playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Vijay 69 (Netflix) หนังกีฬาดราม่าตลกขำๆ แต่สะท้อนสังคมระหว่างวัยได้ดีเกินคาดมาก

Vijay 69

Summary

หนังกีฬาดราม่าตลกที่เล่าเรื่องคุณปู่วัย 69 ปีอยากลงแข่งไตรกีฬาท้าทายเพื่อนที่ดูเหมือนขำๆ แต่เรื่องกลับเล่าแบบจริงจังลงลึกถึงปมต่างๆ เกินกว่าบทตลกขำๆ ในเรื่องไปซะอีก ทั้งเรื่อง ปัญหาผู้สูงอายุถูกด้อยค่าจากสังคม ช่องว่างระหว่างวัยในครอบครัว ความสัมพันธ์ดีๆ ที่ก่อเกิดได้กับเด็ก Gen Z  และปมความฝันที่ทุกคนไม่ว่าอายุมากแค่ไหนก็ไม่ควรทิ้งไป ซึ่งหนังก็ใส่เรื่องหนทางการเตรียมตัวแข่งไตรกีฬามาอย่างเต็มที่ในทุกมิติความเป็นไปได้ที่จะทำให้คุณปู่ฝ่าด่านนี้ไปได้ ทำให้เรื่องมีอุปสรรคมากมายขวางอยู่และดูลุ้นสนุกอยู่ตลอดเวลา จนหนังดูลึกมีมิติมากกว่าแค่หนังตลกมากมายน่าประทับใจมากจริงๆ ครับ แนะนำเลยว่าไม่ควรพลาด!

Overall
8.5/10
8.5/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • หนังดราม่ากีฬาตลกๆ ที่สะท้อนสังคมหลายอย่าง
  • ลงรายละเอียดการแข่งกีฬาจริงจัง
  • เรื่องราวสนุก ตลก มีลุ้นตลอด
  • บทของตัวละครมีมิติ นักแสดงมีเสน่ห์

Cons

  • ไม่มีพากย์ไทย
  • ช่วงรายละเอียดตอนวิ่งน้อยกว่าอย่างอื่นมาก

ADBRO

Vijay 69 ภาพยนตร์อินเดีย Original Netflix แนวดราม่าตลกกีฬา เรื่องราวของคุณปู่วัย 69 ที่ตั้งใจลงแข่งไตรกีฬาเพื่อทำลายสถิติคนอายุมากสุด ท่ามกลางเสียงหัวเราะของคนในชุมชนในตอนแรกกลับกลายเป็นประสบการณ์การดีๆ ร่วมกันอย่างน่าประทับใจ

Vijay 69 (2024) on IMDb

รีวิว Vijay 69

หนังอินเดียจากผู้กำกับหน้าใหม่ Akshay Roy ที่เขาเขียนบทเรื่องนี้เองด้วย แต่มันน่าทึ่งมากเมื่อเรื่องราวที่ดูเหมือนเรียบง่ายอย่างผู้สูงอายุไล่ตามความฝันแข่งไตรกีฬา ด้วยเหตุผลเพียงแค่ต้องการเอาชนะเพื่อนที่เข้าใจผิดว่าเขาไม่มีอะไรดีเด่นในชีวิตก็เลยต้องหาอะไรท้าทายมาทำ แต่หนังต่อยอดจากเรื่องราวโม้ขิงตลกเล็กๆ ของวงคนแก่ให้กลายมาเป็นหนังดราม่ากีฬาที่หยิบจับปมปัญหาหลายเรื่องในสังคมมารวมกันได้เป็นอย่างดีจนเกินกว่าที่คิดไปมาก 

อย่างแรกนี่เป็นหนังที่เล่าเรื่องถึง ‘ปัญหาผู้สูงอายุถูกด้อยค่าจากสังคม’ เมื่อลูกหลานมักมองว่าพ่อแม่ที่อายุเยอะแล้วก็ไม่ต้องทำอะไรอยู่บ้านไปเฉยๆ แต่พอพวกเขาอยากลุกออกไปทำอะไรก็โดนห้ามไว้ หรือแม้แต่สังคมรอบข้างก็ตำหนิติติงหัวเราะเยาะเมื่อ ‘วิเจย์’ ตัวเอกของเรื่องไปบอกทุกคนว่าจะลงแข่งไตรกีฬา ซึ่งหนังก็หาทางตีโจทย์นี้ให้มีน้ำหนักด้วยการให้ตัวละครนี้เคยเป็นโค้ชว่ายน้ำและนักกีฬาแข่งทีมชาติมาก่อนสมัยหนุ่มๆ แต่ต้องหยุดไปมาดูแลเลี้ยงดูลูกสาวและภรรยาที่ป่วยเป็นมะเร็งจนเขาหมดทางกลับไปทำตามฝันที่ในอดีต ซึ่งเป็นปมที่มีน้ำหนักพอทำให้การลงแข่งครั้งนี้มีความฝันรวมอยู่ด้วยแม้ว่าจะอายุแค่ไหนก็ไม่ควรเลิกฝัน โดยหนังก็ใส่รายละเอียดให้กับตัวละครครอบครัวและคนในชุมชนที่เคยหัวเราะเขาให้กลายมาเป็นมิตรช่วยเหลือการแข่งนี้คนละอย่างได้น่าประทับใจ อย่างเพื่อนที่เป็นหมอก็หาโค้ชการกีฬาให้ วัยรุ่นติกต็อกเกอร์ที่ถ่ายคลิปเขาเพื่อหายอดขำๆ กลายมาเป็นคนคิดตามคอยช่วยอัพเรื่องราวเขาสู่โลกภายนอก ซึ่งนี่เป็นหนังที่ดูจบแล้วได้มุมมองใหม่กับผู้สูงอายุว่าจริงๆ แล้วเราไม่ควรไปห้ามสิ่งที่พวกเขาอยากทำ เพียงแต่แค่ช่วยดูแลให้ดีก็พอ เพราะสิ่งนี้เหมือนเป็นยาบำรุงจิตใจผู้สูงอายุที่หาจากที่ไหนไม่ได้เพราะสังคมรอบข้างไปห้ามไว้นั่นเอง 

 

หนังยังใส่ปมปัญหาเรื่องช่องว่างระหว่างวัยเข้าไปอีก เมื่อลูกสาวที่กลับมาเยี่ยมพ่อพยายามห้ามปรามพ่ออยู่ตลอด จากลูกสาวที่เคยเป็นเด็กตัวน้อยในสายตาพ่อแต่มาวันนี้กลับเป็นเหมือนแม่ที่มาควบคุมพ่อแทน จนกลายเป็นปัญหาครอบครัวที่ต้องหาทางแก้ด้วยความเข้าใจกันมากกว่าแค่มุมมองของตัวเองทั้งคู่ นอกจากนี้ยังมีตัวละคร ‘อาทิตยา’ เด็กหนุ่มอายุ 18 ปีที่ลงแข่งครั้งนี้ด้วยการผลักดันของพ่อเพื่อให้เขาทำลายสถิติคนอายุน้อยสุดที่ผ่านไตรกีฬาได้ ซึ่งเรื่องก็วางปมให้เขากลายเป็นเด็กที่ถูกพ่อเลี้ยงดูมาแบบกดขี่จนมีปัญหาในตัวเอง การได้มาเจอวิเจย์กลับกลายเป็นการพบเพื่อนต่างวัยที่แตกต่าง ซึ่งหนังสร้างความสัมพันธ์ของทั้งคู่ได้น่าประทับใจมากจนเป็นแมสเซจหลักสำคัญของเรื่องในช่วงหลังไปจนตอนจบเลย 

ในส่วนของกีฬาเองหนังก็ยังเข้มข้นด้วยการพยายามทำให้ตัวละครวิเจย์สามารถเข้าแข่งไตรกีฬาได้จริงๆ ด้วยการต้องผ่านกฏการตรวจสอบทางการแพทย์ก่อน ซึ่งหนังก็ทำเรื่องราวการตรวจนี้ให้ตลก แต่ก็เป็นหลักการจริงๆ ของการแข่งเพื่อป้องกันความผิดพลาดด้วย หนังไล่อุดช่องโหว่เรื่องอายุกับความเป็นไปได้ให้หมดด้วยการให้วิเจย์มีโค้ชนักวิทยาศาสตร์การกีฬามาช่วยออกแบบอาหาร ขั้นตอนการฝึกดูแลตัวอย่างดี รวมถึงขั้นตอนการหาสปอนเซอร์มาช่วยสนับสนุนอุปกรณ์การแข่งที่มีราคาแพงมากของวงการนี้ อย่างจักรยานที่คัสตอมเฉพาะตัวของนักกีฬาเอง และยังสอดแทรกเทคนิคกีฬาต่างๆ เข้ามาทำให้เป็นหนังที่ดูแล้วตั้งใจเก็บรายละเอียดพวกนี้ได้ดีเกินกว่าจะเป็นแค่หนังตลกดราม่า และยังเอามาเป็นปมในการเล่าเรื่องที่สนุกแบบหนังกีฬาจริงๆ ด้วย โดยเฉพาะตอนจบนี่ลุ้นว่าหนังจะหักมุมว่าวิเจย์จะรอดมั้ยเพราะดูแล้วเหนื่อยแทบขาดใจตายกันจริงๆ ครับ

 

แต่ถึงหนังจะมีปมดราม่ากับกีฬาเป็นหลัก แต่ก็ไม่ได้ถูกเล่าออกมาเครียดเลยแม้แต่น้อย หนังเล่าเรื่องด้วยการแทรกมุกตลกเข้ามาอย่างเป็นธรรมชาติตลอดเวลา ด้วยการให้วิเจย์เป็นคุณปู่ปากร้ายชอบโวยวายในสายตาคนอื่น แต่สิ่งนี้จริงๆ แล้วก็เป็นแค่คำพูดปกติของคนในยุคเก่าเบบี้บูมที่ส่วนใหญ่คงมักเสียงดังเอะอะโวยวายเหมือนกันทั่วโลก (โดยเฉพาะแถบเอเชียด้วย) ซึ่งหนังก็นำจุดนี้มาใช้เป็นมุกตลกดูโอเวอร์แอกติ้งมากขึ้นหน่อยให้ดูน่ารักปนน่ารำคาญนิดๆ โดยเฉพาะเวลาพูดคุยกับกลุ่มเพื่อนรุ่นเดียวกัน และก็นำเรื่องปากร้ายของเขามาเป็นดราม่าที่ตั้งใจหาแสงโดยการทะเลาะกับอาทิตยาแบบตลกๆ ซึ่งก็มีคำด่าของผู้ใหญ่ด่าเด็กกับเด็กด่าผู้ใหญ่แบบฮาๆ น่ารักไปอีกแบบเหมือนกัน 

ตัวนักแสดงเองก็เก่งมาก anupam kher ในบทวิเจย์ตัวจริงก็อายุ 69 จริงๆ แต่ก็ต้องมาเล่นบทที่ต้องแบกสังขารมาเล่นแบบเหนื่อยจริงจัง แม้จะรู้ว่าแค่แสดงหนังเป็นฉากๆ ก็เถอะ เขาเล่นด้วยอารมณ์ตัวละครนี้จริงๆ ไม่ได้ใช้แสตนอินด์เพราะกีฬาแต่ละอย่างก็เปิดหน้าถ่ายใกล้ๆ หมด  Mihir Ahuja ในบทอาทิตยาคู่แข่งต่างวัยที่กลายมาเป็นเพื่อนก็ดูมีเสน่ห์น่ารักแบบเด็กๆ ซึ่งในบทนี้เองยังแทรกเรื่องราวความรักต่างวัยกับสาวอายุ 23 ที่พ่อห้ามคบลงไปอีก ซึ่งต้องนับถือคนเขียนบทนี้เลยว่าแตกเล้กแตกน้อยทำให้ตัวละครเหล่านี้ดูมีมิติความเป็นมนุษย์และทันสมัยมากอีกด้วย (ในอินเดียก็มีปมผู้ชายห้ามคบผู้หญิงอายุเยอะกว่ามากเหมือนกัน) 

 

สรุป หนังกีฬาดราม่าตลกที่เล่าเรื่องคุณปู่วัย 69 ปีอยากลงแข่งไตรกีฬาท้าทายเพื่อนที่ดูเหมือนขำๆ แต่เรื่องกลับเล่าแบบจริงจังลงลึกถึงปมต่างๆ เกินกว่าบทตลกขำๆ ในเรื่องไปซะอีก ทั้งเรื่อง ปัญหาผู้สูงอายุถูกด้อยค่าจากสังคม ช่องว่างระหว่างวัยในครอบครัว ความสัมพันธ์ดีๆ ที่ก่อเกิดได้กับเด็ก Gen Z  และปมความฝันที่ทุกคนไม่ว่าอายุมากแค่ไหนก็ไม่ควรทิ้งไป ซึ่งหนังก็ใส่เรื่องหนทางการเตรียมตัวแข่งไตรกีฬามาอย่างเต็มที่ในทุกมิติความเป็นไปได้ที่จะทำให้คุณปู่ฝ่าด่านนี้ไปได้ ทำให้เรื่องมีอุปสรรคมากมายขวางอยู่และดูลุ้นสนุกอยู่ตลอดเวลา จนหนังดูลึกมีมิติมากกว่าแค่หนังตลกมากมายจนน่าประทับใจมากจริงๆ ครับ แนะนำเลยว่าไม่ควรพลาด!

รวมรีวิว Netflix คลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!