playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Uglies (Netflix) ไอเดียโลกไซไฟวัยรุ่นที่เซ็ตเรื่องได้ดีแล้ว แต่ตอนท้ายกลับทิ้งขว้างไปหมด

Uglies

Summary

หนังไซไฟวัยรุ่นที่รวมไอเดียโลกล่มสลายเข้ากับการค้นหาตัวตน โดยสร้างโลกที่มีการปกครองสุดล้ำให้เลือกสวยหล่อได้ตามใจเพื่อป้องกันการแบ่งแยกผู้คนทำให้สังคมวุ่นวาย หรืออิสระเสรียอมรับตัวตนที่มีข้อบกพร่องทางกายได้ แต่ต้องอยู่ในป่านอกเมืองทำมาหากินเอง หนังวางจุดนี้เล่าเรื่องได้ดีในครึ่งแรก มีฉากโชว์ CG บอร์ดลอยฟ้าที่สนุก แต่พอช่วงท้ายหนังเริ่มเป๋เขวกลายเป็นหนังแอ็กชั่นดาดๆ ทิ้งประเด็นลึกๆ ที่วางไว้ไปหมดจนน่าเสียดายมากครับ

Overall
5.5/10
5.5/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • หนังไซไฟวัยรุ่นที่ให้เลือกสวยหล่อตามใจได้
  • โครงสร้างโลกล่มสลายกับระบบปกครอง
  • ฉาก CG ทำได้ดี
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • ช่วงหลังทิ้งประเด็นดราม่าดีๆ ไปหมด
  • จบแบบง่ายๆ ไม่สมเหตุผล
  • นักแสดงสวยหล่ออยู่แล้วจนรู้สึกขัดกับธีมเรื่องอยู่บ้าง

Uglies อั๊กลี่ ภาพยนตร์ Original Netflix แนวไซไฟ ในโลกอนาคตที่บังคับให้ทุกคนต้องศัลยกรรมความงามเมื่ออายุ 16 ปี แทลลี่รอคอยที่จะได้เข้าร่วมกับสังคมอย่างใจจดใจจ่อ แต่เมื่อเพื่อนของเธอหนีไป แทลลี่ก็ออกเดินทางเพื่อช่วยเหลือเพื่อน การเดินทางครั้งนี้พลิกผันทุกสิ่งที่เธอคิดว่าต้องการ
Uglies (2024) on IMDb

 

 รีวิว Uglies อั๊กลี่ (ไม่สปอยล์)

หนังไซไฟของผู้กำกับ McG ที่ทำผลงานอย่าง Terminator Salvation กับ Charlie’s Angels โดยมีนักแสดงวัยรุ่นขาประจำเน็ตฟลิกซ์อย่าง Joey King มาเป็นนางเอก เรื่องจึงเป็นเหมือนส่วนผสมของของไซไฟอนาคตรวมกับการค้นหาตัวตนวัยรุ่น โดยมีพล็อตโลกดิสโทเปียมาเป็นจุดตั้งต้นเรื่องราวรวมทั้งหมดนี้เข้าด้วยกัน

หนังเริ่มต้นด้วยการเล่าถึงอารยธรรมโลกที่ล่มสลายเพราะพลังงานฟอสซิล ก่อนที่จะมีนักวิทยาศาสตร์คิดค้นพลังงานหมุนเวียนแบบใหม่จากดอกไม้สีขาวได้ แต่มนุษย์ที่เหลือก็ยังมีปัญหาความแตกต่างทางรูปร่างหน้าจนทำเกิดการแบ่งแยกชนชั้นเป็นปัญหาขึ้นมาอีกรอบ ผู้ปกครองจึงคิดทำให้ทุกคนเท่ากันโดยการแปลงโฉมทุกคนเมื่ออายุ 16 ให้เป็นคนสวยหล่อรูปงามกันหมดเพื่อตัดความแตกต่างนั้นออกไป และก็กลายเป็นเป้าหมายชีวิตของทุกคนในโลกนี้ แต่ก็ยังมีข่าวลือว่ามีชุมชนที่แตกต่างจากรูปร่างหน้าตาและให้อิสระเสรีกับความคิดของทุกคนอยู่ 

 

ไอเดียโครงสร้างโลกตั้งต้นได้ดีเลย หนังเล่นเรื่องปัญหารูปร่างหน้าของวัยรุ่นในปัจจุบันที่มักกังวลกันอยู่แล้ว และก็มักจะไปศัลยกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งจนเป็นเรื่องปกติ อย่างการดัดฟัน ทำจมูก หรือแม้แต่พวกแผลเป็นก็ต้องพยายามลบมันออกไป โดยหนังได้ทำให้ปัญหาพวกนี้กลายมาเป็นค่านิยมที่ปลูกฝังลึกไว้จนกลายเจตจำนงค์ต้องการศัลยกรรมแปลงโฉมทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้าใหม่ โดยสามารถเลือกได้ว่าจะเอาแบบไหนจนแทบจะเหมือนการเปลี่ยนอวัยวะ มีเพียงแค่ปัญหาเพียงอย่างเดียวคือตัวตนที่เปลี่ยนไปหลังรูปงามแล้วมักจะเสียตัวตนเดิมไปด้วยเช่นกัน (แต่ไม่สูญความจำ) ก่อนที่นางเอกจะพบโลกอีกด้านที่ทุกคนอยู่กับธรรมชาติ ยอมรับข้อบกพร่องทางร่างกายและให้อิสระการตัดสินใจเลือกกับเธอ แม้แต่จะกลับไปแปลงโฉมก็ได้ ซึ่งแน่นอนว่ามันก็เหมือนการเลือกระหว่างเผด็จการที่ได้ทุกอย่างสวยหรู หรีอประชาธิปไตยที่ต้องหัดเลือกเดินกันเอง 

ต้องยอมรับว่าไอเดียโครงสร้างโลกไซไฟในเรื่องนี้ใช้ได้ไม่เลวเลย แล้วก็ยังผสมรวมเข้ากับแนวหนังรักวัยรุ่นได้ค่อนข้างดีพอตัว อย่างการพบรักระหว่างผจญภัยกับชายหนุ่มบ้านๆ ที่ประทับใจเธอ หรือเพื่อนชายที่แปลงโฉมไปแล้วแต่เธอยังเชื่อว่าเขายังอยู่และกลับมาได้ เพียงแต่ว่าหนังกลับไม่ลงลึกถึงประเด็นพวกนี้อย่างลึกซึ้งหรือดิ่งลึกในการเล่าเรื่องดราม่าความสัมพันธ์ดีๆ ที่หนังก่อตัวไว้แล้ว แต่กลับทำลายมันลงไปในครึ่งหลังทั้งหมด ด้วยการเปลี่ยนแนวเป็นเน้นแอ็กชั่น มีตัวร้ายบอสใหญ่ มีศัตรูไล่ล่าพร้อมยานรบ เนื้อเรื่องช่วงนี้แทบเหมือนประธานาธิบดีสโนว์ใน the hunger games ที่สั่งทหารไฮเทคมาบุกไล่ล่าคนอยู่ในป่าที่ไม่มีทางสู้ แล้วฝ่ายนี้ก็บุกสู่โต้กลับไปยังเมืองหลวงไฮเทคแบบง่ายๆ เรื่องช่วงท้ายนี่แทบจะเละเทะทิ้งประเด็นดีๆ ในช่วงแรกไปหมด แม้จะมีความพยายามวกกลับมานิดๆ อย่างการที่เพื่อนชายนางเอกที่รูปงามไปแล้วเหมือนจะคิดได้เปลี่ยนใจ แต่ก็ถูกปัดทิ้งไปอีก แล้วก็จบลงแบบง่ายๆ ไม่สมเหตุผลกับการกระทำของนางเอกที่มีต่อผู้ปกครองเมือง อีกทั้งประเด็นการแปลงโฉมมนุษย์บนโลกก็ถูกปล่อยลอยแพไว้ไม่มีคำตอบให้ชัดเจนเลยว่าจะแก้ไขความเชื่อนี้ได้อย่างไร เหมือนคนเขียนบทคิดไม่สุดตั้งแต่แรก 

ส่วนงานโปรดักชั่นฉากไซไฟของเรื่องถือว่าทำได้ดีเลย อาจจะเพราะเป็นของถนัดของผู้กำกับอยู่แล้วก็ได้ หนังสร้างโลกดิสโทเปียที่ผู้คนอยู่กันแค่ในเมืองที่สวยหรู มีอุปกรณ์ของไฮเทคล้ำๆ ให้ใช้ โดยเฉพาะบอร์ดลอยฟ้าที่ลื่นไหลได้ถ้าด้านล่างมีเหล็ก หนังขายฉากการใช้บอร์ดนี้ทั้งเรื่องจนเหมือนเป็นพาหนะล้ำๆ ของฝ่ายตัวเอก แต่ฝ่ายศัตรูคือใช้ยานรบทั้งหมด ซึ่งหนังก็ทำฉากไล่ล่าออกมาได้น่าตื่นตาดีครับ 

 

ตัวนักแสดงในเรื่องจริงๆ คือเล่นได้ดีเลย โดยเฉพาะเพื่อนนางเอกทั้งชายและหญิงที่มีบทเด่นค่อนข้างเยอะ หรือตัวนางเอกโจอี้คิงเองก็ค่อนข้างเหมาะเพราะเธอก็ไม่ได้สวยมาก แต่หนังเหมือนวางจุดด้อยเธอผิดอย่างการบอกว่าเธอมีปมตาหยี ซึ่งก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีปมจริงๆ แบบนั้นเลย ซึ่งทั้งเรื่องตัวเอกหลักๆ ก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไรสักคนอยู่แล้ว แต่ก็พอเข้าใจว่าถ้าหาดาราไม่หล่อสวยมาเล่นน่าจะไม่ดึงดูดคนดูเข้าไปอีกครับ

 

สรุป หนังไซไฟวัยรุ่นที่รวมไอเดียโลกล่มสลายเข้ากับการค้นหาตัวตน โดยสร้างโลกที่มีการปกครองสุดล้ำให้เลือกสวยหล่อได้ตามใจเพื่อป้องกันการแบ่งแยกผู้คนทำให้สังคมวุ่นวาย หรืออิสระเสรียอมรับตัวตนที่มีข้อบกพร่องทางกายได้ แต่ต้องอยู่ในป่านอกเมืองทำมาหากินเอง หนังวางจุดนี้เล่าเรื่องได้ดีในครึ่งแรก มีฉากโชว์ CG บอร์ดลอยฟ้าที่สนุก แต่พอช่วงท้ายหนังเริ่มเป๋เขวกลายเป็นหนังแอ็กชั่นดาดๆ ทิ้งประเด็นลึกๆ ที่วางไว้ไปหมดจนน่าเสียดายมากครับ

รวมรีวิว Netflix คลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!