รีวิวหนังสั้น Two Distant Strangers (Netflix) ไซไฟวนลูปกับประเด็นเสียดสี Black Lives Matter
Two Distant Strangers
สรุป
หนังสั้นจากกระแส Black Lives Matter ที่เล่าเรื่องได้สนุก ตลกร้ายเสียดสีความจริงอันอยุติธรรมได้อย่างเจ็บแสบ ด้วยการใช้พล็อตแนววนลูปเวลามากระทำกับคนดำซ้ำๆ ไม่จบไม่สิ้น จนเรื่องนี้ติดหนึ่งในหนังเข้าชิงออสการ์ 2021 ด้วย (ประกาศผล 25 เมษายน)
*อัพเดทเรื่องนี้ชนะรางวัลออสการ์ปี 2021 สาขาภาพยนตร์สั้นยอดเยี่ยม
Overall
8/10User Review
( vote)Pros
- แนวไซไฟวนลูปเวลาเสียดสีความจริงของปมปัญหาตำรวจผิวขาวเหยียดผิวได้อย่างเจ็บแสบ
- หนังสั้นแค่ครึ่งชั่วโมง
- ดีกรีเข้าชิงออสการ์หนังสั้นยอดเยี่ยมของปี 2021
Cons
- ช่วงตอนจบค่อนข้างยัดเยียดเหมารวมตำรวจผิวขาวมากไปเหมือนกัน
Two Distant Strangers หนึ่งวันอันตราย หนังสั้นความยาวครึ่งชั่วโมง ที่มีดีกรีเป็นหนึ่งในหนังเข้าชิงออสการ์ 2021 ซึ่งติดเลื่อนจากปัญหาโควิดมาประกาศรางวัลในวันที่ 25 เมษายน ตัวเรื่องจับเอาประเด็น Black Lives Matter (ชีวิตคนดำมีความสำคัญ) มาทำเป็นหนังสั้น ซึ่งประเด็นนี้เกิดขึ้นจากสถิติการจับกุมคนผิวดำโดยตำรวจผิวขาวมักใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ จนถึงแก่ความตาย โดยเฉพาะการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ จากการโดนเข่ากดคอทำให้หายใจไม่ออก และถึงแก่ความตาย กลายเป็นตัวจุดกระแสประท้วงจราจลไปทั่วอเมริกาในปีที่ผ่านมา ซึ่งตัวเรื่องนำมาจำลองดัดแปลงเป็นแนวไซไฟวนลูปเวลาสะท้อนและเสียดสีปัญหาในเรื่องนี้ได้อย่างน่าสนใจ
*อัพเดทเรื่องนี้ชนะรางวัลออสการ์ปี 2021 สาขาภาพยนตร์สั้นยอดเยี่ยม
หนังเริ่มเรื่องขึ้นที่ “คาร์เตอร์” หนุ่มผิวดำตื่นขึ้นมาบนเตียงของสาวแปลกหน้าผิวดำ และเขาก็บอกสาวเจ้าว่าจะกลับไปหาหมาที่บ้าน แต่ระหว่างทางเขากลับพบเจอกับ “เมิร์ก” ตำรวจผิวขาวที่เข้ามาหาเหตุตรวจค้นจับกุมเขาอย่างรุนแรงด้วยการรัดคอ กับประโยคที่ว่า ผมหายใจไม่ออกๆ ซ้ำๆ แบบเดียวกับที่จอร์จ ฟลอยด์ โดน จนขาดใจตาย แต่เขากลับตื่นขึ้นมาบนเตียงอีกครั้ง และก็พบเห็นเหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ เหมือนเช่นครั้งก่อน และสุดท้ายก็ไปจบลงที่ความตายในรูปแบบต่างๆ ไม่จบไม่สิ้นจากตำรวจคนเดิม
หนังหยิบเอาแนววนลูปเวลามาใช้กับเรื่องนี้ได้อย่างตรงจุดและขยี้ประเด็นปัญหานี้อย่างละเอียด โดยในการตายแต่ละครั้ง จะเห็นได้ว่าคาร์เตอร์พยายามหาทางออกทุกวิถีทางแล้วที่จะไม่เผชิญหน้ากับเมิร์ก แต่กลับพบว่าสุดท้ายก็พบเขาถูกตำรวจผิวขาวจ้องเล่นงานได้ทุกทาง สุดท้ายก็วนมาจุดจบเดิมอยู่ดีแบบไร้ซึ่งเหตุผลให้เข้าใจได้ ซึ่งหนังทำออกมาดูสนุกและเสียดสีตรงๆ ได้เจ็บจี๊ดเอามากๆ
หลังวนลูปมาหลายครั้ง ตัวเรื่องเริ่มหาทางออกใหม่ ที่อาจจะติดตลกร้ายนิดๆ ด้วยเมื่อเรื่องพลิกให้คาร์เตอร์ตัดสินใจคุยกับคาร์เตอร์และบอกตรงๆ ว่าเราทั้งคู่ติดอยู่ในวังวนเวลานี้ อาจจะเพราะความเกลียดชังสีผิวแบบเดจาวูหรืออย่างไรไม่ทราบ เรื่องจึงเผยให้เห็นอีกด้านของตำรวจผิวขาวที่เปิดอกพูดคุยกันอย่างหมดเปลือก ถึงการมาเป็นตำรวจ ความฝันอเมริกันดรีมในประเทศแห่งนี้ และมุมมองของคาร์เตอร์ที่บรรยายให้เมิร์กฟังว่าคนผิวดำเป้นพลเมืองชั้นสองในประเทศนี้ได้อย่างไร ท่ามกลางการพูดคุยถกเถียงแบบมีเหตุผลในช่วงหลังของเรื่องที่ทำได้อย่างน่าสนใจมาก
ตัวเรื่องมีบทสรุปซีนสุดท้ายของเรื่องถึงปมปัญหานี้ ที่เหมือนจะเห็นทางออกรำไร แต่กลับไปไม่ถึงสักที ซึ่งว่ากันตรงๆ อาจจะเพราะเป็นหนังสั้นเวลาน้อย ตัวเรื่องจึงเลือกจบแบบทิ้งไว้กลางทางของปัญหา แม้ก่อนจบช่วงบทสนทนายาวของทั้งคู่จะทำได้น่าประทับใจ แต่เรื่องก็ยังหวนกลับไปโหดร้ายกับตัวละครคาร์เตอร์อีกครั้ง ซึ่งจุดนี้แม้จะสะท้อนเรื่องจริงของตำรวจผิวขาวเหยียดผิว แต่ก็เหมือนการป้ายสีเหมารวมมากเกินไปเหมือนกัน แต่เราก็เข้าใจได้ เพราะถึงเรื่องจะตัดจบลงที่จุดไหนก็ตาม ในโลกจริงก็ยังคงมีจุดจบแบบนี้ตลอดไป เป็นเครื่องยืนยันความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับคนผิวดำในประเทศนี้อยู่ดีครับ
ตัวอย่าง Two Distant Strangers หนึ่งวันอันตราย
ถ้าใครชอบแนววนลูปเวลา ลองดูเรื่องนี้เพิ่มเติมได้ครับ The Map of Tiny Perfect Things เป็นหนังแนววัยรุ่นวนลูปเวลาที่น่ารักมากๆ