รีวิวซีรีส์ Tiny Pretty Things เปิดโปงด้านมืดวงการบัลเล่ต์ในโรงเรียนชนชั้นสูง
Tiny Pretty Things
สรุป
ซีรีส์เน้นเล่าเรื่องผ่านดราม่าความรักวัยรุ่น การเรียน การเต้น ความฝัน โดยมีฉาก SEX ติดเรตเยอะ มีเรื่องสืบสวนเปิดโปงด้านมืดของวงการบัลเลต์ตัวเสริม ถือว่าดูเพลินๆ ได้ไม่ถึงกับน่าเบื่อ แต่แค่ไม่สุดในแนวทางการเล่าเรื่องผสมรวมกันหลายๆ อย่างแบบนี้เท่านั้น
Overall
6.5/10User Review
( votes)Pros
- เปิดโปงด้านมืดวงการบัลเล่ต์
- ฉากเต้นบัลเล่ต์ที่ดูสวยงามสมจริง
- ฉาก SEX ติดเรตเกลื่อนทุกตอน
- นักแสดงหน้าตาดีกันทุกคน
Cons
- ปมคดีหลักถูกนำเสนอเบาบางมากไปจนเหมือนไม่ได้สำคัญ
- ปมดราม่าในชีวิตของตัวละครเยอะจัด จนดูเสียเวลาไปกับส่วนนี้มากไป
- เฉลยปมคนร้ายในตอนจบเบาไปหน่อย แล้วก็ไม่ได้ทำให้จบในซีซั่นนี้
Tiny Pretty Things สวยซ่อนร้าย ใสซ่อนปม ซีรีส์ Netflix อเมริกาที่พาผู้ชมไปสำรวจโลกของบัลเล่ต์ ศิลปะการแสดงของชนชั้นสูง ที่มีเบื้องหลังสกปรกโสมมซ่อนอยู่ในโรงเรียนฝึกสอนนักแสดงบัลเล่ต์
ตัวอย่าง Tiny Pretty Things
ซีรีส์เรื่องนี้ทำจากนิยายชุดในชื่อเดียวของผู้เขียน Sona Charaipotra มีสองเล่มจบ เป็นเรื่องราวของกลุ่มนักเรียนบัลเลต์ในโรงเรียนชั้นนำ “อาร์เชอร์” ในชิคาโก ที่เริ่มเรื่องด้วยการตกลงมาจากชั้น 4 โรงเรียนของดาวเด่น แคสซี่ ที่เรื่องเผยให้เห็นว่ามีคนร้ายผลักเธอตกลงมา และอยู่ในอาการโคม่า ก่อนที่โรงเรียนจะรับเอานักเรียนใหม่ “เนเวอาห์” สาวผิวสีที่มีพรสวรรค์การเต้นมาเข้าเรียน ซึ่งเธอก็ได้พบว่าเรื่องราวอุบัติเหตุของแคสซี่มีเบื้องหลังเกี่ยวพันกับสิ่งต่างๆ ในโรงเรียนแทบทั้งหมด และคนร้ายยังลอยนวลอยู่ เธอจึงสืบสวนเรื่องนี้ด้วยตนเองจนเริ่มพบความลับต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้
แม้เรื่องนี้จะเริ่มด้วยแนวอาชญากรรมสืบสวนหาคนร้าย แต่เรื่องเหมือนตั้งใจแค่เอามาเปิดให้เป็นแบ็คกราวด์เสริมเรื่องในตอนแรกเท่านั้น เพราะตัวเนื้อหาจริงๆ หนักไปทางการเจาะลึกลงไปในโลกของบัลเลต์อย่างจริงจัง ซึ่งมีรายละเอียดลึกมากมายแบบคนเขียนทำการบ้านมาดีเลย และช่วยเปิดโลกให้ผู้ชมได้รับรู้ที่มาของศิลปะการแสดงและเต้นบัลเลต์แบบอาชีพ ที่ต้องเฟ้นหาคนรักจริงๆ มาฝึกสอน ดูแลเหมือนไข่ในหินทุกอย่าง กับกฎข้อห้ามมากมายที่นักเรียนบัลเล่ต์ไม่มีอิสระในชีวิตสักเท่าไหร่ เริ่มตั้งแต่การตรวจกระดูกทุกสัดส่วนให้มีโครงสร้างที่ดีสวยงามตามหลัก ต้องคุมน้ำหนักมวลกายให้ได้รูปตลอดเวลา รวมถึงห้ามมีความสัมพันธ์ SEX ในโรงเรียน ทุกวันต้องฝึกซ้อมจริงจังเป็นเวลานาน และก็ต้องเจอกับครูสอนที่เข้มงวดอย่างหนักเพื่อให้ทุกลีลาท่าเต้นไร้ที่ติ จนถึงขั้นใส่อารมณ์กับนักเรียน ชีวิตหลังเลิกเรียนก็ยังต้องเจอผู้ดูแลคอยสอดส่องให้ทุกคนอยู่ในระเบียบ ซึ่งใครทำผิดก็ต้องหลุดออกจากที่แห่งนี้ เท่ากับเสียความฝันการเป็นมืออาชีพด้านนี้ไปเลย ซึ่งในส่วนนี้เองตัวเรื่องถือว่าทำออกมาได้ดีมาก แม้รายละเอียดจะเยอะและบัลเล่ต์เองก็ดูเข้าใจยาก แต่เรื่องก็ทำออกมาได้อย่างสวยงาม สมจริง ดูดีมาก จากการได้นักแสดงที่เป็นนักบัลเล่ต์ตัวจริงอย่างนางเอกของเรื่อง ที่แสดงโดย Kylie Jefferson ก็เล่นเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก รวมถึงตัวละครอื่นๆ ก็เป็นนักเต้นและมีผลงานหนังในแนวนี้มาตลอด ซึ่งถ้าใครชอบแนวเบื้องหลังการปั้นนักแสดงนักเต้นที่เต็มไปด้วยแรงกดดันเข้มงวดนี่โอเคเลย ฉากบัลเล่ต์ในเรื่องเองก็ดูสนุกไม่น่าเบื่อ แม้อาจจะดูไกลตัวผู้ชมชาวไทยสักหน่อยก็ตาม
ด้วยความที่ซีรีส์เป็นโลกของของวัยรุ่นจึงหนีไม่พ้นเรื่องของความรักที่เรื่องผูกปมเข้ากับการหักหลังเพื่อน เปลี่ยนคู่กันไปมาตลอดเวลา และก็เน้นฉาก SEX เปลือยกายกันจะๆ ทั้งหญิงทั้งชาย เกย์ มีครบหมด และก็เล่นฉากพวกนี้บ่อยด้วยแทบทุกตอน แต่กลับไม่ค่อยสำคัญกับเรื่องสักเท่าไหร่ แถมทำให้เรื่องดูยืดยาวเกินจำเป็นไปเยอะด้วย (เรื่องนี้ตอนละ 50 นาทีมี 10 ตอน) แต่การกระจายบทแจกให้ทุกตัวละครทำได้ดี ตัวเรื่องให้ความสำคัญกับทุกคู่เท่าเทียมกัน ขนาดที่นางเอกก็ไม่ได้สำคัญเด่นกว่าตัวละครอื่นสักเท่าไหร่ เป็นเพียงแค่คนนำการกบฎแหกกฎมาสู่โรงเรียนแห่งนี้เท่านั้น
ตัวเรื่องปมคดีที่เกิดขึ้นในตอนแรกถูกเล่าเสริมแบบจางๆ ตลอดเรื่อง จนดูเหมือนไม่ให้ความสำคัญนัก แม้จะวางให้มีบทของตำรวจสาวนักสืบคอยตามติดคดีนี้ ที่โรงเรียนพยายามปกปิดว่าเป็นแค่อุบัติเหตุจากการซ้อมส่วนตัว แต่เรื่องก็วกวนไปมากับการเบี่ยงผู้ต้องสงสัยไปๆ มาๆ แบบไม่ค่อยมีน้ำหนักเท่าไหร่ ซึ่งก็อาจจะเพราะปมที่ปกปิดไว้ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากด้วย เรื่องจึงพยายามนำเสนอส่วนนี้แบบผิวๆ ไปเรื่อยๆ แค่ไม่ให้หลุดหายไปเท่านั้น
แต่ต้องบอกว่าเรื่องอาชญากรรมที่เกิดขึ้นไม่ได้มีแค่คดีแรกเพียงเรื่องเดียว เรื่องกลับมาให้น้ำหนักการเปิดเผยด้านมืดของวงการบัลเลต์แทน ซึ่งเป็นเรื่องราวที่งอกต่อมาจากคดีที่เกิดขึ้น และมีความเชื่อมโยงไปถึงผู้มีอิทธิพลชนชั้นสูงที่อาศัยบัลเล่ต์เป็นที่ตอบสนองด้านมืดของตัวเอง ซึ่งในส่วนนี้เองที่เรื่องราวนำเสนอจริงจัง และก็เล่นหนักกับเรื่องนี้โดยอิงว่าเป็นเรื่องจริงที่ซุกซ่อนอยู่มานานของวงการบัลเลต์ที่มีอายุกว่า 400 ปี จนเหมือนเป็นเรื่องปกติ ซึ่งเรื่องราวตรงนี้กลับเด่นกว่าคดีที่เกิดขึ้นในตอนแรกซะอีก และก็เป็นหัวใจสำคัญของเรื่องที่น่าติดตามว่าเหล่านักเรียนในโรงเรียนจะจัดการกับเรื่องเลวร้ายแบบนี้ได้ยังไงไปจนถึงตอนจบ
เบื้องหลังวงการบัลเล่ต์มีการเอาเด็กหนุ่มสาวไปตอบสนองความใคร่ของชนชั้นสูงที่มีรสนิยมชมชอบเด็ก เพื่อแลกกับการได้อยู่บนเส้นทางนี้ ซึ่งก็อาจจะเหมือนพวกวงการนักแสดงปั้นเด็กกินเด็กอะไรพวกนี้ แต่วงการบัลเล่ต์คือสำหรับผู้มีอิทธิพลและอำนาจเท่านั้น
ตัวเรื่องจบลงที่การเฉลยว่าคนร้ายเป็นใคร และก็พยายามปิดเรื่องด้านมืดในโรงเรียนให้ลงตัว ผ่านการแก่งแย่งชิงอำนาจกันของผู้ใหญ่ในโรงเรียนอีกที แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้ปิดปมลงตัว แต่กลับเป็นแค่การทิ้งไว้เพื่อไปต่อซีซั่น 2 ตามนิยายที่มีสองเล่ม และก็ทิ้งปมใหม่เป็นคดีฆาตกรรมปิดไว้ท้ายเรื่องเพิ่มอีกด้วย
ถ้าใครชอบแนววงการเฉพาะกลุ่มแบบนี้แนะนำ Dare Me ความหลงรักที่นำไปสู่ความระทึกขวัญ ผ่านโลกไฮสคูลเชียร์ลีดเดอร์ เป็นอีกเรื่องของ Netflix ที่ทำออกมาดีเลยครับ ในแนวทางคล้ายๆ กับเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน