนิสัยดีที่รักเด็ก และก็ดูไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใครในตอนแรก ซึ่งพอเรื่องเฉลยออกมาในตอนกลางเรื่องผู้ชมก็ต้องอึ้งกับจุดเชื่อมโยงที่ซีรีส์ซ่อนไว้ และยังพาผู้ชมไปพบกับความจริงของเอ็ดมันด์ตามมาเรื่อยๆ จนถึงตอนจบที่เรื่องทั้งหมดถูกคลี่คลายว่าเขาเป็นใครในที่สุด ซึ่งนี่คือส่วนที่ว้าวมากเมื่อเรื่องพาไปพบกับเซอร์ไพรส์ที่ไม่คาดคิดในตอนท้ายของซีซั่นนี้ และก็เปิดทางให้มีซีซั่น 3 ตามมาได้อีก ซึ่งก็น่าติดตามมากครับ

เนื้อเรื่องตอนท้ายของซีซั่น 2 จะเชื่อมต่อโดยตรงกับซีซั่นแรก เป็นเนื้อเรื่องต่อกันโดยสมบูรณ์ 


สรุป ซีรีส์ยังคงธีมคนดำที่ตกไปอยู่ในสังคมคนขาวเหยียดผิวได้ดีอยู่ แม้เรื่องจะเบาลงไปเพราะยุคสมัยในเรื่องเปลี่ยนต่างกับซีซั่นแรก 40 ปี ตัวเอกเป็นตำรวจหญิงผิวดำในสังคมตำรวจผิวขาวที่ต้องเจอความน่าสะพรึงกลัวไปอีกแบบ โดยมีการสืบคดีฆาตกรรมปริศนาที่ดูเหนือธรรมชาติ มีความโหดรุนแรงสูง แต่ก็ยังเน้นสืบสวนหาฆาตกรต่อเนื่องกันตามปกติ แล้วก็เล่าอีกตัวละครหนุ่มผิวดำปริศนากับความน่ากลัวแบบจิตใกล้แตกทั้งๆ ที่เขาเป็นคนที่พยายามทำดีมาตลอด ซึ่งเรื่องสะท้อนภาพปัญหาคนดำกับความรุนแรงถึงเหตุผลที่มาได้เป็นอย่างดีและน่าสงสารมาก โดยซีรีส์มีจุดเฉลยตัวละครหนุ่มผิวดำให้ไปเชื่อมกับส่วนของนางเอกได้อย่างน่าทึ่ง แล้วก็ยังมีเซอร์ไพรส์ตอนท้ายที่ว้าวแน่นอนครับ      

อ่านรีวิวหนังซีรีส์ Amazon Prime VIDEO เพิ่มคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!