playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิวซีรีส์เกาหลี Vagabond เจาะแผนลับเครือข่ายนรก น่าดูหรือไม่? (อัพเดทจบ 16 ตอนพร้อมข่าว Vagabond 2)

สรุป

*อัพเดทหลังจากดูจบทั้งหมด 16 ตอน ปรับคะแนนเป็น 8/10
ซีรีส์ฟอร์มใหญ่ของเกาหลีที่โกอินเตอร์ ใช้นักแสดงต่างชาติจำนวนมาก มีฉากแอ็กชั่นไล่ล่าระเบิดตูมตามมากมาย หนังผูกปมมีความสนุกลุ้นระทึกได้ทุกตอน ซึ่งนี่เป็นข้อดีที่สุดของเรื่องนี้ที่น่าติดตามจริงๆ แต่ข้อเสียคือฉากแอ็กชั่นหลายครั้งโอเวอร์ขาดความสมจริงมากไป แต่ก็นับว่าเป็นซีรีส์เกาหลีที่นานๆ จะมีมาแบบนี้ ก็น่าดูน่าติดตามครับ

Overall
8/10
8/10
Sending
User Review
4.61 (28 votes)
Comments Rating 0 (0 reviews)

Pros

  • มีความสนุกลุ้นระทึกได้ทุกตอน
  • ลงทุนฉากแอ็กชั่นมากมายในโลเกชั่นต่างประเทศ
  • หนังเดินเรื่องเร็ว เฉลยเร็ว ไม่มีอืดอาด มีความสนุกลุ้นระทึกได้ทุกตอน
  • พระเอกเล่นสมบทบาทดีทั้งดราม่าและแอ็กชั่น
  • นางเอกน่ารักน่าดึงดูดให้ติดตาม

Cons

  • ตัวละครไม่สมบทบาทหลายตัว ออกแนวโอเวอร์แอ็กติ้งเยอะไป
  • ฉากแอ็กชั่นโอเวอร์เกินจริงเยอะมาก

รีวิว Vagabond เจาะแผนลับเครือข่ายนรก (คลิกรับชมได้ที่นี่) ซีรีส์ฟอร์มยักษ์ของเกาหลีที่ฉายร่วมกับ Netflix ในฐานะซีรีส์ออริจินัล หนังฉายพร้อมเกาหลีอาทิตย์ละ 2 ตอน คืนวันศุกร์กับเสาร์ เป็นเรื่องราวเกี่ยว “ชาดัลกอน” พระเอกที่มีอาชีพสตันท์แมนออกตามล่าหาตัวการที่ทำให้เครื่องบินตก ซึ่งเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายมีถึง 211 คน ไม่มีใครรอดชีวิต และหลานชายเขาเป็นหนึ่งในนั้น แต่แล้วพระเอกกลับได้เบาะแสจากวิดีโอที่ถ่ายไว้โดยหลายชายบนเครื่องก่อนตก พบว่ามีชายผู้รอดชีวิต 1 คนจากบนเครื่อง แต่ไม่มีในรายชื่อผู้โดยสารว่าเป็นใคร ยิ่งตามสืบเท่าไหร่เรื่องราวกลับยิ่งใหญ่โตเกินกว่าที่เขาคาดคิด

อัพเดทตอนจบพร้อมข่าว Vagabond 2 ล่าสุดท้ายบทความ

ความเห็นของเรา: STREAM IT หลังดูจบครบ 16 ตอนสนุกคุ้มค่าในกลุ่มซีรีส์แอ็กชั่นเกาหลี ปี 2019

Vagabond
Vagabond เจาะแผนลับเครือข่ายนรก

รีวิวส่วนแรกนี้จะเป็นการรีวิวจาก 8 ตอนแรก ซึ่งซีรีส์นี้มีทั้งหมด 16 ตอน (รีวิวต่อจาก 8 ตอนแรกจะอยู่ส่วนท้ายบทความรีวิว) ซึ่งจาก 8 ตอนแรกนี้เรื่องยังไม่ถึงช่วงพลิกผันไปแบบที่เปิดมาในตอนแรกว่าพระเอกดูเหมือนจะกลายเป็นนักฆ่าไปแล้ว ซึ่งเรื่องราวจะย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด ปูให้เห็นว่าพระเอกกับหลานชายมีชีวิตอยู่กันสองคน และเป็นชีวิตที่ไม่ได้อยู่ดีกินดีนัก เนื่องจากอาชีพสตันท์แมนของพระเอกก็ไม่ได้มีรายได้มากเท่าไหร่  แถมสุดท้ายก่อนหลายชายขึ้นเครื่องบิน ก็ยังมีดราม่าทะเลาะกันอีก ทำให้กลายเป็นปมใหญ่ในชีวิตที่ทำให้พระเอกก้าวต่อไปไม่ได้ ถ้าทำให้เรื่องนี้กระจ่าง

หนังอัดฉากแอ็กชั่นใส่ไว้ในเรื่องเยอะมากแทบทุกตอน โดยเฉพาะตอนแรกที่ใส่มาแบบจัดเต็ม พร้อมทั้งโชว์สกิลสตันท์แมน + ฟรีรันนิ่งไล่ตามคนร้ายไปทั่วเมืองในประเทศโมร็อกโก ซึ่งทำออกมาได้ระทึกน่าติดตาม แต่ออกแนวโม้เกินจริงมากไปสักหน่อย อย่างฉากที่พระเอกโดดลงจากตึก 3 ชั้นมาหยุดรถที่กำลังวิ่งด้วยความเร็วสูง แต่กลับแทบไม่เป็นอะไรลุกมาบู๊ต่อสดหน้าตาเฉย ซึ่งฉากแอ็กชั่นทั้งเรื่องถ้าไม่คำนึงถึงความสมจริงเอามันส์ก็พอจะหยวนๆ ไปได้ แต่ถ้ามองความสมจริงหนังกลายเป็นโอเวอร์มากเกินไปหลายอย่าง รวมถึงฝั่งตัวร้ายที่ดูแอ็กติ้งการแสดงเกินไปจนไม่รู้สึกน่าเชื่อถือสมบทบาท ซึ่งมีทั้งตัวร้ายฝรั่งและเกาหลีที่เหมือนทั้งเรื่องจะมีคนดีไม่กี่คนเท่านั้น เรียกว่าใส่มาเยอะเกินจนไม่ต้องเดาว่าใครผู้ร้าย เพราะบทแทบจะเล่นแบบเฉลยให้รู้ไปหมดว่าใครเลว แทบไม่ต้องเดาอะไรทั้งสิ้น

หนังมีส่วนของการสืบสวนตามหาหลักฐานต่างๆ เยอะ แม้ในส่วนเนื้อหาการสืบสวนพลิกเกมฝั่งผู้ร้ายกับฝั่งพระเอกจะดูสนุกดี แต่เหมือนหนังแค่ตั้งใจใส่มาเป็นพล็อตให้มีแอ็กชั่นหรือการไล่ล่าประกอบในตอนเพียงเท่านั้น จากนั้นก็จบ ทำลายและและปิดหลักฐานไปง่ายๆ ไม่ค่อยมีความรู้สึกว่าเรื่องราวมีกุมความลับอะไรไว้สักเท่าไหร่ แถมยังรีบเฉลยอะไรต่างๆ แบบไวทุกตอน แต่ก็อาจจะไม่ใช่ส่วนสำคัญของเรื่องราวหลัก เพราะนี่ยังเป็นแค่ช่วงแรกๆ เท่านั้น หนังอาจจะยังมีทีเด็ดอะไรมากกว่าเรื่องราวที่ปูในตอนแรก เพราะเปิดเรื่องมาพระเอกก็กลายเป็นนักฆ่าไปแล้ว ต่างจากที่ตอนปัจจุบันยังเป็นคนปกติธรรมดาอยู่

(อัพเดท ep7-8) ในส่วนของ EP7-8 จะเล่นเรื่องราวสลับไปมาระหว่างเกาหลีกับโมร็อคโก รวมถึงมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นทั้งสองประเทศนี้พร้อมกัน เป็นการแบ่งงานกับสืบเรื่องราวที่เริ่มใหญ่บานปลายขึ้นเรื่อยๆ ในจุดนี้ทำได้ลุ้นแบบเฉียดฉิวไปมาตลอด แต่ก็ติดที่ฉากแอ็กชั่นหลายฉากไม่สมจริงเอามากๆ อย่าง EP8 ที่ฝ่ายพระเอกโดนถล่มล้อมยิงด้วยอาวุธสงครามเป็นชุด แต่กลับใช้ปืนพกสู้ยิงสวนได้หน้าตาเฉย แถมรถที่ถูกยิงพรุนกระสุนกลับไม่ถูกคนในรถเลย ซึ่งจากที่ดูคนสร้างคงไม่ได้คิดว่าจะทำให้สมจริงอะไรมากอีกแล้ว เรียกว่าเป็นหนังเน้นมันส์ระห่ำไว้ก่อนก็พอ ซึ่งถ้าใครไม่สนในจุดนี้ก็ถือว่าหนังทำออกมาได้สนุกและสเกลใหญ่เกินกว่าซีรีส์ปกติมาก

"Vagabond
Vagabond เจาะแผนลับเครือข่ายนรก

พระเอก ลีซึงกิ (Lee Seung-Gi)  รับบทชาดัลกอนเล่นได้ดีสมบทบาททั้งแอ็กชั่นและดราม่าที่ดูเป็นคนเก็บกดรุนแรงตลอดเรื่อง หลังเสียหลานชายไปจากเหตุการณ์เครื่องบินตก หลังช่วงกลางเรื่องไปเขาก็เริ่มเปลี่ยนโหมดมาเป็นไว้ใจแฮรี และก็เริ่มเข้าโทนเรื่องความรักที่มีแฮรีเป็นศูนย์กลาง ซึ่งบุคคลิกของซาดัลกอนถูกวางไว้ให้เป็นคนมุทะลุลุยๆ แต่พอเล่นบทหวานหน่อยก็มีเสน่ห์มากไม่แพ้กัน (ออกจะขำๆ หน่อยที่เปลี่ยนลุคฉับพลันในช่วงหลัง)

แบซูจี (Bae Suzy) รับบทแฮรีนางเอกของเรื่องที่เป็นสายลับหน้าตาสวยใส แถมบทก็วางไว้ให้เธอดูหน่อมแหน้มไม่ได้มีความรู้สึกเป็นสายลับมืออาชีพเลย ซึ่งในเรื่องก็มีการบอกไว้ว่าเธอแค่อยากเข้ามาทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว แต่อะไรหลายๆ อย่างก็ดูไม่เหมาะกับเรื่องราวที่หนังวางโทนเรื่องไว้ซีเรียสๆ แบบนี้เลย หลายฉากดูเหมือนหนังตั้งใจพยายามให้เธอดูแบ้วๆ โก๊ะๆ ตามสูตรหนังเกาหลี เพื่อให้มีมุมของความรักเข้ามาในเรื่องตามสูตรรักสาวเส้าระหว่างพระเอกกับพระรองของหนังเกาหลีให้ได้ แต่ ณ ตอนนี้ EP 1-8 ดูยังไงก็รู้สึกว่าเป็นเนื้อหาส่วนเกินในเรื่องที่ไม่ได้จำเป็นสักเท่าไหร่ แต่ในพาร์ทความรักนี้ก็อาจจะปูไว้ในส่วนที่เกี่ยวของกับพระเอกหลังกลายเป็นนักฆ่าในตอนต้นเรื่อง แล้วพบว่าเป้าหมายของเขากลายเป็นแฮรีนั่นเอง แต่ไม่ว่าบทจะเป็นยังไงความน่ารักของนางเอกก็กินขาด 

Vagabond
แทอุง

ชินซองรก (Shin Sung Rok)  รับบทแทอุงหัวหน้าของแฮรีที่ดูเหมือนจะเกลียดนางซะเต็มประดาแบบไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดนัก (น่าจะวางปมไว้ตามสูตรหนังเกาหลี) แรกๆ แทอุงจะไม่มีบทบาทนัก แต่หลังจากช่วงหลังไปเขาจะกลายเป็นคนสำคัญที่ช่วยตามจับคนร้ายแข่งกับชาดัลกอน รวมถึงเป็นคู่แข่งทางหัวใจกับซาดัลกอนหลังแฮรีเผยว่าหลงรักเขา แต่เขากลับไม่สนใจเธอเลยแม้แต่น้อย แต่ถึงยังไงบทของแทอุงก็เป็นแค่พระรอง แต่ก็ถือว่าเป็นพระรองที่มีบทบาทเด่นแตกต่างต่างจากซีรีส์เกาหลีทั่วไปที่มักจะให้พระรองแอบหลงรักคอยช่วยนางเอกไปทุกเรื่อง (แต่ไม่เคยสมหวังตามสูตร)

ซีรีส์เรื่องนี้มีเสียงพากษ์ไทยให้ด้วย ซึ่งโดยรวมๆ ก็โอเคทุกตัวละคร ถ้าไม่ติดว่าเสียงพากษ์มาจากสายการ์ตูนที่ฟังแล้วอาจจะทำให้เรื่องดูเบาลงขำๆ ส่วนตัวแนะนำเสียงเกาหลีต้นฉบับไปเลยดีกว่า เพราะเรื่องราวซีเรียสเครียดตลอดเวลา ได้ฟังโทนเสียงที่ดารานักแสดงต้องโชว์พลังตรงนี้ร่วมกับเรื่องราวครับ

นี่เป็นซีรีส์ฟอร์มใหญ่ของเกาหลีที่โกอินเตอร์ ใช้นักแสดงต่างชาติจำนวนมาก มีฉากแอ็กชั่นไล่ล่าระเบิดตูมตามมากมายในโมร็อคโก  ซึ่งก็ดูแปลกตาดี มีความสนุกลุ้นระทึกได้ทุกตอน ซึ่งนี่เป็นข้อดีที่สุดของเรื่องนี้ที่น่าติดตามจริงๆ แต่ข้อเสียคือหนังดูพยายามใส่เรื่องราวใหญ่โตลามไประดับโลกจนดูโอเวอร์เกินจริงมากไปหลายอย่าง และก็พยายามยัดให้มีเรื่องราวความรักกุ๊กกิ๊กแทรกลงไปตามสูตรหนังเกาหลีให้ได้ ก็เลยกลายเป็นหนังที่ไม่รู้สึกแปลกใหม่อะไร เรียกว่าเดินตามสูตรหนังเกาหลีที่ผ่านมาทั้งนั้นถ้าไม่ใช่คอซีรีส์เกาหลี แนะนำให้รอจนจบแล้วค่อยดูรีวิวเต็มอีกทีก็ได้ เพราะหนังแอ็กชั่นเกาหลีหลายเรื่องมักขึ้นต้นด้วยพล็อตดีมากๆ แต่กลับจบแบบหาทางปิดไม่ลง… 

คะแนนรีวิว Vagabond หลังจบ 8 EP ขอให้ 7.5 ครับ


รีวิวอัพเดทตอน 9-10 

หนังเขียนบทให้เรื่องราวยุ่งเหยิงขึ้นกว่าเดิมมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อที่จะเปิดเรื่องไปยังระดับโลกที่ตอนต้นเรื่องได้เปิดไว้ว่า พระเอกกลายมาเป็นมือสังหาร ความมันส์ยังคงมีอยู่เหมือนเดิม ทีมสร้างเก่งที่เขียนบทให้มีฉากบู๊ระห่ำยัดลงไปในทุกตอนจนได้ ซึ่งสองตอนนี้จะเริ่มเข้าสู่เรื่องราวช่วงหลังตามชื่อเรื่อง Vagabond แล้วว่าเป็นรหัสลับไม้ตายสุดท้ายของฝ่ายพระเอก

แต่ข้อเสียที่เห็นได้ชัดคือตอนนี้เนื้อเรื่องเริ่มไม่เน้นสมจริงอะไรมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ขนาดแบบที่ว่าดูไปสงสัยไปว่าคนเขียนบทละเลยการอธิบาย หรือความสมเหตุผลอะไรได้ขนาดนี้ อย่างฉากในสถาณฑูตซึ่งกลับมีแค่พวกพระเอก แถมหลายๆ อย่างดูรอดมาแบบบังเอิญเหมาะเจาะมากเกิน เอาว่าตอนนี้คงไม่ต้องถามหาความจริงกับเรื่องนี้แล้ว เพราะนี่เป็นหนังที่วางฉากแอ็กชั่นเอามันส์อย่างเดียว

ในสองตอนนี้เริ่มปูเรื่องราวความรักของพระเอกนางเอก แถมด้วย “แทอุง” ในบทพระรองก็เริ่มสนใจนางเอก แต่พระรองเกาหลีก็ตามสูตรน่าจะวางไว้เพื่อให้เสียสละในตอนหลังจนได้ ยังไงซีรีส์เกาหลีไม่เคยพลิกให้พระรองสมหวังอยู่แล้ว


รีวิวอัพเดทตอน 11-12

เรื่องราวกลับมาอยู่ในเกาหลีทั้งหมด ในสองตอน 11-12 หนังเริ่มกลับมายืนยันว่าตัวใหญ่จริงๆ ของเรื่องราวก็คือรัฐบาลเกาหลี ซึ่งดูยังไงทีมพระเอกก็ไม่น่าจะสู้กับอำนาจมืดขนาดนี้ได้ แต่หนังก็ให้พระเอกมีไพ่ตายเป็นพยานสำคัญที่ถ้าพามาขึ้นศาลได้ก็อาจจะปิดเกมนี้ แต่เนื้อเรื่องพึ่งมาถึงแค่ช่วงกลางเรื่อง ก็คาดคะเนได้ว่าคงไม่สำเร็จอีกตามเคย และก็น่าจะเริ่มเข้าสู่ช่วงการกลับไปยังตอนเริ่มแรกที่พระเอกกลายมาเป็นนักฆ่า ที่อยู่คนละฝ่ายกับนางเอก ซึ่งนี่เป็นปมที่ชวนให้คนดูติดตามมาตลอดทั้งเรื่องถึงตอนนี้ 


รีวิวอัพเดทตอน 13

เรื่องราวในศาลซึ่งพระเอกนางเอกนำตัวนักบินมาให้การยืนยันมัดตัวจอห์นแอนมาร์คจนได้ รวมถึงพาดพิงพัวพันไปถึงรัฐบาล ซึ่งก็ดูจะยอมจบเรื่อง ปิดเกมไม่ให้พัวพันมากกว่านี้แล้ว แต่อะไรที่ว่าจะจบก็ยังไม่จบดี เพราะการกลับมาของนักฆ่าที่ทำเครื่องบินตกในตอนแรกอีกครั้ง 


รีวิวอัพเดทตอน 14-16 สปอยล์ฉากจบก่อนไปต่อที่ซีซั่น 2

*อัพเดทหลังจากดูจบทั้งหมด 16 ตอน ปรับคะแนนเป็น 8/10 

หลังเจโรมกลับมาไล่เก็บกวาดฆ่าพยานที่เกี่ยวกับเครื่องบินตกไปทีละคน จนสุดท้ายก็ได้รู้ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังคือ “ซามาเอล” ตั้งแต่แรก โดยชักใยซ้อนแผนเจสซิก้าเรื่องเครื่องบินตก เพื่อที่จะให้นายกรัฐมนตรีขึ้นดำรงตำแหน่งแทนประธานาธิบดีแทนคนเก่าที่ถูกหลอกใช้เช่นกัน โดยเครื่องการซื้อเครื่องบินรบเป็นแค่แผนบังหน้าของไดนามิกซิสเต็มที่มีเอ็ดเวิร์ดเป็นตัวการใหญ่ รวมถึงเป็นซามาเอลที่ลึกลับด้วย โดยใช้เจโรมที่อยู่กับหน่วยทหารรับจ้างแบล็คซันของอเมริกามาทำงานนี้ ซึ่งก็รวมถึงการฆ่าชาดัลกอนด้วยเช่นกัน

คิมอูกีกับชาดีลกอนพลาดท่าถูกจับมาทั้งคู่ แล้วถูกจับมัดในโกดังวางเพลิงระเบิดซ้ำเพื่อให้ตาย แต่กลับรอดมาได้ด้วยการช่วยเหลือของลิลลี่ นักฆ่าที่ถูกจ้างมาฆ่าเขา และข่าวที่ทั้งคู่ตายก็แพร่ไปทั่ว แม้แต่ NIS ก็คิดว่าชาดัลกอนตาย แฮรีโกรธแค้นในเรื่องจึงสืบหาตัวการจัดฉากฆาตกรรม โดยแฝงเข้าไปในคุกเพื่อหาโอซังมีที่เป็นเบาะแสสุดท้าย และได้รู้ความจริงว่าเอ็ดเวิร์ดคือซามาเอล จึงวางแผนตบตากับเจสซิก้าจนเอ็ดเวิร์ดหลงเชื่อวางมือปล่อยให้รอดมาได้ และเจสซิก้าก็ดึงแฮรีไปร่วมงานล็อบบี้ยิสต์ใหม่เพื่อหวังกลับมาโค่นเอ็ดเวิร์ดในอนาคตอีกครั้ง

ชาดัลกอนตัดสินใจไม่บอกใครว่าเขายังมีชีวิต เพื่อความปลอดภัยของทุกคน ก่อนที่จะติดต่อประธานาธิบดีคนเก่าเพื่อขอเงินสนับสนุนการช่วยเหลือแฝงตัวเข้าองค์กรแบล็คซัน และก็กลายเป็นทหารรับจ้างปฎิบัติภารกิจไปทั่วโลก ผ่านการช่วยเหลือของลิลลี่ (ซึ่งตอนนี้เป็นทีมเดียวกันแล้ว) โดยเป้าหมายคือตามหาเจโรมและจัดการกับตัวการใหญ่ซามาเอล ซึ่งสุดท้ายเขาก็ได้เจอกับเจโรม และบีบให้เจโรมสารภาพข้อมูลเบื้องหลังก่อนตายด้วยอาวุธชีวะภาพอย่างทรมาน จนได้รู้ว่ามีองค์ลับ “แอ็กซิส” ที่เป็นแหล่งทุนใหญ่และอยู่เบื้องหลังซามาเอลอีกที

เรื่องราวตัดกลับมาปัจจุบันฉากสไนเปอร์ตอนแรกที่ราชอาณาจักร “คิเรีย” ของแอฟริกาเหนือ แฮรีที่กลายมาเป็นล็อบบี้ยิสต์กำลังเดินทางไปยังวังเพื่อพบเจ้าชาย ก่อนจะโดนสกัดจากทีมของชาดัลกอนที่มาเพื่อหวังฆ่าล็อบบี้ยิสต์ตัดตอนการประมูลบ่อน้ำมัน ที่จะเป็นขุมทรัพย์ช่วยให้ประธานาธิบดีรักษาการที่ซามาเอลหนุนหลังได้คะแนนเสียงขึ้นนำในการลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีได้ ซึ่งเอ็ดเวิร์ดก็ได้ช่วยเหลือดึง ผอ.มิน กับเลขายุน มาร่วมงานสกปรกอีกครั้ง

หลังชาดัลกอนพบว่าล็อบบี้ยิสต์คนนั้นเป็นแฮรี เขากลับตัดสินยิงมือปืนสไนเปอร์ที่ทำงานร่วมกันทิ้ง ปล่อยให้แฮรีรอดไป แต่ตัวเขาเองก็ต้องกลายเป็นคนร่อนเร่ (Vagabond) เพราะหักหลังกลุ่มทหารรับจ้างที่แฝงตัวเข้าไปเช่นกัน

ความเห็นของเรา: STREAM IT หลังดูจบครบ 16 ตอนสนุกคุ้มค่าในกลุ่มซีรีส์แอ็กชั่นเกาหลี ปี 2019

ข่าวอัพเดท วากาบอนด์ ซีซั่น 2 (24/11/2019)

เรื่องราวจบลงก่อนไปต่อที่ซีซั่น 2 ซึ่งทางผู้ผลิต บริษัทโปรดักชั่น Celltrion Entertainment  มีการเตรียมการวางแผนทำไว้ตั้งแต่ตอนแรก โดยมีบทเตรียมการไว้แล้ว แต่ยังต้องรอพิจารณาอนุมัติกับเช็คคิวถ่ายทำของนักแสดงทั้งหมดเพื่อยืนยันอีกครั้ง 


ตัวอย่างซับไทย Vagabond เจาะแผนลับเครือข่ายนรก

ติดตามรีวิวหนังเรื่องอื่นๆ ได้ที่นี่

 

Leave a comment
รีวิว Black Doves พิราบเงา (Netflix) ซีรีส์สายลับที่ตัวละครมีเสน่ห์ซับซ้อนคมคายสุดๆ